ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 1848

เธอมองไปที่นายหญิงใหญ่เซียว และพูดด้วยความไม่เชื่อว่า: “นายหญิงใหญ่ คุณจะให้พวกเราไสหัวออกไปงั้นเหรอ? นี่ก็มากเกินไปแล้วนะ! คุณอย่าลืมว่า ตอนนั้นอยู่ในสถานที่กักขัง พวกเราสามคนดูแลคุณช่วยเหลือคุณมาโดยตลอด แม้กระทั่งหม่าหลันลูกสะใภ้คนนั้นของคุณ พวกเราก็เป็นคนช่วยคุณสั่งสอน”

นายหญิงใหญ่เซียวถามอย่างชั่วร้ายว่า: “ฉันขอให้พวกแกมาช่วยฉันหรือเปล่า? ฉันบอกเมื่อไหร่กันว่า ให้พวกเธอช่วยฉันสั่งสอนหม่าหลันเหรอ? ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอเองที่ไม่ชอบหน้าของหม่าหลัน ถึงได้ลงมือทำร้ายเธอ!”

จางกุ้ยเฟินรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง: “นายหญิงใหญ่เซียว คุณนี่เปลี่ยนอารมณ์เร็วกว่าเปลี่ยนหน้าหนังสืออีกนะ! ตอนนั้นอยู่ในสถานที่กักขัง พวกเราปกป้องคุณขนาดนั้น คาดไม่ถึงว่าจะแลกกลับมาเป็นผลเช่นนี้!”

นายหญิงใหญ่เซียวพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า: “ขอโทษด้วยจริงๆ ทำให้แกผิดหวังแล้ว แต่ว่านี่ก็เป็นการเพิ่มบทเรียนสำหรับแก บอกให้แกว่าจากไปนี้ต้องรู้จักฐานะตัวตนของตัวเองให้ดี วันๆอย่าได้คิดที่จะตีสนิทกับคนรวย!”

จางกุ้ยเฟินกัดฟันพูดว่า: “เฮ้ย นายหญิงใหญ่คุณพูดแบบนี้ใช่มั้ย? ได้! งั้นฉันก็ไม่ไปแล้ว! ฉันจะดูว่าคุณจะทำอะไรฉันได้!”

หลี่เยว่ฉินและต่งหยู้หลิงก็พูดพร้อมกันว่า: “นั่นนะสิ! พวกเราก็ไม่ไป!”

นายหญิงใหญ่เซียวคาดไม่ถึงว่าสามคนนี้กลับอยากจะใช้วิธีการอันธพาล จึงพูดด้วยเสียงเย็นชาในทันที: “พวกแกสามคนอย่ามาใช้วิธีการอันธพาลนี้กับฉันที่นี่ พวกแกก็ไม่ส่องกระจกดูตัวเอง คนบ้านนอกคอกนาที่เหม็นเน่าทั้งตัวอย่างพวกแก คู่ควรที่จะอยู่ในคฤหาสน์Tomson Rivieraเหรอ? ถ้าหากขนาดพวกเธอก็สามารถที่อยู่ในคฤหาสน์หรูหราแบบนี้ได้ งั้นสวรรค์ก็ไม่มีตาจริงๆ!”

พูดแล้ว นายหญิงใหญ่เซียวพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเย่อหยิ่งว่า: “ตอนนั้นฉันอยู่สถานที่กักขัง นั่นเป็นหงส์ตกทุกข์ได้ยากเข้าไปในเล้าไก่ ถูกบีบคั้นไม่มีทางเลือกต้องอยู่ในเล้าไก่สองวัน พวกเธอยังคิดว่าฉันเป็นคนประเภทเดียวกันกับพวกเธอเหรอ?”

หลี่เยว่ฉินด่าทอด้วยความโกรธว่า: “นายหญิงใหญ่เซียว! คำพังเพยพูดได้ดี หงส์ตกจากที่สูงชะตากรรมยังสู้ไก่ไม่ได้! อีแก่อย่างแกอย่ามากเกินไปนะ! กวนประสาทพวกเรา ต่อให้แกจะอายุมากแล้ว พวกเราก็ยังคงทำร้ายแกได้!”

“นั่นนะสิ!”ต่งหยู้หลิงก็พูดคล้อยตามในทันทีว่า: “ตอนนั้นพวกเราทำร้ายหม่าหลันยังไง ตอนนี้ก็สามารถที่จะทำร้ายแกอย่างนั้นได้!”

นายหญิงใหญ่เซียวเบะปากพูดว่า: “แกลองทำร้ายฉันดูสิ ตราบใดที่แกกล้าลงมือ ฉันจะโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้! ถึงเวลานั้นคงจะจับตัวคนบ้านนอกคอกนาอย่างพวกแกกลับไปอย่างแน่นอน!”

นายหญิงใหญ่เซียวจับตาดูพวกเธออยู่ตลอด เมื่อเห็นพวกเธอเก็บข้าวของเสร็จ ก็โบกมือไปมาตรงหน้าจมูกและพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจว่า: “โธ่เอ๊ยฉันเหม็นจะตายแล้ว! พวกแกรีบไสหัวออกไปเลยนะไสหัวออกไปยิ่งไกลยิ่งดี ถ้าครั้งหน้ายังกล้ามาอีก ฉันจะแจ้งตำรวจก่อนเป็นอันดับแรก!”

จางกุ้ยเฟินรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก แต่เพราะกลัวว่าจะก่อให้เกิดเรื่อง ทำได้เพียงกัดฟันทนต่อไป และพูดกับทั้งสองคนข้างกายว่า: “เราไปกันเถอะ!”

ในเวลานี้ ก็มีชายฉกรรจ์เจ็ดถึงแปดคนผลักประตูเข้ามาจากข้างนอก เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ เอ่ยปากถามว่า: “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? พวกเธอสามคนจะไปไหน?”

จางกุ้ยเฟินคิดว่าชายฉกรรจ์ที่ดุร้ายน่ากลัวเหล่านี้ นายหญิงใหญ่เซียวเป็นคนหา ก็พูดอย่างวิตกกังวลในทันทีว่า: “พี่ชายทุกท่านอย่าได้หุนหันพลันแล่น พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้! ไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

หันหน้าคนนั้นพูดอย่างเยือกเย็น: “ไปอะไร?! ประธานอู๋ของพวกเราบอกแล้วว่า พวกเธอสามคนจากนี้ไปก็คิดเสียว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง บ้านหลังนี้เป็นของเขา ไม่ใช่ของนายหญิงใหญ่เซียว นายหญิงใหญ่เซียวก็เหมือนกับพวกเธอ แค่อาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราวเท่านั้นเอง ดังนั้น ตราบใดที่ประธานอู๋ของพวกเราพยักหน้า พระเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ไล่พวกเธอไป!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน