ตอนที่98 จิตเชื่อมถึงกัน
ในที่สุดเขาก็ปล่อยนาง แต่ท่าทีที่มีอาการเย็นชามากบางส่วนกลับชัดเจนขึ้น
“หรือว่าก่อนหน้านั้นเจ้าเองไม่ใช่ตกลง ยินดีที่จะเป็นสามีภรรยาที่แท้จริงกับเปิ่นหวัง ทำไมตอนนี้ได้สำนึกเสียใจอีกแล้วไม่เคยหรือ?”
จางยวี่โหร่วมองเขาด้วยน้ำตาหลั่งไหล แม้ว่าในใจนางตอนนี้มีวาจาหลายอย่างคิดจะพูดกับเขา แต่กลับไม่รู้ควรจะไปเอ่ยปากพูดยังไง
เมื่อนางบอกออกไปแล้ว ถ้างั้นต่อไปภายภาคหน้า เขาไม่พบนางอีกแล้วล่ะ?
ผู้ชายค่อนข้างใจร้อนอีกอย่างเห็นได้ชัด เห็นนางเงียบ ๆ มานาน
“ร้องไห้อะไรร้องไห้ เป็นผู้หญิงของเปิ่นหวัง ก็ทำให้เจ้ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นนี้หรือ?”
ตอนนี้สิ่งเดียวที่นางทำได้คือไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เพราะขอเพียงเอ่ยปากออกมาทันที ทุกอย่างก็ล้วนถูกทำลายตีแตกหมดแล้ว
“ถ้าเจ้าไม่คิดพูดก็แล้วกันไป ก็ถือเสียว่าวันนี้เปิ่นหวังไม่ได้มารอบนี้ เปิ่นหวังกลับไปก่อนแล้ว!” ก็ด้วยลักษณะนี้ของนางในเวลานี้ ความสนุกสนานของเขาได้ถูกทำลายไปหมดอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาก็ลุกขึ้นและเตรียมจะจากไป
เวลานี้ จู่ ๆ จางยวี่โหร่วก็รีบก้าววิ่งเร็ว ๆ มาถึงข้าง ๆ เขา กอดเขาไว้แน่นจากข้างหลัง
นางไม่สามารถคิดมากมายขนาดนั้นแล้ว ทุกอย่างเกิดมาจากใจ นางไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้วอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่นางไม่รู้คือ ในชั่วพริบตาที่นางกอดเขา หัวใจของเขาก็สั่นสะท้านอย่างหนักหน่วงคราหนึ่ง มือในแขนเสื้อของเขากำแน่นจนกลายเป็นหมัด
พยายามที่จะควบคุมอารมณ์อย่างสุดฤทธิ์ จึงสามารถทำให้อารมณ์ของตนเปลี่ยนเป็นสงบมั่นคงเล็กน้อย
“เป็นอย่างไรแล้ว? เปิ่นหวังมาเยี่ยมเจ้า เจ้ากลับปฏิเสธ ตอนนี้เปิ่นหวังจะไปแล้ว เจ้าก็ไม่ยอมอีก ที่แท้เจ้าคิดจะเอาอย่างไง?”
เอาอย่างไง? นางเองไม่รู้ว่าที่แท้ตนเองกำลังทำอะไร? นางแค่ไม่คิดอยากให้เขาไปในลักษณะนี้ วันข้างหน้าไม่คิดอยากให้พวกเขาสองคนราวกับเป็นคนแปลกหน้ากันในที่สุด
“ท่านว่า...ท่านเร่งแส้ม้าด่วนวิ่งกลับมาที่นี่ทั้งกลางวันและกลางคืนโดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยล้าในการเดินทางทั้งสิ้นเรื่องแรกก็คือมาเยี่ยมหม่อมฉัน นี่เป็นความจริงหรือเพคะ?”
“ทำไม เจ้าคิดว่าเปิ่นจุนกำลังโกหก?” เขาตรัสวาจานี้ ไม่ใช่ถามอย่างล้อเล่น แต่แฝงความสงสัยอย่างชัดเจน
หรือว่าเป็นไปไม่ได้ นางได้พบเห็นอะไรเข้าแล้ว?
จางยวี่โหร่วเป็นผู้หญิงที่ฉลาดที่สุด บนร่างนางยังมีความลึกลับมากมายที่เขาไม่สามารถเข้าใจและยังไม่ได้แก้เคยคำถามปริศนาได้ ถ้าถูกนางรู้เห็นเข้าแล้ว ละครเรื่องนี้ไหนเลยยังเล่นต่อไปได้?
“ไม่ หม่อมฉัน...หม่อมฉันเพียงคิดอยากถามท่าน ทำไมท่านถึงทำแบบนี้? ทำไมต้องทำแบบนี้เพื่อหม่อมฉันเพคะ?” จางยวี่โหร่วรีบกล่าวอธิบาย
เขาผ่อนคลายลมหายใจเบา ๆ ปัญหาของตอนนี้ ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับคำเปรียบเปรยบทประพันธ์หรือโคลงที่เต็มไปด้วยสำนวนโวหารแล้วซิ
ทำไมนางถึงได้ติดตามซักถามปัญหานี้อย่างจริงจัง ที่แท้เขารู้สึกยังไงกับนาง กล่าวไปแล้วสำคัญขนาดนั้นต่อนางหรือ? หรือว่าใจของนางตอนนี้ได้อยู่บนกายเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว
“ทำไมเหรอ?” เขาเอื้อมมือไปรั้งเอวนางไว้ ให้นางใกล้ชิดตัวเองยิ่งขึ้นอีกหน่อย มองสบตานางประสานสายตาทั้งสี่ แววตาเต็มไปด้วยความรัก “หรือว่าเจ้ายังไม่เข้าใจเหรอ? ไม่เคยมีใครสักคนที่สามารถทำให้เปิ่นหวังเป็นห่วงเช่นนี้ วันเดียวไม่พบดุจห่างกันไปสามฤดูใบไม้ร่วง แม้ว่ากายเปิ่นหวังอยู่ข้างนอก แต่ยามคิดถึงรอยยิ้มคราหนึ่งการเคลื่อนไหวคราหนึ่งของเจ้า ความคิดถึงในใจก็มิอาจแสดงออกด้วยคำพูดได้เลย เพียงคิดรีบกลับมาได้เห็นเจ้าโดยเร็ว ไม่คิดแยกจากเจ้าไปอีก”
จางยวี่โหร่วอึ้งเล็กน้อยทันที พลันน้ำตาก็เอ่อล้นเต็มขอบตาไปหมดแล้ว
อารมณ์ขณะนี้ของนาง เกรงว่าซับซ้อนมาก ๆ
นางได้เป็นผู้หญิงของเขาแล้ว ตั้งแต่ร่างจรดหัวใจล้วนเป็นของเขา เขาไม่มีทางปล่อยนางไปเด็ดขาด
“ดังนั้น ข้าไม่รู้ควรจะไปยอมรับความในใจของเจ้าอย่างไรจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าหลังจากยอมรับเราต้องเผชิญอะไร”
เพียงกลัวว่านางเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่าตนเองกำลังพูดถึงอะไร? แต่เขาก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้ว เพราะไม่มีใครรู้เหตุผลในเรื่องนี้อย่างชัดแจ้งมากยิ่งไปกว่าเขาแล้ว
“นี่ก็ต้องดูเจ้าเองแล้ว สิ่งที่เจ้าคิดจะถามเปิ่นหวัง เปิ่นหวังได้ให้คำตอบแก่เจ้าแล้ว ถ้างั้นเจ้าใช่ไม่ใช่ควรให้คำตอบคืนแก่ข้าด้วยในตอนนี้?”
ก็ได้ ถึงแม้ว่าไม่ได้กล่าวบ่งชี้ชัด แต่นั่นก็เป็นคำตอบชนิดหนึ่งแล้ว ตอนนี้เขาได้โยนปัญหาข้อนี้กลับมาที่ตัวนาง นางก็ควรส่งมอบชี้แจงแก่เขาด้วย
ถ้าเป็นในอดีต นางอาจจะไม่ลังเลสักนิดที่จะแสดงความคิดในใจของนางออกมาอย่างชัดเจน
ตอนนี้อย่างน้อย นางก็รู้สึกว่าคนสองคนมีจิตใจเชื่อมต่อกัน เพียงหวังว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตาของนาง
หลังจากลังเลสักพักเล็กน้อย ในที่สุดจางยวี่โหร่วก็เปิดปากแล้ว
“ให้เวลาหม่อมฉันสามวันคิดไตร่ตรองคราหนึ่งได้หรือไม่? หลังจากสามวันแล้ว หม่อมฉันต้องให้คำตอบแก่ท่านแน่นอนเพค่ะ” นางใจตุ๊ม ๆ ต่อมๆบ้าง กลัวว่าเขาจะปฏิเสธ เพราะนางรู้สึกว่าตอนนี้นางเองไม่มีคุณสมบัติที่จะไปเจรจากับเขาได้จริง ๆ
ดวงตาคู่ที่มืดครึ้มดิ่งลึกนั้นจ้องมองนางไว้นิ่ง ราวกับว่าต้องการที่จะมองทะลุวิญญาณของนางผ่านร่างกายของนางโดยตรง
เมื่อจางยวี่โหร่วรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกจับตามองจนผมเผ้าขนทั่วร่างลุกชันไปทั่ว ในที่สุดเขาก็พยักหน้าแล้ว “ก็ได้ หลังจากนี้สามวัน เปิ่นหวังจะมาเอาคำตอบของเจ้าอีก เพียงหวังว่าเจ้าในเวลานั้น อย่าทำให้เปิ่นหวังผิดหวัง”
เวลานี้เขาจ้องมองนางด้วยสายตาที่มีความหมายลึกซึ้งแตกต่างกันไป เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเตือนนางว่า พวกเขาได้ตกลงกันไว้ยามเริ่มแรก ถ้ามีวันหนึ่งนางสามารถใส่หัวใจนางไว้บนร่างเขาแล้ว เช่นนั้นคืนวันส่งตัวเข้าเรือนหอของพวกเขาที่ล่าช้าไปก็ควรมาถึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...