ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 2233

ภายใต้การสังเกตของฉินกาง เย่เฉินเอากล่องไม้สองกล่อง ยืนไปด้านหน้าของเขา แล้วกล่าว “ประธานฉินครับ ด้านในนี้เป็นยาสองเม็ด เป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆของผม ยาเม็ดด้านขวาปริมาตรมากขึ้นมาหน่อย สีดำสักหน่อย เป็นยาช่วยหัวใจที่เมื่อก่อนผมมอบให้ทุกคนครับ ส่วนด้านซ้ายเม็ดนี้ปริมาตรจะน้อยลงหน่อย เม็ดยาจะมีสีจะสว่างขึ้นมาหน่อย เป็นยาอายุวัฒนะที่กลั่นใหม่ออกมาครั้งนี้ครับ”

ฉินกางตื่นเต้นสุดๆ กล่าวอย่างตัวสั่นว่า “อาจารย์...อาจารย์เย่ครับ ผมมีดีอะไร ทำไมถึงคู่ควรที่ท่านจะให้ยาอายุวัฒนะที่ล้ำค่าขนาดนี้ ยา...ยา...ยาอายุวัฒนะนี่ถ้าเอาไปประมูลขาย ขายได้น้อยหน่อยก็สองสามพันล้าน มันช่าง มันช่างล้ำค่าจริงๆ...”

แม้ฉินกางจะรอคอยยาอายุวัฒนะอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ในใจลึกๆของเขาก็รู้ดีมาก ว่าค่าของยาอายุวัฒนะนั้นสูงมากๆ สูงกว่าจากโสมชั้นดีที่อายุสี่ร้อยปีต้นนั้นที่ตนให้เย่เฉินอยู่มาก

ดังนั้น ตอนที่เย่เฉินเอายาอายุวัฒนะออกมา ในใจลึกๆของฉินกาง ก็เริ่มถอดใจขึ้นมาเล็กน้อย

นี่ก็สะท้อนสันดานด้านในด้านหนึ่งของฉินกางออกมา

ถ้าเป็นคนที่ชอบเอาเปรียบผู้อื่น มีคนให้ของล้ำค่าขนาดนี้ ก็จะรับไว้โดยไม่ลังเลใดๆ หลีกเลี่ยงอีกฝ่ายเปลี่ยนใจ

แต่ถ้าเป็นคนที่ปฏิบัติกับคนอื่นเหมือนที่ปฏิบัติกับตัวเอง งั้นตอนที่เขาได้รับของจากคนอื่น ของที่ล้ำค่าความคิดแรกที่เกิดขึ้นในจิตใจเบื้องลึก คือตนจะตอบแทนน้ำใจนี้ได้อย่างไร

ตระกูลฉินมีเงินมาก ทรัพย์สินรวมๆกัน ก็ระดับหมื่นล้าน

ทรัพย์สินส่วนใหญ่ล้วนเป็นอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งหุ้นของธุรกิจ เงินสดที่สามารถใช้จ่ายตามอัธยาศัยได้จริงๆ ความจริงก็มีแค่ไม่กี่ร้อยล้านเท่านั้น

ถ้าจะให้ฉินกางเอาเงินสดสองพันล้านไปซื้อยาอายุวัฒนะหนึ่งเม็ด เขาก็จะรู้สึกว่ามีกำลังพอแต่ไม่มีกำลังใจ

เขาเข้าใจดี ที่เย่เฉินพูดแบบนี้ เพื่อคำนึงถึงความรู้สึกของตัวเอง ให้ตนรับยาอายุวัฒนะเม็ดนี้ไปอย่างสบายใจมากขึ้น

และ เขาก็ตระหนักได้ หลังจากที่เย่เฉินพูดจบแล้ว ในใจของตน ไม่สับสนเหมือนอย่างเมื่อกี๊แล้ว

แน่นอน เขาก็รู้ดี ว่าที่เย่เฉินพูดว่าตนร่วมหุ้น ก็เพราะให้เกียรติตนจึงได้พูดแบบนี้ ตนให้โสมม่วงหนึ่งต้น ความจริงไม่ถึงขั้นร่วมหุ้นอะไรเลย

ต้องรู้ไว้ ราคาของโสมม่วงชั้นเลิศนี้ อยู่ที่ประมาณสี่ถึงห้าล้าน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน