พ่อถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก คงจะรู้สึกกดดันมาก เพราะทุกสายตาจ้องรอคำตอบจากพ่อคนเดียว
“ไงคะหมอ” มีแต่แม่ฉันนี่ล่ะที่ยิ้มประชด และเร่งพ่อ จนพ่อหันมามองฉันแล้วลูบหัวเบา ๆ
“ลืมไปว่าลูกสาวพ่อโตแล้ว” อยู่ ๆ น้ำตาฉันก็ไหลลงมาอาบแก้ม จนฉันโผเข้าไปกอดพ่อแน่น แล้วร้องไห้โฮออกมา
ไม่อยากห่างพ่อไปไหนเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันคิดมาตลอด ถ้าฉันไม่เจอผู้ชายที่เหมือนพ่อ ผู้ชายแสนอบอุ่น อ่อนโยน และซื่อสัตย์ ฉันจะไม่แต่งงานเด็ดขาด
“พ่อขา... ฮือ ๆ ใจจริงปั่นไม่อยากไปไหนเลย อยากอยู่กับพ่ออ่ะ ทำไมแม่โชคดีจัง ที่ได้พ่อเป็นแฟน ตอนนี้ปั่นโตแล้วก็จริง มันต้องมีสักวันใช่ไหมคะ ที่ปั่นต้องห่างพ่อไปมีครอบครัว”
อยู่ ๆ แม่ก็ลูบผมฉันจากด้านหลัง แล้วยื่นทิชชูให้
“ห่างพ่อไม่ได้เลยลูกคนนี้ ตอนเด็ก ๆ แม่บอกว่าไง น้ำปั่นติดพ่อได้... แต่อย่าเกินไป จำได้รึป่าวว่าพ่อต้องรีบหนีไปทำงานแต่เช้าทุกวัน ดึก ๆ งอแงก็ร้องหาพ่อ หิวก็พ่อ เจ็บตรงไหนก็พ่อ ถามตัวเองก่อน ถ้าตอนนี้คนที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ใช่พ่อ จะโอเคไหม?”
พอฉันผละออก พ่อก็นั่งนิ่ง ดูลำบากใจมาก จนผ่านไปสักพัก พ่อถึงเงยหน้ามองทุกคน แล้วถอนหายใจออกมา
“ผมว่า อย่าเพิ่งแต่งดีไหม หมั้นก่อน... บอกตามตรง ว่าผมทำใจไม่ได้” ป้าเมย์ยิ้มกว้างทันที
เอ่อ... คือฉัน ยังไม่ได้เป็นแฟนกันเลย แค่ได้กัน และไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าผู้ใหญ่เขารู้รึป่าว!
“แบบนั้นก็ได้ค่ะคุณหมอ พรุ่งนี้เลยดีไหมคะ”
หะ! พรุ่งนี้?
บ้านฉันถึงกลับมองหน้ากันตกใจ จะรีบไปไหนกันเนี่ย! จนแม่หันไปถามป้าเมย์
“เร็วจัง รีบไปไหนเมย์”
“ก็อยากได้น้ำปั่นเป็นลูกสะใภ้นี่น่า หาฤกษ์สวมแหวนเลย” พ่อเริ่มนั่งกุมขมับ ดูเครียดกว่าใครเลยตอนนี้
“แล้ว… น้ำปั่นว่าไง”
“ยังไงก็ได้ค่ะ วันไหนก็ได้” บรรยากาศมันอึดอัดชอบกลแหะ ฉันอยากจะบ้า อะไร ๆ ก็ดูเร่งรัดไปหมด จนพ่อมองฉันที่นั่งนิ่ง แล้วหันกลับไปตอบแทน
“อืม ตามนั้นก็ได้ ดูฤกษ์ด้วยแล้วกัน” พอพ่อพูดจบก็ลุกออกไปเลย! ทิ้งฉันกับแม่ ให้นั่งมองแผ่นหลัง จนลับตา
“พ่อหวงมากเลยนะเนี่ย แม่ล่ะหวงไหม” แล้วลุงทีหันไปถามแม่ฉัน ที่ตอนนี้ได้แต่มองตรงไปยังประตู
“งี้ล่ะ ลูกสาวหมอนาย… ถ้าหมอนายว่าตามนั้น ก็ตามนั้น แต่หวานบอกไว้เลยนะ ระหว่างหมั้นกัน… ถ้าลูกชายพี่ทีตุกติก หวานจะถอนหมั้นทันที”
แล้วไทม์เขาก็ยิ้มกว้างออกมา ก่อนที่จะยกมือไหว้ขอบคุณแม่ฉัน จนแม่หันมาบอกฉันว่า..
“เราก็เหมือนกัน อย่าท้องก่อนล่ะ” อ้อม ๆ บ้างก็ได้ คนเยอะแยะ
“โอ้ย แม่อ่ะ!”
“ท้องก็แต่งเลย นี่มันสมัยไหนแล้วหวาน พี่ก็อยากมีหลานเหมือนกันนะ” ลุงทีแซวแม่ฉันทันที จนแม่ถอนหายใจ
“ก็อย่าเพิ่งไง… รอแต่งกันก่อน อีกอย่างเรื่องหลานหวานไม่รีบ เพราะสะใภ้ท้องแล้ว” ฉันก็ไม่รีบ! ช่วยคุยกันจบ ๆ สักที ฉันจะได้ไปซื้อยาคุม!
“งั้นตกลงตามนี้นะน้ำหวาน เมย์หาฤกษ์ได้เมื่อไหร่ จะสั่งออแกไนซ์ที่โรงแรมจัดให้ทันที ทางเราขอจัดการทุกอย่างเอง อยากได้อะไรบอกมาได้เลย”
ฉันกับแม่ได้แต่ยิ้มแหง ๆ ตอบ ส่วนไทม์ เขาก็เอาแต่จ้องฉัน แล้วยิ้มไม่หุบ
ไม่อยากจะคิด ถ้าฉันบอกเพื่อน... ทุกคนคงตกใจมาก แฟนไม่มีโดนปี้หนึ่งทีก็ได้แต่งงาน!
เมื่อผู้ใหญ่ตกลงกันเรียบร้อย ฉันก็ลาทุกคนออกมา กว่าจะเดินออกจากบ้านได้ทรมานมาก! ฉันต้องยืนสงบนิ่งอยู่หลายวิ มันเจ็บจริง ๆ ทั้งเซซ้าย ทั้งเซขวา
จนแม่เดินนำไปยืนพิงประตู แล้วมองฉันหัวจรดเท้า
“ทำไมเดินแบบนั้น? เป็นอะไร แล้วรถน้ำปั่นไปไหน?”
“เอ่อ ตกบันไดค่ะ แล้วรถก็จอดไว้ที่โรงพยาบาล” แม่ขมวดคิ้วมองฉันอีกรอบ จนครอบครัวไทม์เดินออกมา
“งั้นให้ไทม์ไปส่งสิจ้ะ ตาไทม์ไปส่งน้ำปั่นเลยลูก” เข้าล็อกเป๊ะ! อะไรจะลงตัวขนาดนี้
“ครับ ผมลาครับป้าหวาน ไปกันเถอะค่ะ” เมื่อเขาหันไปไหว้แม่ฉันเสร็จ เขาก็เดินมาพยุงฉัน ก่อนที่เราจะเดินกันมาถึงรถ แล้วเขาเปิดประตูเลื่อนเบาะให้
พอขึ้นมาลับตาใครก็หอมแก้มฉันทันที!
เออใช่… ป้าเมย์เป็นคนอีสานฉันลืมไปเลย
“แล้วนายเคยพาสาวที่ไหนมารึป่าว” เขาวางช้อนแล้วหยิบทิชชูมาเช็ดปากให้ฉัน
“สาวเมย์ไงคะ” เมย์ไหนวะ... อ๋อ แม่เขา บอกว่าแม่ก็จบไหมวะ ทำไมต้องทำให้กูคิดเยอะ และหงุดหงิดด้วย!
ฉันจึงเบะปากใส่เขาไปที จนมีจานอะไรอีกก็ไม่รู้ มาเสิร์ฟให้ เป็นแป้งดึ๋ง ๆ มีไส้
“อะไรอีกเนี่ย ฉันอิ่มแล้วนะไทม์” เขายิ้ม แล้วหยิบถ้วยน้ำจิ้มสีส้มบีบมะนาวใส่ ก่อนที่จะราดลงไปในจาน แล้วตักมันป้อนฉัน
เฮ้ย! อร่อย! ข้างในเป็นหมูสับ และต้นหอมซอย แป้งก็นุ่มมาก
“อร่อยใช่ไหมคะ เขาเรียกปากหม้อใส่ไข่ แม่ไทม์ก็ชอบ”
ฉันพยักหน้ารัว และเผลอยิ้มออกมาเบา ๆ เพราะรู้สึกชอบ… เวลาเขาพูดถึงป้าเมย์ ดูเขาใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแม่ตัวเองทุกอย่าง มันแฝงไปด้วยความอบอุ่น และอ่อนโยน จนฉันสัมผัสได้ว่าเขารักแม่มาก
เรานั่งคุยกันสักพัก ฉันก็เห็นรถตู้คันนึงมาจอดเทียบ ก่อนที่จะมีผู้หญิงสวย ๆ เดินเข้ามาสี่ห้าคน แต่งตัวเหมือนแอร์โฮสเตสสวยสง่าชะมัด
จนความสวยนั้น ทำฉันเหล่ตามองอิไทม์ อยากรู้นัก ว่าเขามองไปรึป่าว
แต่เขาไม่มอง เขาก้มกินก๋วยจั๊บญวนกับปากหม้อไม่สนใจใคร พอละสายตาจากถ้วยได้ก็มองแต่หน้าฉัน
“สั่งเผื่อกัปตันด้วย กว่าจะแลนด์ได้ จะเป็นลม” แอร์สาวสวยเดินคุยกันผ่านโต๊ะฉัน แล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งเล่นมือถือ
จนมีผู้ชายสองคนแต่งตัวเต็มยศเดินเข้ามา คนนึงมีสามขีด อีกคนสี่ขีดบนไหล่ คืออะไรไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ คือหน้าคุ้นมาก!
“เฮ้ย! ไอ้ไม้ เหมือนเดิมไหมวะ” เสียงก็คุ้นด้วย!
“เออ ๆ เหมือนเดิม กูไปนั่งแป๊บ เหนื่อยฉิบ” ผู้ชายคนนึงเดินมานั่งโต๊ะข้าง ๆ จนเพื่อนที่ยืนสั่งหันมาถาม และหยุดมองมาที่ฉัน
“วันนี้มึง... ใส่ไข่ไหม” เขาถามเพื่อน แต่ตามองฉันสลับกับไทม์! แม่ง... ทำไมโลกมันกลมแบบนี้วะ
ผู้ชายคนนั้น คือ... ไคล์!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลาด2