พลิกชะตารัก มรดกเซียน นิยาย บท 252

ตอนนี้ถ้าเอ้าเฟิงรู้ว่าเขาก้าวล้ำอำนาจของตนและแทรกแซงในเรื่องการจัดซื้อ เขาคงจะโกรธมากเลยทีเดียว!

“นายจะพูดอะไรกันแน่?”

“มัวอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยู่ได้!”

หลินหว่านชิงมองฉินหมิงด้วยความแปลกใจ ไม่เข้าใจว่าฉินหมิงต้องการจะสื่อถึงอะไร

“จริง ๆ แล้วสิ่งที่ผมจะพูดก็คือ ซูกรุ๊ปเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบยารายใหญ่ที่สุดของในเมืองเจียงเฉิง หากบริษัทของเราต้องการซื้อวัสดุยาจีนเราสามารถร่วมมือกับพวกเขาได้ "

“ไม่จำเป็นจะต้องขอความร่วมมือจากจี้เฉิงถังเลยครับ มากความเปล่า ๆ… ”

ฉินหมิงพูดอย่างกล้าหาญ

แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยลงรอยกับเอ้าเฟิงเท่าไรนัก แต่สองสามครั้งมานี้เขาค่อนข้างรู้สึกไม่ดีเมื่อเขาล้ำเส้นอำนาจของอีกฝ่ายและยังแทรกแซงหน้าที่ของเขาอีกด้วย

ถ้าเอ้าเฟิงยินยอมที่จะร่วมมือกับซูกรุ๊ป สิ่งที่แย่ที่สุดที่เขาทำได้คือส่งมอบสัญญาที่เขาเซ็นสัญญาเมื่อคืนนี้ให้กับเอ้าเฟิง ส่วนเรื่องเครดิตก็ให้เป็นชื่อของเอ้าเฟิงก็ยังได้

ถ้าทำวิธีนี้ เขาก็ไม่ได้ล่วงเกินอำนาจของเอ้าเฟิงและเขายังสามารถให้คำอธิบายแก่ซูซินเหยาได้ด้วย

“สิ่งที่คุณพูดมามันง่ายเกินไปหรือเปล่าครับ!”

“แม้ว่าการร่วมมือกับซูกรุ๊ปจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่บริษัทของเราผลิตเครื่องสำอางไม่ใช่บริษัทยาเฉพาะทาง เราไม่ต้องการยาจีนจำนวนมากขนาดนั้น"

“และซูกรุ๊ปเป็นตัวแทนจำหน่ายวัตถุดิบยารายใหญ่ที่สุดในเจียงเฉิง พวกเขาเชี่ยวชาญในการจัดหาวัตถุดิบยาให้กับบริษัทยาขนาดใหญ่หลายแห่ง พวกเขาจะสนใจลูกค้ารายเล็กอย่างเราได้อย่างไร!”

เอ้าเฟิงมีท่าทีเยาะเย้ยและมองฉินหมิงราวกับว่าเขาเป็นคนโง่เง่า

ซูกรุ๊ปควบคุมตลาดวัตถุดิบยาที่ใหญ่ที่สุดในเจียงเฉิง ทั่วเมืองรอบ ๆ หลายแห่ง พวกเขาใช้เส้นทางที่มีปริมาณมากและระดับไฮเอนด์แต่ราคาของวัตถุดิบค่อนข้างต่ำ เพราะพวกเขามักจะไม่ใส่ใจกับคำสั่งซื้อแค่หลายร้อยล้าน

ในทางกลับกันจี้เฉิงถังใช้เส้นทางขนาดเล็กและขนาดกลางครอบคลุมทั้งลูกค้ารายย่อยและนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก แม้ว่าราคาของวัตถุดิบยาจะสูงเล็กน้อย แต่เมื่อพิจารณาถึงความต้องการวัตถุดิบยาจีนของกลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปในปัจจุบันแล้วก็สามารถร่วมมือกับทางจี้เฉิงถังได้

“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอกนะครับ!”

“เมื่อวานผมได้ทำการเซ็นสัญญาร่วมมือกับทางซูกรุ๊ปแล้วเรียบร้อย!”

ฉินหมิงผุดยิ้มขึ้นและพูดอย่างคลุมเครือดูเหมือนจะได้เห็นความโกรธจากเอ้าเฟิง

และสิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ เอ้าเฟิงชะงักไปเล็กน้อยแต่ไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธออกมา

“อะไรนะ?”

“ทำสัญญากับทางซูกรุ๊ปแล้วงั้นเหรอ?”

“นี่เลขาฉิน ผมถามคุณหน่อยสิคุณเป็นทายาทหรือนายน้อยแห่งตระกูลซูหรือเปล่า?”

“แต่ทำไมคุณถึงไม่ใช้นามสกุลซูล่ะครับ ช่างน่าแปลกใจจริง ๆ !”

เอ้าเฟิงพูดด้วยสีหน้าดูน่ากลัว และคำพูดของเขาก็เต็มไปด้วยการเสียดสี

“รองประธานเอ้าครับ แม้ว่าผมไม่ใช่ทายาทตระกูลซู แต่สิ่งที่ตระกูลซูรับปากว่านะร่วมมือกับผมนั้นเป็นเรื่องจริงนะครับ”

“อีกทั้งเราทั้งสองฝ่ายก็เซ็นสัญญาร่วมมือกันแล้วเรียบร้อย”

ฉินหมิงพูดเสียงเรียบ

“โอ้ อย่างงั้นเหรอครับ?”

“คุณนี่ขี้โม้เก่งเป็นบ้าเลยนะครับ!”

“ในเมื่อคุณบอกว่าเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว แล้วไหนล่ะสัญญาเอามาให้ผมดูหน่อยซิ!”

“ผมล่ะอยากรู้นัก ว่าคุณเอาความกล้ามาจากไหน!”

เอ้าเฟิงยิ้มเยาะเย้ย