พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ นิยาย บท 57

ตอนที่ 57 คำสารภาพของเป่ยจื่อหัว

“ องค์ชายสองพูดเกินไป ข้าเพียงแค่ออกมาผ่อนคลายจิตใจกับพระชายาของข้า ไม่ได้คาดว่าจะเดินมาถึงที่ตำหนักสองได้ เป็นเพราะความไม่ระวังของข้าเอง จึงไม่ได้เตรียมของขวัญเล็กๆมาให้ ”

จางยวี่โหร่วเห็นเขาวางตัวเย่อหยิ่งเย็นชาและยังนั่งอยู่บนที่นั่งของเจ้าของบ้าน โดยไม่มีจิตสำนึกของแขกเลยสักนิด และไม่ได้มีท่าทางถ่อมตัวเหมือนอย่างที่เขาพูดเลย เธอจึงอดไม่ได้ที่จะดูหมิ่นเล็กน้อยอยู่ในใจ

ยังดีที่ท่านพี่จือหัวไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับเขา และยังสามารถรักษารอยยิ้มที่สุภาพอ่อนโยนได้

เพียงแต่ น้ำเสียงของเขาช้าลงเบาๆ จากนั้นพูดว่า “ ท่านอ๋องพูดเช่นนี้ข้าเกรงว่ามันจะเร็วไปเล็กน้อย จากที่ข้าทราบ ข้อตกลงสามเดือนนั้นเป็นข้อตกลงที่ท่านอ๋องกับองค์ชายสามปรึกษากันในตอนแรก สุดท้ายแล้วน้องโหร่วเอ๋อร์จะแต่งงานกับใคร ก็ยังไม่อาจรู้ได้ ”

เขาเห็นจางยวี่โหร่วเป็นน้องสาวมาโดยตลอด แน่นอนว่าไม่สามารถเห็นเธอถูกรังแกได้

ยิ่งไปกว่านั้นอ๋องชิงผินยังหยิ่งยโส ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา และยังมีชื่อว่ากลืนกินภรรยาอีก เป่ยจื่อหัวจึงไม่อยากให้เธอแต่งงานกับเขา

เพียงแต่เขารู้สึกว่า หากตระกูลจางยื่นมาเข้ามาจัดการเรื่องนี้คงจะมีประโยชน์มากกว่าเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ยุ่งเรื่องนี้เท่าไหร่

“ งั้นรึ? ดูเหมือนว่าองค์ชายสองจะไม่มีความเชื่อมั่นในตัวข้า ที่รัก เจ้าต้องแสดงให้องค์ชายสองเห็นสักครั้งหน่อยแล้วล่ะ! ” เขามองจางยวี่โหร่ว สายตาจับจ้องไปที่เธออย่างจริงจัง แววตาไร้ความหมายลึกซึ้งใดใด

สองคนนี้...เหตุใดจึงไม่ลงรอยกันเพราะเรื่องของเธอล่ะ ตอนนี้ควรจะพูดคุยกันเรื่องของหลินจือไม่ใช่เหรอ?

เธอใจลอยอยู่ครู่หนึ่ง ข้อมือก็ปวดขึ้นมา เงยหน้าขึ้น ก็เจอกับสายตาไม่พอใจของชายหนุ่ม ตำหนิเธอที่ไม่ให้ความร่วมมืออย่างเห็นได้ชัด

พอคิดๆดูแล้ว หากเธอไม่แสดงอะไรออกเลย เป็นไปได้ที่ผู้ชายไร้ยางอายคนนี้อาจจะใช้วิธี ‘สุดขั้ว’ มาพิสูจน์

จางยวี่โหร่วพูดอย่างยอมรับว่า “ เอ่อ...ท่านพี่จื่อหัว ในเมื่อข้าได้เข้าพิธีแต่งงานกับท่านอ๋องชิงผินแล้ว เช่นนั้นเท่ากับว่าเป็นพระชายาของเขา ”

“ แต่องค์ชายสาม... ” เป่ยจื่อหัวมองเธออย่างตกตะลึงและรับไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด

ด้วยนิสัยของโหร่วเอ๋อร์ ไม่มีใครสามารถบังคับเธอให้ทำอะไรได้ ตอนนี้เธอหมายความว่าตัดสินใจที่จะอยู่กับอ๋องชิงผินแล้ว? แล้วน้องชายของเขาล่ะ?

“ ผู้หญิงคนหนึ่งจะแต่งงานกับสามีสองคนได้อย่างไร ทำได้เพียงแค่พูดว่าสวรรค์ลิขิตคน ข้ากับองค์ชายสามถูกกำหนดให้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ”

ในฐานะพี่ชาย ได้รู้ว่าน้องชายของตัวเองนั้นจะต้องรอไปโดยเปล่าประโยชน์อย่างกะทันหัน ในใจของเขาจึงต้องไม่สบายใจมากแน่

แต่เรื่องมาอยู่ต่อหน้าแล้ว ในเมื่อนี่เป็นสิ่งที่ยวี่โหร่วเลือก แน่นอนว่าเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

เขาถอนหายใจอย่างจำใจเล็กน้อย “ ไม่รู้ว่าเมื่อถึงตอนนั้นองค์ชายสามจะรับได้ไหม”

เป็นเพราะจางยวี่โหร่วเข้าใจนิสัยของเป่ยจื่อหัวและรู้ว่าเขาจะไม่ใช่คนปากพล่อย ดังนั้นจึงไม่ถือสาที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ต่อหน้าเขา

ตอนนี้พูดคุยมาถึงตรงนี้แล้ว นับว่าช่วยจางยวี่โหร่งได้อย่างมาก เดิมทีแล้วเธอยังคิดอยู่ว่าจะหาเวลาที่เหมาะสมเอ่ยปากพูดอย่างไรดี

“ องค์ชายสามฐานะสูงส่ง หญิงสาวที่ต้องการแต่งงานกับเขามากมายนับไม่ถ้วน เขาจะพบผู้หญิงที่ดีกว่าข้าในอนาคตอย่างแน่นอน ”

สายตาของเธอเหลือบมองไปที่หลินจือ จากนั้นก็ยิ้ม “ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้องค์ชายสามก็เป็นที่ดึงดูดความสนใจอย่างแน่นอน ในวันงานฉลองพระราชวังวันนั้นเมื่อน้องหลินเต้นรำ ก็ได้เต้นเข้าไปถึงส่วนลึกในหัวใจขององค์ชายสาม ในตอนนั้นน้องหลินขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวผิดกับข้าและถูกพาไปที่ตระหนักสาม แต่ตอนนี้เกรงว่าเขาคงจะเสียใจและต้องการน้องหลินหญิงงามที่สวยหยาดเยิ้มกลับไปแล้วล่ะ ”

หลังจากที่เป่ยจื่อหัวได้ยินประโยคนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันทีและรีบมองไปที่หลินจืออย่างเป็นกังวล

“ จือเอ๋อร์ จริงหรือ? ”

ตามแผนการที่จางยวี่โหร่งบอกกับเธอล่วงหน้า หลินจือจึงทำได้เพียงพยักหน้าเท่านั้น “ คิดดูแล้ว องค์ชายสามคงจะแค่เห็นแก่ท่านพี่ยวี่โหร่วจึงเห็นใจข้าเท่านั้นเอง ตอนนี้ชื่อเสียงของข้าถูกทำลายไปแล้ว ไม่เพียงแต่เคยมีสัญญาการแต่งงานกับท่านอ๋องชิงผิน แต่มายังแต่งงานผิดเข้าตำหนักสาม ในชาตินี้คงถูกกำหนดไม่ให้มีโชคชะตาอีกแล้ว องค์ชายสามจิตใจดีงาม คงจะเพราะทนไม่ได้ที่เห็นข้าถูกนินทาเช่นนั้น จึงพูดเช่นนี้ออกมาช่วยข้าเท่านั้น ”

แน่นอนว่าพวกเธอไม่สามารถพูดสิ่งไม่ดีเกี่ยวกับเป่ยจื่อห้าวได้ และยังจงใจพูดให้เขาดูเป็นคนที่มีน้ำใจและใจกว้าง

เป่ยจื่อหัวรู้สึกร้อนใจทันที ถึงแม้เป่ยจื่อห้าวที่เป็นน้องชายของเขาไม่ได้ผิดอะไร แต่ตอนนั้นเขาปล่อยหลินจือไปแล้วนี่ ตอนนี้กลับต้องการแต่งงานกับเธอ นี่มันอะไรกันแน่?

เขาพูดว่าคนที่เขารักคือจางยวี่โหร่วไม่ใช่เหรอ เช่นนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบหลินจือ นั่นเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดเท่านั้นเอง

“ แล้วในใจของเจ้าคิดอย่างไร? ” ในตอนนี้เขายังสนใจเรื่องของจางยวี่โหร่วกับหันยี่ฉีที่ไหนกัน เขามองหลินจือและรีบถามทันที

เดิมทีแล้วเป่ยจื่อหัวไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกมาเร็วขนาดนี้ เพียงแต่เมื่อได้ยินคำพูดของจางยวี่โหร่วทำให้เขารู้สึกสถานการณ์ไม่ดี และคิดว่าหากไม่พูดออกไปก็จะสายเกินไป

หลินจือดวงตาเบิกกว้างและมองเขาอย่างงุนงงจนถึงตอนนี้ ใบหน้าของเธอถึงจะแดงระเรื่อออกมาบางๆ และเขินอายมากยิ่งขึ้น

“ แต่ว่า...พวกเราเพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน อีกทั้งหญิงสาวที่หลงรักท่านก็มีมากมาย ข้าเทียบกับพวกเขาไม่ได้เลยสักนิด ” ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็หมองหม่นขึ้นมาเล็กน้อย “ อีกอย่าง...ตอนนี้ข้ากลายเป็นผู้หญิงที่เสียเกียรติถูกทุกคนเหยียดยาม หากองค์ชายสองแต่งงานกับข้า ก็จะต้องลำบากไปกับข้าด้วย ”

เป่ยจื่อหัวพูดด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อยว่า “ ข้าไม่สนใจ อีกอย่างหากเจ้าเป็นพระชายาของข้า ข้าจะปกป้องเจ้าอย่างดีแน่นอน หากใครกล้าวิจารณ์เจ้าลับหลังแม้แต่ประโยคเดียว ข้าจะไม่มีวันปล่อยไปและจะทวงความยุติธรรมคืนให้เจ้าอย่างแน่นอน ”

อะไรนะ? คำพูดนี้ยิ่งทำให้ใจของหลินจือเต้นแรงขึ้นอย่างกะทันหัน เขาไม่เพียงแต่จะแต่งงานกับเธอ แต่ยังในฐานะพระชายา?

แท้จริงแล้วด้วยฐานะขององค์ชายสอง หากเธอสามารถอยู่เคียงข้างเขาได้จริงๆ แต่ให้เป็นเพียงแค่นางสนมก็รู้สึกพึงพอใจแล้ว ต้องรู้ว่ามีผู้หญิงกี่คนที่ต่อให้อยากจะเข้ามาเป็นนางสนมก็ไม่มีคุณสมบัติพอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งพระชายาที่สูงส่ง

จางยวี่โหร่วเห็นท่าทางทำอะไรไม่ถูกของหลินจือ ก็เผลอหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ในทันที “ น้องหลิน เจ้าก็รู้ว่าข้ารู้จักกับท่านพี่จื่อหัวมาตั้งหลายปีและเห็นเขาชอบผู้หญิงมากขนาดนี้เป็นครั้งแรก ข้ารับรองได้ว่า เขาเป็นสามีที่ดีที่สุดในโลกอย่างแน่นอน หากเจ้าสามารถแต่งงานกับเขาได้ เช่นนั้นก็คงเป็นวาสนาที่สั่งสมมาของเจ้าจริงๆ หากพลาดไปแล้ว เช่นนั้นก็คงได้ไม่คุ้มเสียแล้วล่ะ ”

สิ่งที่เธอพูดนั้นตรงไปตรงมา โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีดวงตาคู่หนึ่งมองเธออย่างลึกซึ้งอยู่ด้านหลัง สามีที่ดีที่สุดในโลกอะไรกัน จะบอกว่าเขายังทำดีกับเธอไม่พอ?

ผู้หญิงคนนี้ช่างขาดการสั่งสอนจริงๆ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาเวลาสั่งสอนเธอสักหน่อยแล้ว

“ ท่านพี่ยวี่โหร่ว เหตุใดแม้แต่ท่านก็หยอกล้อข้า ” หลินจืออายเกินกว่าที่จะเงยหน้าขึ้น

ในขณะนั้น เป่ยจื่อหัวก้าวมาข้างหน้า จากนั้นก็ดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขน

“ ช่างเถอะ ข้าไม่อยากฟังเจ้าพูดอะไรแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะยอมหรือไม่ยอม ข้าก็ตัดสินใจจะแต่งงานกับเจ้า จะคอยปกป้องเจ้าอย่างดีและจะไม่ให้ใครมารักแกเจ้าอีก ”

หลายวันมานี้ เขาไม่ได้ตรวจสอบเรื่องของหลินจือเลย เมื่อได้รู้ว่าเธอได้รับความลำบากมาไม่น้อย บางคนเขาก็ได้ให้บทเรียนเล็กน้อยกับพวกเขาลับหลัง

หากเธอสามารถแต่งงานและกลายเป็นผู้หญิงของเขา เช่นนั้นเขาก็จะสามารถปกป้องเธออย่างเปิดเผยได้

ผู้หญิงนั้นไม่สามารถปฏิเสธอำนาจของผู้ชายได้ โดยเฉพาะหลินจือที่ในใจชื่นชมเป่ยจื่อหัวอย่างมากมานาน เพียงแต่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยและไม่กล้าอาจเอื้อมเท่านั้น ตอนนี้ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขนเช่นนี้ เธอรู้สึกงดงามราวกับความฝัน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องจริง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ