ฉันเวียนหัวมากบอกเลย ฉันกินค็อกเทลไป สิบเอ็ดแก้ว ไม่รู้เลยว่าคืนนี้จะได้เข้าห้องน้ำกี่รอบ ทรมานแน่ ๆ
“หวาน… บ้านหวานไปทางไหนเนี่ย”
ฉันปรือตาหนัก ๆ หันไปมองคนขับรถให้ อ้อ... หมอนี่เอง
“ในเนวิเกเตอร์รถค่ะหมอ เลือกว่าบ้าน” ฉันเอนเบาะนอนลง หมอเขาก็กดหาแผนที่ก่อนจะใช้มันนำทาง
ฉันทำแกล้งหลับ ในใจอยากรู้ว่าหมอจะพาฉันไปไหน เขาจะดีกับฉัน
จริงไหม
จริง เขาพาฉันมาถึงหน้าบ้านแล้ว เขากำลังจอดรถ
“ถึงบ้านแล้วตัวแสบ ตื่น...” ฉันทำเป็นไม่ตอบ
หมอเอามือนุ่ม ๆ มาแตะแขนฉันเบา ๆ
“หวาน...” พอฉันไม่ขานรับเขาก็ลงจากรถ เดินมาเปิดประตูฝั่งฉัน
มือนุ่ม ๆ ดึงแขนฉันพาดคอ ก่อนจะค่อย ๆ ช้อนตัวฉันขึ้น เขาอุ้มฉันตายจริง
แขนเขาไม่หักเหรอเนี่ย
“อ่าวคุณหมอ เฮ้อ... ยัยน้ำหวาน! นี่จริง ๆ เลย” ฉันได้ยินเสียงแม่บ่น
“สวัสดีครับแม่ ห้องน้องไปทางไหนครับ” หมอหันซ้ายขวา แขนอีกข้างฉันแกว่งไปมา
“ข้างบนเลยลูก” คนที่ตอบไม่ใช่แม่ฉัน แต่เป็นพ่อ? พ่อฉันพูดกับ
หมอนาย!
หมอเดินขึ้นมาบนบ้าน ตามหลังเสียงเท้าเร็ว ๆ ของแม่ฉัน อยู่ ๆ ฉันก็ถูกวางลงบนเตียงเบา ๆ กลิ่นนี้ ห้องฉันเองล่ะ
มีคนกำลังถอดรองเท้าให้ และดึงผ้าห่ม มาห่มให้
“เละเทะเลยนะเนี่ย” เสียงแม่ฉันดังขึ้นไกล ๆ เดี๋ยว... อย่าบอกนะ ว่าหมอนายเป็นคนถอดรองเท้าให้ฉัน? รวมถึงตอนนี้เขากำลังถอดนาฬิกาออกจากข้อมือฉันด้วย
“คงเครียดครับ น่าจะดีขึ้นแล้ว”
“เรื่องผู้ชายคนนั้นตามเคย แม่เบื่อจริง ๆ เฮ้อ... ขอบคุณมากนะหมอ”
แม่ฉันถอนหายใจรำคาญ ก่อนจะขอบคุณหมอนาย
ทุกอย่างเงียบอยู่ชั่วครู่...
“ฝันดีนะตัวแสบ” เขาลูบหัวฉันเบา ๆ และไม่นานฉันก็ได้ยินเสียงปิดประตู
ฉันรีบเปิดตา สำรวจร่างกายตัวเองทันที รองเท้าถูกถอดวางไว้ข้างเตียง นาฬิกาถูกวางไว้ที่โต๊ะคอม ฉันห่มผ้ามิดชิดราวกับหนาวเท่าขั้วโลกเหนือ
เขาไม่ล่วงเกินฉันเลย ทั้งที่เขามีโอกาส เสียดาย...
ฉันดีดตัวไปมองที่หน้าต่าง เห็นพ่อฉันกับหมอนายเดินด้วยกัน พ่อคงไปส่งเขาขึ้นแท็กซี่สินะ
อย่างน้อยก็มีคนที่ดีกับฉันอีกหนึ่งคน ซึ่งตอนนี้ฉันอยู่กับเขาแล้วสบายใจที่สุด ขอบคุณค่ะหมอ ขอบคุณคุณจริง ๆ
ฉันเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ น้ำก็ไม่ได้อาบ อีกสามวันฉันต้องสอบ
โปรเจครอบสุดท้ายแล้วสรุปแฟลชไดร์ฟ ก็ยังไม่ได้หา เอ้อ
โทรออก | พี่ที
(หวาน... หวานโทรมา)
“เอ้อพี่ทีว่างไหมคะ ช่วยหาแฟลชไดร์ฟหวานให้หน่อยค่ะ ที่บาร์ข้างบน ถามแม่บ้านก็ได้ หวานต้องใช้จริง ๆ พี่ รบกวนหน่อยนะคะ”
(อ่อ... ได้ ถ้าเจอเดี๋ยวพี่ไลน์ไปบอกนะ)
“ขอบคุณมากค่ะ”
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ แม่แน่เลย!
ฉันรีบดีดตัวจากเตียง ทำไปนั่งหน้าคอม ทำงาน
“หวานเมื่อคืนนี่เละเลยนะ หมอเขาอุ้มขึ้นมาส่ง” ฉันได้แต่เกาหัวเบา ๆ ฟังแม่บ่น ที่จริงก็ไม่ได้เมาขนาดนั้น
“นิดหน่อยค่ะ ปลดปล่อย” แม่เดินมานั่งข้างฉัน และมองมาด้วยสายตาจริงจัง
“แม่ไม่อยากให้ลูก ยุ่งกับผู้ชายคนนั้นอีก แม่เห็นลูกเครียด ลูกร้องไห้เพราะเขาตลอดเลย” แม่ยกมือขึ้นลูบผมฉันเบา ๆ เฮ้อ... พอแม่พูดแบบนี้แล้วฉันหน่วง ๆ ใจยังไงไม่รู้ ไม่ชอบเลยเวลาคนปลอบ ยิ่งปลอบยิ่งเหมือนเราอ่อนแอ
“ไม่แล้วค่ะ หวานเลิกกับเขาแล้ว ถ้าจะให้เลิกยุ่งคงไม่ได้ เพราะหวานเป็นพี่น้องกับเขา แม่หวานไม่เครียดหรือเสียใจเพราะเขาแล้ว ตอนนี้หวานรู้สึกดีมาก”
“เพราะหมอใช่ไหม” ว่าแล้ว!
“แม่...” แม่ถอนหายใจ และลุกมากอดคอฉัน
“แม่ชอบหมอ พ่อก็ชอบ” พ่อเนี่ยนะ?
“แม่พูดแทนพ่อรึเปล่า” แม่ส่ายหัว
“ไม่ พ่อบอกแม่เมื่อคืน” อะไรเข้าสิงพ่อฉันเนี่ย
“อ๋อค่ะ”
ฉันจัดการตัวเองก็ขับรถมาโรงพยาบาล แวะซื้อกาแฟให้เขาหนึ่งแก้ว...
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ อยู่ไหมนะ
“ครับเข้ามา” ฉันเปิดประตูเข้าไปก็เจอ อ้าว… พี่ที เมย์ และหมอนาย
ฉันมองทุกคนสลับกัน สงสัยมาปรึกษาหมอมั้ง
“อ้าวมาเร็วจัง” พี่ทีมองฉันเศร้า ๆ เมย์ก็ด้วย ฉันรู้สึกสงสารผู้หญิงคนนี้ขึ้นมายังไงอย่างงั้น ฉันยิ้มให้ทุกคนแล้วเอากาแฟไปวางให้หมอ เขายิ้มขอบคุณ
“อ๋อไม่รู้จะทำอะไรค่ะ อีกนานไหมคะ หวานรอข้างนอกก็ได้” หมอก้มดูเอกสาร
“ใกล้แล้ว”
“หวาน นี่แฟลชไดร์ฟหวาน”
พี่ทีล้วงกระเป๋าเสื้อยื่นแฟลชไดร์ฟมาให้ฉัน โอ้ว! ฉันหยิบมันขึ้นมา มองมันตาเป็นประกาย งานฉันกลับมาแล้ว!
“ขอบคุณค่ะพี่ที มาปรึกษาหมอเหรอคะ” เขาพยักหน้าเบา ๆ
“สรุปตรวจได้ไหมหมอ” พี่ทีหันไปถามหมอนายต่อ
“ตอนนี้อายุครรภ์สิบสัปดาห์ หากตรวจ DNA ทารกในครรภ์ทำได้ครับ
แต่อันตรายมาก ผมไม่แนะนำ เพราะต้องเจาะเลือดจากสายสะดือ และน้ำคล่ำ
ไปตรวจ มันเสี่ยงต่อการแท้งถึงศูนย์จุดห้าถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ โดยที่เด็กไม่มีความจำเป็นต้องมารับความเสี่ยงนี้ ยังไงมันก็เสี่ยง และอันตราย รอคลอดดีกว่าครับ”
ฉันยิ้มให้ทุกคน ลืมไปว่าเขาปรึกษากันอยู่ ก่อนจะเดินออกมาเข้าห้องน้ำ
“น้ำหวาน...” ฉันหันไปมองตามเสียงที่ดังตามหลังมา เมย์นิ
“มีอะไรเหรอ ร้องทำไม?” เมย์เดินน้ำตาคลอมาจับมือฉัน
“ขอโทษนะ ที่เรา... พลาด ฮือ ๆ ทำให้เธอต้องเลิกกับพี่ที เราไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ เขาอยากจะตรวจเพื่อเธอ ถ้าสมใจเขา เธอก็ให้อภัยเขาหน่อยนะ”
ฉันมองผู้หญิงคนนี้ อย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาแดงก่ำคู่นั้น มันบอกฉัน ว่าเธอกำลังเจ็บปวดมาก
“สมใจคืออะไร อย่าคิดมากสิ เราไม่ได้ว่าอะไร” ฉันปลอบไปแบบงง ๆ
“ฮือ ๆ เขาคิดว่าไม่ใช่ลูกเขา” เมย์เอามือปิดปากสะอื้นให้
“ทำไมล่ะ เมย์ก็มีแค่เขาใช่มั้ย” ฉันเอามือไปจับบ่าเมย์ที่ตัวสั่นระริก
ฉันไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าต้องมายืนคุยกับกิ๊กแฟนเก่าตัวเองเรื่องแบบนี้ ปกติคงตบกันตายไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาด