“อย่าตะโกนไออุ่น นี่มันโรงพยาบาลนะ แล้วไหนจะแผลที่เพิ่งเย็บมาอีก เฮ้อ... เห็นแล้วรู้สึกเหนื่อย”
ฉันเอามือกอดอกตัวเอง ส่ายหน้ารัว อย่ายุ่งกับนมฉัน! นมคนนะเว้ย! ไม่ใช่นมวัว กว่าหยดแรกมันจะออกมาได้ มันไม่ใช่ง่าย ๆ ช่วยสงสารฉันสักนิด และไปหาซื้อที่ปั๊มนมมาเถิด... ขอร้อง!
“เวียร์... นายควรไปหาซื้อที่ปั๊มนมมาให้ฉัน”
“ซื้อที่ไหนไออุ่น ตอนนี้ลูกหิวแล้ว...”
“งั้นพาสองหนุ่มมาสิ ฉันจะให้นมเอง” เขาล้วงกระเป๋าหันไปทางอื่น พยายามหาทางออก ก่อนสักพักจะเดินไปเดินมารอบห้อง ไปหยุดที่เตียงไอ้ซินน์
แล้วก้มลงยกกล่อง กล่องนึงขึ้นมา
“อันนี้ใช่ไหม” ฉันมองไปที่ประตู สลับกับที่ปั๊มนมในมือเขาทันที
“ใช่”
“งั้นใช้อันนี้ก่อน เย็น ๆ ฉันจะสั่งคนไปซื้อให้” ฉันกัดฟันกรอด ๆ รู้เลย ที่เขาถืออยู่อ่ะ ของไอ้ซินน์! นาวินเขาคงจะเตรียมให้พร้อมทุกอย่าง แตกต่างจากผัวกู… ที่จ้องแต่จะบีบด้วยมือ และสั่งคนอื่นไปซื้อเหมือนเคย ๆ
“ไหนล่ะ ขวดนม” หาอีก หาเข้าไป โอ้ยอิพ่อ!
“ไม่มี มันฉุกละหุก ฉันไม่ได้เตรียมอะไรเลยไออุ่น เธอต้องเข้าใจบ้างสิ เพิ่งมาถึงอยู่ ๆ เธอก็น้ำคร่ำแตก” ค่ะ! แล้วเขาก็ไปหยิบมาจากตระกร้าไอ้ซินน์อีก ไม่เอามาให้หมดทั้งตระกร้าเลยล่ะ แล้วบอกให้นาวินไปซื้อใหม่ซะ!
เมื่อทุกอย่างพร้อม ฉันก็ถกเสื้อขึ้น ต่ออุปกรณ์ ก่อนจะรีบปั๊มนมสองเต้าทันที จนคุณสามีเขานั่งจ้อง เขาเอาแต่นั่งมองน้ำนมฉัน ที่มันหยดติ๋ง ๆ ลงขวด
“เครื่องนี้เท่ดี น้ำนมเธอทำไมไม่ค่อยขาวไออุ่น สะอาดรึป่าว?”
“อื้ม… น้ำนมแรก นายจะชิมมั้ยล่ะ เปิดซิง”
“เธอจะบ้ารึไง” มาหาว่าน้ำนมฉันไม่สะอาด เดี๋ยวได้จับกรอกปากสักวัน
“นายจะได้ทดสอบ ว่าน้ำนมดีรึป่าว ก่อนเข้าปากลูกไง” เขาทำท่านึกคิดสักพัก ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธฉันรัว จนฉันเห็นท่าทางเลิ่กลั่กลังเล กับสายตาที่มองนมฉันอยู่ แล้วอดขำไม่ได้
“ฮ่า ๆ”
“ขำอะไรของเธอ เสร็จรึยัง จะได้รีบเอาไปให้ลูก” ฉันไม่ตอบผู้ชายหัวร้อนตรงหน้า ได้แต่นอนกระพริบตาปริบ ๆ ให้เครื่องปั๊มนมนี้ทำงานต่อไป จนเขาเองเริ่มรอไม่ไหว
“ทำไมช้าจังวะ มีเครื่องที่เร็วกว่ารุ่นนี้ไหม ฉันจะสั่งเลขาซื้อ” เร็วกว่านี้ใช้เครื่องดูดฝุ่นเถอะ! รออ่ะรอ เป็นไหม?
“งั้นเอาไปแค่นี้ก่อน เดี๋ยว ๆ เมื่อไหร่ฉันจะได้เจอลูก ขอไปหาลูกได้ไหม” เขาพยักหน้า และรับขวดนมสองขวดไปถือ ก่อนจะค่อย ๆ ประคองฉันขึ้นนั่งบนเตียง
โอะ… โอ้ย… เจ็บแผล!
“เธอไหวไหม… นั่งนิ่ง ๆ อย่าซน” แล้วคุณสาเขาก็ออกไปเข็นรถเข็นเข้ามา ก่อนจะพยุงฉันอย่างทุลักทุเลลงไปนั่ง
และฉัน… ก็ถูกเข็นลงลิฟต์ไปห้องเด็กอ่อนข้างล่าง ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด ฉันก็เห็นทุกคนยืนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แม้กระทั่งไอดิน
“เจ๊ยินดีด้วยครับ” น้องชายเข้ามากอดฉันหลวม ๆ แล้วยกมือไหว้สามีฉัน
“ขอบใจ กว่าจะกลับไทยได้นะ”
“งานยุ่งมาก หลานน่าชัง” ฉันยิ้มให้ไอดิน ก่อนจะมองไปที่กระจกบานใหญ่ ที่ฉันมองไกล ๆ แล้วเห็นเตียงเด็กหลายเตียงในนั้น
“ลูกอยู่ในนั้นเหรอ?” สามีไม่ตอบ เขาเข็นฉันมาหาทุกคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง ก่อนที่จับมือฉันลุกขึ้นมอง จนฉันรีบเกาะกระจก รู้สึกเจ็บจี๊ดที่แผลผ่าตัด
โอ้ย… อดทน อดทน ฉันพยายามทำเป็นไม่รู้สึกอะไร รีบมองหาลูกชายสองคนข้างในทันที ไหนล่ะลูกฉัน?
“เวียร์ลูกอยู่ไหน...” สามีชี้ไปที่ตู้อบสองตู้ ที่ถูกตั้งไว้กลางห้อง มองจากตรงนี้ ฉันก็พอมองออก ว่าขาลูกฉันเล็กมาก ทำไมมีแต่ลูกฉันที่อยู่ในนั้นล่ะ ทำไมลูกคนอื่นเขาถึงอ้วนถ้วนแข็งแรง ที่ลูกฉันเป็นแบบนั้น เพราะฉันไม่ระวังใช่ไหม
“ฮือ ๆ แม่ขอโทษ” ฉันเกาะกระจกร้องไห้เสียงดัง... จนทำทุกคนตกใจหันมามองกันเป็นแถว ก่อนที่เวียร์เขาจะเดินมาโอบไหล่ และบีบมืออีกข้างเบา ๆ
ตอนนี้ทุกคนพยายามพูดปลอบฉัน แต่เหมือนมันจะเข้าหูซ้าย ทะลุหัวขวา หูและสมองมันไม่รับฟัง มันไม่จดจำอะไรทั้งนั้น ฉันเอาแต่มองลูก ฉันอยากมองแต่พวกเขา ที่ตอนนี้พยาบาลกำลังเอาน้ำนมเข้าไปป้อนให้
“คุณพ่อคุณแม่คะ เข้าไปหาน้องได้นะคะ” เมื่อพยาบาลข้างใน เธอเห็นฉันยืนร้องไห้ เธอก็เดินออกมาเรียก จนฉันที่ยืนเกาะกระจกอยู่ไม่รีรอ รีบเดินเข้าไปล้างมือฆ่าเชื้อทันที
ฉันจำไม่ได้จริง ๆ คนไหนเซอร์ คนไหนอลัน... เพราะทั้งสองคน นอนหลับปุ๋ยหน้าตาเหมือนกันเด๊ะ แต่ถ้ามีคนร้องไห้งอแงสักคน ฉันก็น่าจะแยกออก เพราะเสียงอลันจะแหลม และทรงพลังกว่าเสียงเซอร์
“พอดิฉันป้อนนมคุณแม่ให้ ก็หลับปุ๋ยไปเลยค่ะ น้องแข็งแรงมาก แค่ตัวเล็กนิดหน่อย คุณแม่คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ไม่กี่วันก็จะได้ออกมาอยู่กับเพื่อน ๆ แล้ว”
ฉันพยักหน้าทั้งน้ำตา แล้วค่อย ๆ สอดมือเข้าไปจับมือเล็ก ๆ ลูก จนเขาที่หลับอยู่ สะดุ้ง แล้วชักมือกลับทันที
นี่มือฉันเย็นไปเหรอ? ก็ไม่นะ
“คนนี้ขี้ตกใจและหวงมือค่ะ” ฉันพยักหน้าเบา ๆ แล้วดึงมือออกมา ก่อนจะหลบไปยืนส่องลูกอีกคนต่อ ให้พ่อเขาเข้าแทน
จนเวียร์เขาก้ม และสอดมือเข้าไปอีก
“ไงเซอร์ มือพ่ออุ่นไหมลูก” ฉันมองเขากับลูกอึ้ง ๆ เขาจำลูกได้แหะ ฉันคนที่อุ้มท้องมาแท้ ๆ จำไม่ได้สักคน และลูกก็ดูคุ้นมือเขา ไม่ตกใจหรือสะดุ้งอะไรเลย เขายังหลับปุ๋ย อุ๊ย... นั่น มีกระตุกยิ้มนิด ๆ ด้วย
“ฉันรักเธอมาก” ฉันเบิกตากว้างมองน้ำปั่นกับไทม์หน้าลิฟต์ จนเขาเงยหน้าขึ้นมาเห็น และหยุดนิ่งทันที
“เวร”
“หวานกันจังเลย ทำไมมีแต่คนหวานกันวะช่วงนี้” เขาโดนไทม์แซว จนทำตัวไม่ถูกเลย แถมน้ำปั่น มันยังช่วยเสริมอีก
“ธรรมดาเนอะ คนเพิ่งมีพยานรักตัวน้อย ๆ ด้วยกัน กิกิ” แล้วเสียงถอนหายใจของคนข้างหลัง ก็ดังขึ้นมา
“เฮ้อ... หลานอยู่ห้องเด็กอ่อน ลงไปสิ”
“จ้า ๆ กำลังลงไป โชคดีจัง เห็นโมเม้นน่ารัก ๆ ของป๋าด้วย” ฉันรู้ว่าเขาอายมาก ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองเขาทีไร เขาก็หลบสายตาน้ำปั่นกับไทม์ตลอด
“ซินน์กับพ่อแม่อยู่ข้างล่าง รีบลงไปเถอะ เดี๋ยวหมดเวลาเยี่ยมหลาน” น้ำปั่นยิ้มและตบไหล่ฉันเบา ๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้เวียร์ตาม แต่เขากลับหันหน้าหนีไปทางอื่น
“ไว้ขึ้นมาหานะป๋า” และแล้ว น้ำปั่นกับไทม์ก็เข้าลิฟต์ไป แต่... ทันทีที่ประตูลิฟต์พวกนั้นปิด!
“ทำไมเธอไม่บอกฉัน!” ค่ะ ฉันโดนด่า!
“บอกอะไรล่ะ?” ฉันทำไม่รู้ไม่เห็น นั่งลอยหน้าลอยตา
“บอกว่าพวกนั้นยืนอยู่!” เขินล่ะสิ ฉันยักคิ้วให้เขาข้างนึง ก่อนจะถูกคุณผู้บริหาร เขาเข็นรถกลับห้องพักอย่างรวดเร็ว
ดูหน้าเขาสิ แดงกว่ามะเขือเทศอีก!
“ในเฟสก็บอกรักได้นี่ ไม่เห็นอายเลย”
“มันไม่เหมือนกันไออุ่น ลูกโตไอ้ไทม์มันก็ไม่หยุดล้อฉัน” ฉันดึงผ้าห่มมาห่ม แล้วนอนจ้องเขา จนเขาเดินไปด้อม ๆ มอง ๆ ที่ประตูห้อง แล้วกลับมายืนข้างเตียง สูดหายใจเข้าลึก ๆ
แหม คงพยายามสงบสติอารมณ์อยู่สินะ...
“เฮ้อ... โอเค ๆ พักผ่อนนะ วันนี้เธอทำหน้าที่แม่ได้ดีมาก ถึงเธอจะซน ถึงเราจะเป็นแบบนี้กัน แต่ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองคิดผิดเลยนะ... ที่เลือกเธอเป็นแม่ของลูก เราต้องเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดไออุ่น... ฉันรู้ว่าเธอทำได้”
ฉันยิ้มให้เขาแล้วหลับตาลง เมื่ออยู่ ๆ ริมฝีปากนุ่ม... จุมพิตลงที่หน้าผาก
จุ๊บ
“ฉันรักเธอมากนะไออุ่น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาด2