ตอนที่ 58 ฮ่องเต้โปรดพระราชทานงานอภิเษกสมรส
ในตอนนี้หลินจือตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อเล็กน้อย ทั้งเขินอายทั้งตื่นเต้น ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีจนลืมต่อสู้ดิ้นรน และยืนให้เป่ยจื่อหัวกอดอยู่ในอ้อมแขนอย่างโง่เขลา
ราบกับว่าสวรรค์ได้นำความโชคร้ายทั้งหมดมาไว้ที่ตัวเธอทันที และทำให้เธอประหลาดใจอย่างมาก
จางยวี่โหร่วหัวเราะและหยอกล้อเธออยู่ข้างๆว่า “ เด็กโง่เอ๋ย ยังไม่รีบตอบตกลงอีก หญิงสาวที่สามารถทำให้องค์ชายสองสารภาพรักได้นั้น เจ้าเป็นเพียงคนเดียวเลยนะ ”
หลังจากนั้น หลินจือก็ยิ่งหลบอยู่ในอ้อมแขนของเป่ยจื่อหัว อายจนหน้าแดงไปทั่วใบหน้าและไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
หันยี่ฉียืนมองดูละครที่น่าสนใจอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ และรู้สึกว่าคนที่แนะนำให้หลินจือกับองค์ชายสองรู้จักกัน กลับดีใจมากกว่าพวกเขาเสียอีก ไม่รู้จริงๆว่าในหัวของเธอคิดอะไรอยู่กันแน่
หรือเพียงเพื่อชดเชยเท่านั้น? เพียงแต่ว่าตอนนั้นหลินจือไม่ต้องการแต่งงานกับเขาตั้งแต่แรก!
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขากลับรู้สึกไม่สามารถจินตนาการได้จนถึงตอนนี้
หากพวกเธอไม่ได้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวผิดในตอนแรก ผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยก็คือหลินจือ ไม่ใช่จางยวี่โหร่ว เรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร
“ ท่านพี่จื่อหัว ในเมื่อท่านชอบน้องหลิน เช่นนั้นก็ต้องมีชื่อให้นางด้วย นางจะได้ไม่ต้องถูกรังแกอีก ”
เป่ยจื่อหัวพูดว่า “ แน่นอนอยู่แล้ว พรุ่งนี้ข้าจะเข้าวังไปเรียนกับเสด็จพ่อว่าขอแต่งงานกับหลินจือและให้นางเป็นพระชายา จะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจไปชั่วชีวิต ”
ด้วยฐานะสูงส่งอย่างเป่ยจื่อหัว กลับมีความรักและความรู้สึกรับผิดชอบเช่นนี้ ช่างหาได้ยากยิ่งนัก
จางยวี่โหร่วจ้องมองดูจนรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้และนึกถึงความทุกข์ยากที่ตัวเองได้รับในชาติก่อน ก็รู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ
เธอนั้นสูญเสียลักษณะนิสัยที่มีความสุขไปตั้งนานแล้ว แต่ว่าตอนนี้เห็นหลินจือกับท่านพี่จื่อหัวมีความสุขมาก ตัวเธอเองก็รู้สึกปลาบปลื้มใจ
ในขณะนั้น เธอกลับถูกดึงเข้าไปในอ้อมแขนที่แข็งแรงในทันที ลมหายใจอันอบอุ่นและคุ้นเคยลอยมา เธอกลับมีความรู้สึกปลอดภัยอย่างอธิบายไม่ถูก
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับดวงตาที่เยือกเย็นลึกซึ้งคู่นั้น เขามองเธออย่างมั่นคง ราวกับว่าจะดูดกินวิญญาณของเธอเข้าไป
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หัวใจของเธอจึงสั่นเทาและไม่สามารถควบคุมการเต้นของหัวใจได้
เขาเพียงแค่สบตากับเธอเท่านั้น ไม่นานก็ละสายตาไป แต่มือยังคงโอบเอวเธอไว้แน่นและกำชับเธอเข้ามาในอ้อมแขนของตัวเอง
เขาไม่ชอบให้เธอมองคนอื่นด้วยตาแบบนั้น เขาที่เป็นสามียังอยู่ตรงนี้ เธอยังมีอะไรจะต้องอิจฉา
หันยี่ฉีเอ่ยปากพูดเบาๆว่า “ องค์ชายสองอย่าทำอะไรโดยไม่คิดจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นเมื่อถึงเวลามีแต่จะขายหน้าตัวเองและได้ไม่คุ้มเสีย ”
เมื่อเป่ยจื่อหัวได้ยินคำพูดนี้ ก็ไม่พอใจเล็กน้อยในทันที
เขาตัดสินใจจะแต่งงานกับหลินจือแล้ว แต่หันยี่ฉีกลับพูดคำพูดเช่นนี้ออกมา เขาฟังแล้วรู้สึกว่าไม่ได้มีความหวังดีอะไร และยังมีความสงสัยในคำพูดประชดประชัน เหตุใดเมื่อฟังแล้วทำให้คนรู้สึกว่าไม่สบายใจเล็กน้อยกัน?
“ ท่านอ๋องชิงผินหมายความว่าอย่างไรกัน? ” แม้ว่าเขาจะยังคงสุภาพ แต่น้ำเสียงที่พูดกลับเย็นชาอย่างชัดเจน
แม้แต่จางยวี่โหร่วก็มองเขาอย่างไม่เข้าใจและรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นมาตลอดไม่ใช่เหรอ? แม้แต่คำพูดแบบนี้ เขาก็ไม่เคยใส่ใจที่จะพูดออกไป แต่ตอนนี้กลับพูดแทรกขึ้นมาทันที หมายความว่าอย่างไรกัน?
“ ข้าเพียงแค่เตือนด้วยความหวังดีเท่านั้น ที่รัก เจ้าลืมที่พนันกับคนบางคนไว้แล้วใช่ไหม? ”
จางยวี่โหร่วไม่ได้ลืมอย่างแน่นอน เธอพนันกับเฉินซูเสียนไว้ เธอจะต้องช่วยหลินหาการแต่งงานที่ดีกว่าและให้เธอแต่งงานออกเรือนไปให้ได้
เธอพาหลินจือมาที่นี่ในวันนี้ ไม่ใช่เพื่อเรื่องนี้หรือ?
โดยเฉพาะ ต้องการที่จะตบหน้าจ้าวซินซินแรงๆ!
เป่ยจื่อห้าวนั้นเป็นคนจิตใจเคียดแค้นมาก เพราะการปฏิเสธของหลินจือในวันนั้นทำให้เขารู้สึกอับอายขายหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะทำเหมือนไม่บีบบังคับหลินจืออีก แต่ในใจจะต้องพยายามคิดหาหนทางจัดการกับเธอแน่ ยิ่งกว่านั้นจะไม่มีวันปล่อยให้หลินจือได้แต่งงานกับองค์ชายสองอย่างสมหวังและกลายเป็นพี่สะใภ้ของเขาอย่างแน่นอน
คาดว่าตอนนี้จ้าวซินซินคงจะนำเรื่องที่เธอรับปากว่าจะใส่ร้ายหลินจือต่อหน้าองค์ชายสองไปบอกข้างๆหูเป่ยจื่อห้าวแล้ว และยังคิดว่าตัวเองทำให้พวกเขาสมหวังในความปรารถนาได้อย่างเต็มไปด้วยความหวัง
หากสามารถส่งข่าวที่องค์ชายสองต้องการจะแต่งงานกับหลินจือไปได้อย่างรวดเร็ว เป่ยจื่อห้าวจะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างแน่นอน จ้าวซินซินก็จะไม่ได้เจอผลลัพธ์ที่ดีเช่นเดียวกัน และยังจะถูกเป่ยจื่อห้าวลงโทษที่ทำงานไม่สำเร็จ
จางยวี่โหร่วรู้สึกว่าความคิดของตัวเองนั้นช่างเหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวและปลอดภัยอย่างสมบูรณ์
แต่ตอนนี้...สายตาของเธอยังคงสับสนเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด และฟังความหมายลึกซึ้งของคำพูดเขาไม่เข้าใจ
“ การพนันของเจ้ากับคุณหนูตำหนักเฉินกั๋วกงได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งนานแล้ว หากตอนนี้องค์ชายสองแต่งงานกับหลินจือ เจ้าคิดว่านางจะจัดการอย่างไร? ”
ตอนนี้แม้แต่สายตาของเป่ยจื่อหัวที่มองหันยี่ฉีก็เต็มไปด้วยทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อนหน้านั้นคิดว่าเขาเย็นชาไร้มนุษยธรรมและยังมีเจตนาไม่ดี ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้จิตใจของคนต่ำต้อยมาวัดจิตใจของสุภาพบุรุษซะแล้ว
“ คำพูดของท่านอ๋องมีเหตุผลเป็นอย่างยิ่ง เมื่อครู่นี้ข้าไม่ระวังเกินไป เช่นนั้นตามความหมายของท่านอ๋อง เรื่องการแต่งงานของข้ากับหลินจือควรจะพูดขึ้นมาเมื่อใด ถึงจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด? ”
แรงกดดันทางด้านเฉินกั๋วกงมีมากเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าเป่ยจื่อหัวจะไม่รู้
ก่อนหน้านั้นเสด็จพ่อเรียกเขาเข้าพบหลายครั้งเพราะเรื่องนี้ หวังว่าเขาจะแต่งงานกับเฉินซูเสียนในเร็ววัน ถึงแม้เขาจะยังตอบตกลง เกรงว่าในสายตาของคนอื่นจะมองว่าเธอเป็นพระชายาของเขาเรียบร้อยแล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้ เป่ยจื่อหัวก็รู้สึกกลัดกลุ้มใจไม่หยุดหย่อน
หันยี่ฉีกลับไม่ได้ตอบคำถามเขาในทันที แต่ค่อยๆหยิบถ้วยชาขึ้นมา ปลายนิ้วอันเรียวยกขึ้นมาเบาๆ จากนั้นก็ก้มหน้าดื่ม ทุกการเคลื่อนไหวล้วนสง่างามอย่างเป็นธรรมชาติ
“ ถามท่านน่ะ ได้ยินหรือไม่ ยังไม่รีบตอบอีก! ” จางยวี่โหร่วพุ่งเข้าไปแย่งถ้วยชาของเขาวางลง ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเร่งด่วนเช่นนี้เขาต้องการอะไรกันแน่ ไม่รู้ว่าพวกเขาใจร้อนจะแย่แล้ว
เขาขมวดคิ้วบางๆ และกวาดสายตาไปที่ใบหน้าของจางยวี่โหร่ว ริมฝีปากบางๆก็กระตุกขึ้น
“ เจ้ารีบร้อนอยากจะล้างความสัมพันธ์กับข้ามาตลอดไม่ใช่หรือ เหตุใดข้าต้องช่วยพวกท่าน? ”
ผู้ชายคนนี้ ทำไมชอบมากเกินไปเช่นนี้ ช่วงเวลาเร่งด่วนยังจะเอาเรื่องนี้มาบีบบังคับเธอ
ก็แค่ในวันนั้นเขาได้ยินเธอกับเย่นอิ่งพูดคุยกันเรื่องความเป็นความตายในตำหนัก ลงโทษเขาก็ลงโทษแล้วไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ยังกังวลอะไรอีก
เป่ยจื่อหัวกับหลินจือไม่เข้าใจแน่นอนว่าพวกเขากำลังพูดคุยเรื่องอะไรกันแน่และเบิกตามองพวกเขาด้วยความแปลกใจ
ภายใต้สายตาอันตกตะลึงอย่างมาก จางยวี่โหร่วหัวแข็งทื่อและเดินมาข้างๆหันยี่ฉี เอื้อมมือมาดึงแขนเสื้อของเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยท่าทางออดอ้อนของเด็กน้อย
“ ท่านอ๋อง สามี ข้าผิดไปแล้ว ท่านมองข้ามความผิดพลาดไปและให้อภัยข้าได้มั้ย? ”
แค่กแค่ก ฉากฉากนี้ ทำให้สองคนที่ดูอยู่ข้างๆตกใจอย่างมาก รู้จักจางยวี่โหร่งมาตั้งหลายปี ต่อให้ปฏิบัติกับองค์ชายสามก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอเลย เหมือนกับบทสนทนาของคู่สามีภรรยาทั่วไปที่รักใคร่กันอย่างลึกซึ้ง ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอ๋องชิงผินนั้นจะลึกซึ้งเกินกว่าที่พวกเขาคิดไว้อย่างมาก
ภายใต้การโจมตีของจางยวี่โหร่ว นั้นได้ผลกับชายหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด เขาอารมณ์ดีและพูดในสิ่งที่พวกเขาอยากรู้ออกมาอย่างไม่ลังเล
“ ทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับสาระสำคัญ อันดับแรกพวกท่านต้องเข้าใจให้ชัดเจนก่อนว่า ใครคือคนที่ตัวเองควรจะรับมือกันแน่! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...