ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 69

บทที่ 69 ตายแน่

ชายหนุ่มโดนขวดไวน์กระแทกลงไป เวียนหัวจนตาลายทันที เกือบจะยืนไม่มั่น

คนที่อยู่รอบๆตกใจกับขวดไวน์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้

เซียวไห่หลงมองดูใบหน้าของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยเลือด หัวเราะเย็นยะเยือก:“ถ้ายังไม่ไสหัวไป กูจะตีให้ขามึงหัก!”

ชายหนุ่มกัดฟันแน่น กุมศีรษะเอาไว้:“ได้ มึงแน่จริง รอกูก่อน!”

พูดจบ ชายหนุ่มกุมศีรษะที่ถูกขวดไวน์กระแทก แล้วรีบวิ่งออกไป

เซียวไห่หลงหัวเราะเย้ยหยัน พร้อมกับพูด:“ไอ้โง่ เป็นแค่สวะแต่กล้าข่มขู่กู? ไม่ไปสืบสักหน่อย กูเซียวไห่หลงเคยกลัวใครบ้าง?"

พูดจบ เขาก็หันไปพูดกับต่งรั่งหลินด้วยใบหน้าได้ใจ:“รั่งหลิน ไปที่ไหนก็มีแต่แมลงวัน คุณอย่าถูกเขากระทบเลยนะครับ เรากินข้าวกันต่อเถอะ ไม่ต้องสนใจเขา"

เกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทแบบนี้ ต่งรั่งหลินอารมณ์ไม่ดีมาก เธอพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก

ระหว่างกินข้าว เซียวไห่หลงอยากทำให้บรรยากาศดีขึ้นอยู่หลายครั้ง แต่ต่งรั่งหลินกลับไม่สนใจ

ในสายตาของเธอ เซียวไห่หลงไม่เพียงแต่ไม่มีความสามารถ ทั้งยังบ้าบิ่นเกินไป ผู้ชายแบบนี้ ไม่อยู่ในสายตาของตน

เซียวไห่หลงคิดว่า ตนเองทำต่อหน้าต่งรั่งหลิน จัดการไอ้คนโง่คนนั้น ต่งรั่งหลินน่าจะประทับใจในความเป็นชายของตน ทว่าคิดไม่ถึง ดูเหมือนต่งรั่งหลินจะรังเกียจและเกลียดตนมากขึ้น

สิ่งนี้ทำให้เขาหงุดหงิดมาก คิดไม่ถึง ต่งรั่งหลินไม่ชอบผู้ชายที่ใช้ความรุนแรง เป็นการเอาก้อนหินกระแทกเท้าตนเอง?

อาหารมื้อนี้ เซียวไห่หลงกินด้วยความไม่สบอารมณ์

เพิ่งกินข้าวเสร็จ เดิมทีเขาอยากจะพูดกับต่งรั่งหลินอีกสักหน่อย เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์

สุดท้าย ต่งรั่งหลินกลับขมวดคิ้วแล้วพูด:“ตอนนี้ดึกมากแล้ว ฉันต้องกลับไปแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะ"

เซียวไห่หลงเสียใจมาก พูด:“ถ้าอย่างนั้นผมขับรถไปส่งคุณนะครับ!”

ต่งรั่งหลินส่ายหน้า:“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเรียกรถกลับไปก็พอแล้ว"

เวลานี้ต่งรั่งหลินอยากจะรีบตีตัวออกห่างจากเซียวไห่หลง

ภายในใจของเซียวไห่หลงโมโหเป็นอย่างมาก ทว่ากลับพูด:“ถ้าอย่างนั้นผมส่งคุณขึ้นรถนะครับ ไม่อย่างนั้นผมไม่วางใจ"

ต่งรั่งหลินไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้า เหยียดตัวลุกขึ้นเดินออกไป

เซียวไห่หลงรีบตามออกไป

เธออดกลั้นความโมโหเอาไว้ในใจ เดิมทีอยากจะสร้างเดทที่โรแมนติก อาศัยโอกาสนี้สารภาพรักกับต่งรั่งหลิน ทว่าคิดไม่ถึงกลับถูกไอ้สารเลวนั่นทำเสียหายหมด ไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย ทั้งยังทำให้ต่งรั่งหลินมีภาพจำที่ไม่ดี ซวยชิบหาย

"อย่าให้กูเจอมันอีก ถ้าเจอมันอีก กูจะเอามันให้ตาย" เซียวไห่หลงก่นด่า

........

ในตอนนี้ เย่เฉินเองก็เพิ่งกินข้าวเสร็จ กำลังเก็บถ้วยชามตะเกียบ

เซียวชูหรันพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล:“เย่เฉิน ในกระเป๋าของฉันมีใบเสนอราคาของฝ่ายผลิต คุณเห็นไหมคะ?"

เย่เฉินส่ายหน้า:“ตั้งแต่กลับมาผมก็ไม่เคยแตะกระเป๋าคุณเลย"

เซียวชูหรันครุ่นคิด ตบหน้าผากตนเอง พูด:“อั๊ยย๊า เอกสารนั้นน่าจะลืมไว้ในห้องประชุมของตี้เหากรุ๊ป พรุ่งนี้เช้าฉันต้องใช้ คุณขับรถส่งฉันไปเอาหน่อยได้ไหมคะ!”

เย่เฉินยิ้มพร้อมกับพูดขึ้น:“คุณเหนื่อยขนาดนี้แล้ว พักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมไปเอาให้"

เซียวชูหรันถอนหายใจ พูด:“เหนื่อยมากจริงๆค่ะ ถ้าอย่างนั้นลำบากคุณด้วยนะคะ หมายเลขของเอกสารนั้นคือGY20191101”

เย่เฉินผายมือ พูด:“ทำเพื่อภรรยา ไม่ลำบากครับ"

พูดจบ เย่เฉินก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังตี้เหากรุ๊ป

อีกด้านหนึ่ง เซียวไห่หลงและต่งรั่งหลินเพิ่งออกมาจากร้านอาหาร เดินมาริมถนน

ต่งรั่งหลินกำลังจะเรียกรถ ในเวลานี้เอง ริมถนนมีรถตู้สีขาวสามคนจอดเอาไว้พร้อมกับผู้ชายรูปร่างกำยำนับสิบคนเดินออกมา พวกเขาเดินมาด้วยท่าทีเหี้ยมโหด

ผู้ชายสิบกว่าคนนี้สวมหน้ากากสีดำปิดหน้าเอาไว้ ในมือถือกระบองเหล็ก แค่มองก็รู้ว่ามาหาคู่อริ!

"แย่แล้ว!” เซียวไห่หลงเห็นคนมากมายวิ่งมาทางตน ตกใจทันที

ต่งรั่งหลินเองก็เห็นภาพนี้ เธอตกใจจนหน้าถอดสี เธอเดาออกว่าคนพวกนี้ต้องเป็นคนที่ชายหนุ่มคนเมื่อกี้จ้างมาอย่างแน่นอน ดูจากท่าทีแล้ว เกรงว่าต้องมีคนตาย!

เป็นจริงตามนั้น ชายหนุ่มที่มีผ้าก๊อซพันศีรษะเอาไว้เดินออกมา พร้อมกับร้องตะโกน:“ให้ตายสิ ตีมัน!”

สิ้นเสียง คำสั่ง ทุกคนวิ่งมาทางเซียวไห่หลงทันที

"ฉันเป็นคุณชายตระกูลเซียว! พวกแกกล้าแตะต้องฉันหรอ!”

เซียวไห่หลงกระวนกระวายเป็นอย่างมาก แต่ยังแสร้งทำเป็นปากแข็งพูดข่มขู่

ว่าจะจีบเธอ สร้างสัมพันธ์กับตระกูลต่ง จากนั้นทำให้ตระกูลได้ดิบได้ดีไปด้วย

ตอนนี้เอาแล้วไง ทำผิดต่อต่งรั่งหลินอย่างแรง!

ทว่า เวลานี้เขาจะกลับรับโทรศัพท์ได้ยังไง?

รับโทรศัพท์ก็เพื่อให้ตนเองกลับไป แม้แต่คนโง่ก็เดาออก

แต่ว่า กลับไปแล้วตนยังจะมีชีวิตรอดอยู่ไหม? คนพวกนั้นเหี้ยมโหด ทั้งยังมีกระบองเหล็ก ต่อให้ไม่เอาชีวิตของตน เกรงว่าคงจะทำร้ายตนให้พิการไปตลอดชีวิต

ผู้หญิงสำคัญ แต่ชีวิตสำคัญยิ่งกว่า!

ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจ หนีต่อไป ไม่สนใจเธอ!

ต่งรั่งหลินติดต่อเขาไม่ได้ ภายในใจรู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างมาก

เธออ้อนวอนชายหนุ่ม:“ฉันให้ชดเชยเงินให้คุณได้นะคะ ปล่อยฉันไปเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉันจริงๆ"

ชายหนุ่มหัวเราะเหี้ยมเกรียม:“ผมไม่ต้องการเงินของคุณ!ผมต้องการร่างกายของคุณ!ผมจะกดคุณไว้ใต้ร่างแล้วมีความสุขให้สาสม!”

ต่งรั่งหลินตกใจจนวิญญาณออกจากร่าง เธอรู้ ถ้าหากตนไม่คิดหาวิธี ผู้ชายคนนี้ไม่มีวันปล่อยตนไปแน่

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงอาศัยตอนที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันระวัง กัดฟัน แล้วเตะไปที่ระหว่างขาของชายหนุ่ม

ชายหนุ่มคิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าขัดขืน ถูกเตะเข้าที่เป้าเต็มๆ เจ็บจนร้องเสียงหลงพร้อมกับปล่อยมือ คิดได้แบบนั้นจึงยื่นมือออกไป เอามีดแทงไปที่เธอ!

ต่งรั่งหลินกำลังจะคิดหนี รู้สึกเจ็บตรงขาอ่อนขึ้นมากะทันหัน เธอร้องด้วยความเจ็บปวด ล้มลงกับพื้น

มีดกรีซที่คมเฉียบ แทงตรงขาอ่อนของเธอ เลือดสดรินไหลออกมา

"นางสารเลว ยังคิดจะหนี!”

ชายหนุ่มโมโหอย่างมาก กระชากผมเธอขึ้นมา พูดเสียงเย็นยะเยือก:“ยินดีด้วย ที่ทำให้กูโมโหสำเร็จ คืนนี้ กูกับเพื่อนของกูจะดูแลมึงเป็นอย่างดี! ให้มึงได้ขึ้นสวรรค์!”

ต่งรั่งหลินร้องไห้ด้วยความสิ้นหวัง

ภายในใจของเธอประกาศโทษประหารให้ตนแล้ว เธอรู้ดี วัยรุ่นพวกนี้ไม่มีวันปล่อยตนไป ตนต้องตายในมือพวกเขาแล้วจริงๆ

ในสถานการณ์แบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนมาช่วยตน......

เธอไม่ทันสังเกตเห็น ในเวลานี้ รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำกำลังเคลื่อนตัวมาใกล้ เย่เฉินที่กำลังขับรถอยู่นั้นเห็นเธอทันที คิ้วขมวดเป็นปม!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน