ในเวลานี้ เสียงดุด่าที่ชั้นบนได้ทวีความรุนแรงขึ้น
หญิงวัยกลางคนผู้นั้นด่าด้วยความโมโหและผิดหวัง “ทำไมฉันจะต้องให้กำเนิดสิ่งขาดทุนอย่างนี้อย่างเธอด้วย ฉันทำงานอย่างลำบากเพื่อให้เธอได้เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย สองปีเธอยังไม่เคยหาเงินให้ครอบครัวเลย ก็ต้องมาคลอดลูกให้คนอื่น ถ้ารู้มาก่อนว่าเธอเป็นคนไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอย่างนี้ ตอนที่เธอเกิดมาก็ควรจะโยนเธอทิ้ง”
หญิงสาววัยรุ่นร้องไห้พลางพูดว่า “แม่ ฉันเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งหมดพึ่งเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา จนถึงตอนนี้ก็ยังต้องคืนเงินกู้อยู่ เวลานั้นแม่ไม่อยากให้ฉันเรียนมหาวิทยาลัย แม่อยากให้ฉันอายุ18ปีก็แต่งงานเลย แล้วยังพูดอีกว่ายิ่งแต่งเร็วยิ่งมีค่า”
“ฉันพยายามสุดความสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัย แม่ก็จะเป็นจะตายไม่ยอมให้ฉันเข้า จนเกือบจะฉีกหนังสือแจ้งการรับเข้าเรียนของฉัน อีกทั้งขู่ว่าถ้าฉันเข้ามหาวิทยาลัยเงินสักสตางค์เดียวแม่ก็จะไม่ให้ เรื่องพวกนี้แม่ลืมมันหมดแล้วเหรอ”
“ตอนนี้แม่บอกว่าลำบากเพื่อให้ฉันเข้ามหาวิทยาลัย แม่ให้ฉันเงินฉันสักแดงเดียวไหม”
หญิงวัยกลางคนผู้นั้นด่าด้วยความโกรธ “แม่คลอดเธอออกมาก็เป็นพระคุณที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเธอแล้ว เธอสักนิดก็ไม่รู้จักความกตัญญู แล้วยังมาขึ้นเสียงดังใส่ฉันไม่หยุด เธอเริ่มจะต่อต้านแล้วใช่มั้ย”
หญิงสาวร้องไห้พูดว่า “ฉันไม่ได้ต้องการขึ้นเสียงใส่คุณ ฉันแค่อยากอธิบายเหตุผล!”
“สี่ปีนั้นที่ฉันเรียนมหาลัยมันไม่ง่ายเลย เงินที่ใช้ในชีวิตประจำวันล้วนมาจากการที่ฉันทำงานพิเศษหาเงินมาทั้งนั้น”
“แต่ฉันก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง สุขภาพร่างกายก็ไม่ใช่ว่าจะดีมาก อีกทั้งยังป่วยบ่อย ถึงจะทำงานพิเศษหาเงินเล็กน้อยล้วนแต่ไม่พอใช้”
“ในโรงเรียนถ้าไม่ใช่เพราะซุนหงเหว่ย คอยช่วยดูแลฉันมาตลอดฉันก็คงจะไม่มีทางเรียนจบมหาวิทยาลัยได้ ไม่งั้นก็คงหิวตายไม่ก็ป่วยตายแล้ว!”
“ตอนนั้นซุนหงเหว่ยรู้สถานการณ์ของครอบครัวของเรา แต่เขาไม่เคยที่จะดูถูกฉันเลย ดังนั้นขอเพียงเขาขอแต่ง ฉันก็พร้อมจะยินยอม ถึงแม้ไม่มีเงินสินสอด ฉันก็ยังยินยอมที่จะแต่ง!”
ชายกลางคนด่าด้วยความโกรธ “เธอมันเป็นสิ่งที่น่าอับอาย เธอเข้าใจว่าของหมั้นเป็นเรื่องที่เธอตัดสินใจได้เองหรอ เธอคิดว่าว่าของหมั้นให้เธอรึไง? ของหมั้นนั้นคือเงินที่จะให้น้องชายเธอซื้อบ้าน หลังจากนี้น้องชายเธอจะต้องแต่งงาน คลอดลูก เงินจำนวนนี้จำเป็นต่อการสืบทอดของตระกูลจาง ถ้าไม่มีแม้สักสตางค์เดียวไว้หมั้น แล้วแต่งงานทั้งอย่างนี้ เธออยากให้ฉันกับแม่เธอตายหรือไง?”
หญิงสาววัยรุ่นพูดอย่างถือทิฐิว่า “ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ฉันก็จะแต่งกับซุนหงเหว่ย แม้ว่าจะต้องนั่งรถแท็กซี่ไปจินหลิง หรือแม้กระทั่งจะต้องเดินไปแต่งงาน ฉันก็จะแต่ง!”
ชายหนุ่มที่เอะอะโวยวายคนหนึ่งก็เปิดประตูออกมา มองที่เซียวชูหรันกับเย่เฉิน “พวกเธอสองคนมาหาใคร?”
เซียวชูหรันพูดว่า “คุณคือเสี่ยวเฟิงใช่ไหม? ฉันเป็นเพื่อนพี่สาวของเธอชื่อเซียวชูหรัน เธอยังจำฉันได้ไหม?”
ชายหนุ่มผู้เอะอะโวยวายพอได้ฟังปุ๊บ ก็อดประหลาดใจที่จะพูดไม่ได้ว่า “อ้าว พี่ชูหรัน ผมต้องจำคุณได้แน่นอนอยู่แล้ว พี่ชูหรันสองสามปีไม่เจอกันเลย คุณสวยกว่าแต่ก่อนเยอะเลย!”
เย่เฉินมองเจ้าเด็กนี่ที่มองภรรยาตนด้วยความดุดัน ชั่วขณะหนึ่งมีความไม่พอใจ เปิดปากถามเซียวชูหรัน “ภรรยาจ๋า เจ้าเด็กนี่คือ...”
เซียวชูหรันแนะนำ “นี่คือน้องชายจางเสี่ยวม่านเพื่อนมัธยมปลายของฉันชื่อจางเสี่ยวเฟิง”
------------
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...
รอตอนต่อไปอยู๋นะครับกำลังสนุกเลย...
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะครับ กำลังสนุกเลย...
ไม่มีอัพเดตแล้วหรือครับ กำลังสนุกเลย...
99% เว็บนี้แปลใกล้เคียงคำพูดของคนไทยที่สุด เสียดายเขาไม่แปลต่อให้ เว็บอื่นเขาไปไกลแล้วแต่แปลเข้าใจยากหน่อย ต้องใช้การเดาเข้าช่วยถึงพอจะเข้าใจ มีเว็บที่เป็นภาษาจีนล้วน ลองใช้โปรแกรมแปลภาษาดู ก็เหมือนเว็บอื่นๆที่ว่า ผลสุดท้ายก็กลับมาอ่านเว็บนี้ต่อ คิดว่าถ้าอ่านจนจบที่เขาแปล ก็คงไปหาอ่านเว็บอื่นต่อ เดาเอา😁...
อัพตอนต่อไปหน่อยครับกำลังสนุกเลย...
il semble que c'est leur fin d'histoire comme ça . merci pour ce temps de lecture,nous aurions préféré un lien d'achat complète du livre hélas . il temps de faire autre chose désormais...