ฉันรำคาญตานาวินมากให้ตาย ฉวยโอกาสกับฉันตลอดเลย นี่คุณพ่อกับคุณแม่ให้ฉันแต่งงานกับคนแบบนี้ได้ไง!
ฉันมองเขาแล้วหงุดหงิด อยู่ต่อไม่ไหว รีบลากพี่เวียร์กลับบ้านนอน ไม่อยากจะคิดถึงวันแต่งงานเลย จะมองหน้ากันยังไง จะอยู่กันยังไง เครียด ๆ
ฉันตื่นเช้ามาก็มีคนมาตัดชุด วัดตัวให้ คุณแม่ถามว่าฉันชอบสีอะไร งานแต่งจะได้ถูกใจ ค่ะ! จะถูกใจกว่านี้ถ้าไม่ได้แต่ง
บ่นไปก็เท่านั้น... ฉันพูดอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คุณแม่พูดอะไร ฉันก็ว่าไปตามนั้น… ฉันไม่อยากมีปัญหา แค่นี้ก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่เครียดมาเยอะแล้ว แต่ง ๆ ไปจะได้จบ ๆ สักที
ฉันเก็บตัวอยู่ในบ้านจนถึงวันแต่งงาน ฉันไม่อยากเจอใคร ขี้เกียจตอบคำถาม ว่าเตรียมงานแต่งเป็นยังไงบ้าง? จนถึงตอนนี้ฉันกำลังแต่งหน้าทำผมอยู่ ช่างก็ยังจะถามฉันอีก!
“เจ้าบ่าวหล่อระเบิดมากกก ยินดีด้วยนะคะคุณหนูซินน์ อยากได้หมอฟันบ้าง พี่จะหาได้ที่ไหน”
เอาอีตานาวินไปสิ ฉันยกให้!
ฉันไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ยิ้มหวาน ๆ ให้พี่ ๆ เขา จนทุกอย่างเรียบร้อย ตอนนี้ฉันอยู่ในชุดไทยพิธีเช้าที่ดู ไทยจ๋ามาก!
เฮ้อ! ฉันกลอกตามองบน จนคุณแม่เดินมาบีบไหล่เบา ๆ
“ลูกสาวแม่สวยที่สุดเลย” ฉันทำหน้ามุ่ย หนีงานแต่งตอนนี้ทันไหม!
จนทุกอย่างเรียบร้อย ฉันต้องลงมารอในห้องรับรอง พวกเพื่อนเจ้าสาว ปลายฟ้า ไออุ่น และน้ำปั่นที่เพิ่งหอบใบประกาศกลับมา ตอนนี้กำลังยืนถือประตูเงินประตูทองอยู่
เขาเล่นอะไรกันไม่รู้เสียงดัง ฉันไม่ได้สนใจ จนอีตานาวินเดินเข้ามาหาฉันเท่านั้นล่ะ เออหล่อ ยอมรับเลย! แต่หน้าตากวนฉันชะมัด!
“มารับเจ้าสาว” พูดนิ่ง ๆ แต่แอบอมยิ้มให้ฉัน ไอ้บ้า!
“เออ” คุณแม่ตีมือฉันทันที ฉันได้แต่ทำหน้ามุ่ย จำใจรับช่อดอกไม้จากเขา ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปทำพิธีสวมแหวนข้างนอกพร้อมกัน
โอ้ย! นักข่าวเยอะมาก! ไม่ต้องมาทำข่าวได้ไหม แค่นี้ฉันก็อายจะตายอยู่แล้ว คุณแม่จัดงานเวอร์มาก ทั้งเซเลป ทั้งนักธุรกิจ ทั้งหมอ ๆ ทั้งหลายญาติ ๆ เขามาครบหมด ฉันทำตัวไม่ถูกเลย ยิ่งตอนนี้ต้องนั่งพับเพียบ แลกแหวนกับเขาแล้ว
เขามองหน้าฉัน... ก่อนจะจับมือซ้ายฉันขึ้นมา สวมแหวนเพชรเม็ดโต หืม… หกเจ็ดกะรัตมั้ง เข้ามาที่นิ้วนาง...
เสียงปรบมือดังขึ้นทั่วห้องประชุม ฉันกำมือแน่น หันไปมองคุณพ่อคุณแม่ที่พยักหน้าให้ไม่หยุด
เฮ้อ… ฉันทำใจอยู่สักพัก ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหยิบแหวนที่คุณแม่หามาจากไหนไม่รู้ ขึ้นมาสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายเขา
ก่อนที่ฉันจะนั่งนิ่งจนพิธีกรบอกให้ก้มกราบที่ตักเจ้าบ่าว! อะไรวะ มันสมัยไหนแล้ว ต้องกราบอีกเหรอ?
เขายิ้ม และยักคิ้วให้ฉัน จนฉันทนแรงกดดันจากทุกคนไม่ไหว ก้มลงไปกราบอย่างรำคาญ จนมือนุ่ม ๆ ลูบหัวฉันเบา ๆ และเขาก็ก้มลงมากระซิบฉัน… ว่า
“รอนานไหม...” ใจฉันหล่นวูบ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ก่อนที่จะ อึก! สะอึก
ฉันดีดตัวกลับมานั่งนิ่งทันที ใจมันเต้นแรง และฉัน… ก็เริ่มสะอึกรัว
‘รอนานไหม’
คำนี้วนอยู่ในหัวฉันสักพัก รอ รอ รออะไร? ฉันรออะไร ฉันรอเขาเหรอ?
อึก... อึก... อึก ฉันนั่งนิ่งสะอึกไม่หยุด จนทุกคนเชียร์ให้เขา หอมแก้มฉัน!
‘หอมเลย หอมเลย’
‘ฟอด~’ อึก! ฉันเอามือปิดปากแน่น สะอึกถี่กว่าเดิมอีก เมื่อจมูกโด่ง ๆ ของเขากดลงตรงแก้มฉัน แล้วเขาหอมมันฟอดใหญ่!
เสียงโห่แซวดังขึ้น จนฉันหลุดจากภวังค์ ฉันพยายามนั่งยิ้ม ทั้งที่ในหัวไม่เข้าใจตัวเอง
ฉันเป็นอะไรนักหนา... ทำไมทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้ ใจฉันมันสั่น สั่นจนสะอึกแบบนี้ ปกติถ้าไม่เจอเรื่องตื่นเต้นมากจริง ๆ ฉันจะไม่สะอึกเลยนี่น่า...
ฉันรีบสลัดความคิดทุกอย่างออกจากหัว เพราะต้องไปนั่งรดน้ำสังข์แล้ว ตอนนี้ญาติผู้ใหญ่ เพื่อน ๆ เข้ามาอวยพรกันมากมาย ส่วนมากก็อวยพรให้ ‘มีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง’ เดิม ๆ เฮ้อ จนมาถึงเพื่อนสนิทฉันนี่ล่ะ
ไออุ่น: ไปก่อนเพื่อนเลยน้า… มีความสุขมาก ๆ รักกันนาน ๆ มีหลานให้ไว ๆ นะเพื่อน
รักกัน? มีหลาน? มันกล้าอวยพรฉันแบบนี้ได้ไง!
น้ำปั่น: อะแฮ่ม! ฝากดูแลพี่ชายกูด้วยเพื่อนรัก มีความสุขมาก ๆ เป็นภรรยาทันตแพทย์ ก็ให้แพทย์ช่วยดัดฟันขังหมาในปากไว้ด้วยนะ ฮ่า ๆ
ดีจริง ๆ
ปลายฟ้า: ดีใจด้วย แฮปปี้ ๆ นะมึง มีลูกมีหลานให้พวกเราอุ้มไว ๆ สู้ ๆ
สู้ ๆ มันให้ฉันสู้กับอะไรเนี่ย
ไทม์: เฮ้ย มีหลาน มีหลาน มีหลาน หลานเต็มบ้าน หลานเต็มเมืองนะซินน์ มีความสุขมาก ๆ ว่ะ
ฉันเกลียดไทม์ชะมัด อยากด่าสักฉากแต่ทำไม่ได้
พี่เวียร์: ซินน์ โตแล้วนะ แต่งงานแล้ว ก็ระวังเนื้อระวังตัวแล้วกัน นอนแต่หัวค่ำ แต่งตัวมิดชิด แค่นี้ล่ะ
พี่เวียร์อวยพรฉันประหลาดมาก ฉันเห็นอีตานาวินนั่นหัวเราะพี่เวียร์ใหญ่ เขาหมายถึงเรื่องอะไรกัน?
ตอนนี้ฉันรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจกับคำอวยพรมาก! จนมาถึงงานเลี้ยงเย็น ฉันอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวยาวลากพื้น สวยมันก็สวยนะ แต่ออกแบบได้ลุ่มล่าม เกะกะ รกชะมัด ฉันจบดีไซเนอร์มาเห็นแล้วหงุดหงิดจริง ๆ คุณแม่เลือกชุดอะไรให้เนี่ย!
“ซินน์ เดี๋ยวพิธีกรเขาจะถามว่า ประทับใจอะไรในตัวเจ้าบ่าว อ่ะ นี่โพย อย่าทำแม่ขายหน้านะ แขกผู้ใหญ่ทั้งนั้น”
คุณแม่ทำเหมือนฉันกำลังจะขึ้นแสดงละครเวทีวันเด็กยังไงอย่างงั้นล่ะ!
โอ้ย… นี่อะไร? ฉันต้องพูดแบบนี้เหรอเนี่ย!
“คุณแม่!” ฉันหันไปมองคุณแม่ทันที แต่ไม่ทัน คุณแม่รีบเดินกลับไปนั่งแล้ว
ฉันมองโพยตัวเองอีกรอบ อ่าน อ่าน และพยายามจำ เอาวะ! พูดก็ได้ เพื่อคุณแม่!
จนพิธีกรเชิญเราสองคน เอ่อ… ฉันกับอีตานาวินขึ้นเวที…
พิธีกร: เจ้าสาวคนสวย ประทับใจอะไรในตัวเจ้าบ่าวคะเนี่ย
ทำไมต้องเป็นฉันคนแรก! ใจฉันเต้นรัว มันตื่นเต้นจน อึก อึก... สะอึกอีกรอบ! โอ้ย… ตื่นเต้นมาก ๆ ทีไรสะอึกทุกทีเลย
ฉันพยายามตั้งสติ แล้วค่อย ๆ รับไมค์มาจากพิธีกร
จนอยู่ ๆ อีตานาวินนั่น ก็เดินลงไปจากเวที ก่อนที่เขาจะรินน้ำใส่แก้ว เดินถือขึ้นมา... ยื่นให้ฉัน
“กินก่อนนะ” หือ…
ทุกคนแซวกันใหญ่ ก่อนที่ฉันจะจำใจรับมันมาดื่มจนอาการสะอึกค่อย ๆ หายไป เฮ่อ โล่ง...
ฉัน: ค่ะ… ขอโทษที่ทำให้เสียเวลากัน แหะ ๆ ตื่นเต้นทีไรเป็นแบบนี้ทุกทีเลยค่ะ ถามว่าประทับใจอะไรในตัวเจ้าบ่าว... ไม่รู้สิคะมันเยอะ เพราะซินน์ประทับใจเขา ตั้งแต่จำความได้เลย ตอนซินน์ยังเด็ก ซินน์เป็นเด็กงอแงมาก แปลกนะคะ มีแต่เขา… เขาคนเดียวที่ทำซินน์หยุดร้องได้ ขนาดคุณพ่อคุณแม่… ยังยอมแพ้ซินน์เลยค่ะ ซินน์รู้อุ่นใจมากเวลาอยู่กับเขา จนวันที่เขาห่างจากซินน์ไป... ฮือ ๆ
อยู่ ๆ ฉันก็ทนไม่ไหว... น้ำตาฉันไหลลงมาอาบแก้ม ฉันยืนข่มใจอยู่สักพัก เพราะฉันรู้สึกหน่วง รู้สึกจุกในคอ จนมันพูดไม่ออกจริง ๆ
พิธีกร: เพื่อนสนิทเจ้าสาว แถมยังเป็นน้องสาวเจ้าบ่าว แล้วยังบังเอิญได้ช่อดอกไม้ด้วย บังเอิ๊ญบังเอิญเลยนะคะ
บังเอิญอะไรล่ะ พูดตลกไปได้ ฉันตั้งใจปาใส่น้ำปั่นเต็ม ๆ
พิธีกร: คุณหมอน้ำปั่น ว้าว สัตวแพทย์เลย มีหนุ่ม ๆ คนไหนกำลังจะได้เป็นเจ้าบ่าวของคุณหมอน้ำปั่นมั้ยคะเนี่ย
น้ำปั่น: ไม่มีเลยค่ะ พลีส~ น้ำปั่นอยู่กับหมาและแมวมาตลอด อยากอยู่กับผู้ชายบ้าง โสดตัวโต ๆ เลยค่ะ ได้โปรดเห็นใจ
น้ำปั่น! มึงช่วยสำรวมได้ไหม ลุงนายกับป้าหวานกุมขมับแล้ว ไม่ใช่แค่นั้น อีตานาวินด้วย และตอนนี้เขาก็เดินไปหาน้ำปั่นแล้ว
“พอน้ำปั่น ลงไปได้แล้ว ไร้สาระ”
“ดุตลอด พอกับเมียอ่ะมุ้งมิ้ง หมั่นไส้” น้ำปั่นเบะปากใส่ตานาวิน ก่อนจะยื่นไมค์คืนพิธี แล้วลงจากเวทีไป
ทุกคนปรบมือแซวใหญ่... จนอาการปวดหัวฉันหายเป็นปลิดทิ้ง เพราะเราจะ ปาร์ตี้!
ฉันรีบลงจากเวทีมาหาเพื่อนทันที ไม่สนใจเจ้าบ่าว วันนี้เป็นวันที่ฉันและเพื่อน ๆ ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งมันนานทีปีหนจริง ๆ กว่าจะมีวันนี้!
“โอ้ยคิดพวกมึงมากเลย เมากันเถอะ!” น้ำปั่นชูแก้วไวน์ขึ้น จนเสียงเพลงเริ่มกระหึ่ม จนฉันต้องปลดชายกระโปรงชุดแต่งงานออก
ฉันซดไวน์ขาวลงคอแก้วแล้วแก้วเล่า... จนปลายฟ้าเมา น้ำปั่นเมา ไออุ่นเมา ส่วนฉันก็เมานิด ๆ ใจจริงฉันอยากรีบ ๆ เมา จะได้ขึ้นห้องไปนอนเลย ไม่อยากอยู่กับเขานาน กลัวได้ฆ่ากันก่อน!
จนคุณแม่เดินมาตามฉัน ไปส่งตัวเข้าหอ! หอก็เป็นห้องนอนฉันเอง... เพราะงานแต่งจัดที่ตึกฉันนี่น่า เฮ้อ ห้องนอนฉันถูกจัดใหม่หมดเลย ทั้งผ้าห่ม หมอน เตียง มีกลีบกุหลาบโรยไปทั่วไปหมด... ไม่รู้จะทำเพื่ออะไร ฉันไม่เข้าใจ!
พอคุณพ่อคุณแม่ ป้าหวาน และลุงนายอวยพรเสร็จ ทุกคนก็ออกไป เหลือแค่ฉันกับอีตานาวิน… ที่นั่งมองหน้ากันอยู่
ฉันรีบตั้งสติวิ่งเข้าไปห้องน้ำทันที ก่อนจะรีบถอดชุดแต่งงาน รีบอาบน้ำ ใส่ชุดนอนแขนยาว ขายาว อย่างมิดชิด
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ เขาเคาะประตูห้องน้ำ!
“จะอาบอีกนานไหม เร็ว ๆ ดิ ง่วง” ฉันรีบเปิดประตูออกมาเซ็ง ๆ ก่อนจะไปขึ้นเตียงนอน สร้างกำแพงเมืองจีนด้วยหมอนและผ้าห่มสูง ๆ
จนความเหนื่อย บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำฉันเผลอหลับไป...
ฉันรู้สึกตัวอีกที ก็มีอะไรบางอย่าง กำลังขยับอยู่แถว ๆ ซอกคอฉัน อื้อ~ อะไร?
“อื้อ” ฉันบิดตัวตื่น จนมือไปโดนกับแก้มใครสักคนที่ซุกตรงซอกคอ! เฮ้ย! อีตานาวิน!
“จะ จะทำอะไร!” ฉันรีบพลักเขาออก แต่โดนรวบข้อมือไว้ทั้งสองข้าง!
ใจฉันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ และสั่นรัว... จน...
“อึก... อึก... อึก...” เขาจับข้อมือที่รวบไว้ ขึ้นบนหัว ก่อนจะโน้มลงมาจุมพิตที่หน้าผากฉันเบา ๆ
จุ๊บ
“ชู่ว... หายนะ” อึก และมันก็เป็นเสียงสะอึกเสียงสุดท้ายของฉัน เขาสั่งให้ฉันหายสะอึกได้? ฉันมองเขาตกใจ จนเขาอมยิ้มออกมาเบา ๆ แล้วโน้มลงมา
ส่งริมฝีปาก... ประกบจูบฉัน
“อื้อ~” ฉันดิ้นทุรนทุราย แต่โดนยึดข้อมือแน่น ขะ... จะเขาข่มขืนฉันเหรอ? ช่วยด้วย!
ฉันพยายามจะร้องขอความช่วยเหลือ พยายามดิ้น แต่ยิ่งดิ้นเขายิ่งจูบฉันแรงขึ้น จนแล้วจนเล่า จนฉันหมดแรงจะต้านทานเขา... ปล่อยให้ริมฝีปากบางตอบสนองเขาไปเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาด2