บทที่ 84 ไอ้โง่นี่ก็อยู่ด้วย
ไม่นานนักรถก็ขับมาถึงศูนย์นิทรรศการ
ศูนย์นิทรรศการเป็นอาคารโดมทรงกลมหลังหนึ่ง รอบนอกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นร้านขายภาพวาดจัดแสดงลายดอกไม้กับนกและของสะสมชื่นชมต่างๆ ตรงกลางถึงจะเป็นลานประมูล
ศูนย์นิทรรศการที่พึ่งสร้างเมื่อปีที่แล้ว สร้างได้เด่นตระหง่านและมีกลิ่นอายความโบราณ
เย่เฉินตามซ่งหวั่นถิงไปขึ้นลิฟต์ที่มองเห็นทัศนียภาพได้เพื่อขึ้นไปที่ขั้นหกซึ่งอยู่บนสุด
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ด้านหน้าก็ปรากฏนิทรรศการที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งศิลปะ ผนังทั้งสี่ด้าน มีภาพเขียนพู่กันโบราณแขวนอยู่ ที่แห่งนี้ก็คือลานประมูล
เวทีด้านหน้าของงานประมูลถูกปูด้วยพรมสีแดง ด้านล่างของเวทีมีชุดโซฟาวางอยู่ บนโต๊ะยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สไตล์ตะวันตกกับผลไม้ที่สดใหม่ไว้ให้แขกได้เพลิดเพลิน
เทียบกับงานประมูลครั้งที่ผ่านมาเห็นได้ว่าเจินเป่าเก๋อทุ่มเทฝีมือเต็มที่มากกับการกลับมาครั้งนี้ แค่ค่าเช่ากับค่าจัดสถานที่ เกรงว่าคงใช้งบหมดไปเป็นล้านแล้ว
ที่นั่งชั้นพิเศษของซ่งหวั่นถิงอยู่ตรงกลางของด้านหน้าสุด คนกลุ่มหนึ่งกำลังจะเดินไปที่ด้านหน้า แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นที่ด้านหลัง
เย่เฉินทำทันแค่หันไปดู ก่อนที่เขาจะถูกคนสองสามคนเบียดขึ้นมาจนต้องไปอยู่ด้านข้าง
เขาขมวดคิ้ว แล้วมองดูคนกลุ่มหนึ่งที่เดินเข้ามาจากทางเดิน คนสองสามคนที่มาเปิดทางนั่นคือบอดี้การ์ด
“ปรมาจารย์วีก็มาแล้วเหรอ?” ซ่งหวั่นถิงเงยหน้าขึ้นอุทานออกมาเบาๆพร้อมมองไปยังกลุ่มคน
ผู้ที่เบียดเข้ามาล้วนแล้วแต่เป็นแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานประมูล แต่ในตอนนี้ทุกคนกำลังรายล้อมชายวัยกลางคนที่ใส่ชุดสีน้ำเงินแขนยาวผู้มีสีหน้าเย่อหยิ่งเย็นชาด้วยอารมณ์เคารพนับถืออย่างที่สุด
เย่เฉินมองดู แล้วพูดขึ้นว่า “ที่แท้แล้วนี่ก็คือปรมาจารย์วีคนนั้นสินะ ท่าทางนี้มีมาดมากพอตัวเลยนะครับ....”
ปรมาจารย์วีเดินไปข้างหน้าโดยมีคนกลุ่มคนคอยล้อมไว้ที่ด้านหลัง เขาใช้มือลูบเอาอักษรรูนสามเหลี่ยมสีเหลืองอ่อนยื่นให้เถ้าแก่ที่สรรเสริญเยินยอเขาเป็นที่สุดคนหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “วันนี้คุณมีวาสนากับผมนะครับ ยันต์คุ้มกันนี้ผมยกให้ฟรี มันสามารถปกปักให้คุณปลอดภัย ครอบครัวเจริญรุ่งเรือง”
“ขอบคุณมากครับปรมาจารย์วี”
เถ้าแก่คนนั้นมีสีหน้าตกใจ เขารับยันต์คุ้มกันไปด้วยความปลื้มปริ่มราวกับได้ขุมทรัพย์มาไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะพูดกับผู้คนรอบๆว่า “ยันต์คุ้มกันของอาจารย์วีมีจิตวิญญาณมาก ผมไปขอทุกปีเลยล่ะ ต้องขอบคุณปรมาจารย์วีจริงๆช่วงสองสามปีมานี้ธุรกิจของผมน่ะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเลยนะครับ”
กลุ่มคนรอบๆมองดูด้วยความอิจฉา บางคนก็พูดขอร้องปรมาจารย์วีอย่างหน้าไม่อาย ส่วนปรมาจารย์วีก็ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
ผู้ช่วยของปรมาจารย์วีที่อยู่ข้างๆหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา แล้วใช้ภาษาพื้นเมืองก่างพูดกับหมู่คนว่า “พวกคุณคิดว่ายันต์คุ้มกันของปรมาจารย์วีเป็นใครอยากได้ก็ได้อย่างนั้นเหรอ? คนอื่นมาขอยันต์คุ้มกันถึงสำนักเสวียนจีของเราน่ะอย่างต่ำก็ต้องสองแสนต่ออัน!”
กลุ่มคนฟื้นคืนสติ แล้วก็มีคนตะโกนขึ้นทันที
“ยากนักที่ปรมาจารย์วีจะมาเมืองจินหลิงสักครั้ง ผมยอมจ่ายสองแสนเพื่อยันต์คุ้มกันหนึ่งอัน ขอปรมาจารย์กรุณามอบยันต์ให้ด้วยครับ”
“ผมก็จะซื้อด้วย! ขอปรมาจารย์กรุณามอบยันต์ให้ด้วยครับ”
“ยันต์คุ้มกันของปรมาจารย์วีหาได้ยากมาก เงินสองแสนนั่นนับประสาอะไร ผมเอาห้าอัน!”
สถานที่ประมูลกำลังคึกคัก มีเถ้าแก่ไม่น้อยที่โอนค่ามัดจำใน ณ ตรงนั้น พวกเขาต่างก็พากันขอซื้อยันต์คุ้มกันของปรมาจารย์วี
“ต่อแถวให้เรียบร้อย มาทีละคน”
ผู้ช่วยให้พวกเขาลงทะเบียนทีละคนๆอย่างรำคาญใจ สถานที่แทบแตก
เย่เฉินพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “ยันต์คุ้มกันอะไรแพงขนาดนี้ เงินนั้นหามาง่ายเหลือเกินนะครับ”
เสียงพูดของเขาไม่ดัง แต่ปรมาจารย์วีกลับเงยหน้าขึ้นมาทันที คิ้วของเขาขมวดแน่นพร้อมมองจ้องมายังเย่เฉิน
ปรมาจารย์เย่ดันกลุ่มคนออก แล้วก้าวเดินใหญ่ๆตรงมายังเย่เฉิน ก่อนจะมองคำนวณเขาพร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ยินคำพูดของสหายท่านนี้แล้ว คุณมีความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับยันต์คุ้มกันของผมงั้นเหรอครับ?”
เย่เฉินพูดเรียบๆขึ้นว่า “ผมคิดว่ายันต์คุ้มกันนี่ไม่ได้คุ้มกับเงินจำนวนมากขนาดนั้นนะครับ”
คนในกลุ่มนั้นรีบร้อนพูดขึ้นทันทีว่า “คุณจะไปเข้าใจอะไร! ยันต์ของปรมาจารย์วีราคาสองแสนนี่ถือว่าราคาถูกแล้ว!”
“นั่นน่ะสิ! ยันต์สองล้านก็ยังมีแต่คนแย่งกันซื้อนะ!”
“ยาจกแบบนี้ เห็นทีแม้แต่ยันต์คุ้มกันที่ขายในวัดราคาสองหยวนก็ยังซื้อไม่ไหวล่ะมั้ง!”
ปรมาจารย์วีมองเย่เฉิน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “พูดจาไม่ระวัง จะนำหายนะมาสู่ตัวได้ คนเรามีสมองก็เพื่อใช้ในการคิดก่อนพูด ควรคิดใช้สมองคิดพิจารณาก่อน ให้ดีก็อย่างไม่เข้าใจแล้วแกล้งทำเป็นเข้าใจ”
พูดจบ ปรมาจารย์วีก็แบะปากอย่างดูถูกเหยียดหยาม แล้วเดินเข้าไปในนิทรรศการก่อน
เซียวฉางควนมองดูอย่างตั้งอกตั้งใจ เพียงแต่เขาไม่มีเงิน ไม่อย่างนั้นเขาก็คงยกป้ายอย่างคันไม้คันมือด้วยเหมือนกัน
แต่เย่เฉินก็ไม่ได้สนใจของสะสมพวกนี้
เพราะแม้ว่าสินค้าประมูลพวกนี้จะล้ำค่ามาก แต่ก็ทำได้แค่เก็บสะสมเท่านั้น สำหรับเขาแล้วไม่ได้มูลค่ามากขนาดนั้น
ในตอนนั้นเอง พนักงานหญิงประจำพิธีการก็ยกถาดเซรามิกมา ในถาดมีสร้อยไข่มุกสีม่วงอยู่เส้นหนึ่ง เปล่งประกายอยู่ใต้แสง!
ผู้ประมูลแนะนำว่า “ไข่มุกสีม่วงธรรมชาติจากทะเลตงไห่ ในหอยมุกกว่าพันตัวถึงจะเลือกออกมาได้หนึ่งเม็ด ขนาดใหญ่เท่ากันสม่ำเสมอ เป็นสินค้าหายาก”
ราคาประมูลของสร้อยไข่มุกสีม่วงเส้นนี้ไม่แพงนัก เพียงแค่สี่แสนเท่านั้น
เย่เฉินเงยหน้า แล้วเสนอราคาทันที
“ห้าแสน!”
เซียวฉางควนเปลือกตากระตุก รีบร้อนเอ่ยขึ้นว่า “ประมูลอันนี้ทำไม! สร้อยไข่มุกไม่กี่หมื่นก็ได้เส้นหนึ่งแล้ว นี่สี่ห้าแสนไว้หลอกกินคนโง่หรอก อย่าประมูลเชียวนะ!”
เย่เฉินมองดูสร้อยไข่มุกเส้นนั้น ใจก็นึกถึงเซียวชูหรัน เขาพูดอย่างยิ้มๆว่า “ผมมองว่าชูหรันใส่แล้วต้องเหมาะมากแน่ๆครับ ไข่มุกช่วยบรรเทาจิตใจให้สงบ ช่วงนี้เธอกดดันมากนอนไม่ค่อยหลับด้วยครับ”
ทันทีที่ได้ยินว่าเขาซื้อให้ลูกสาว ต่อให้เซียวฉางควนอยากพูดอะไร เขาก็ทำได้แค่ปิดปากอย่างรู้งาน
มูลค่าการเก็บสะสมของสร้อยคอเส้นนี้ไม่สูงนัก จึงไม่มีใครเสนอราคาต่อ
ในขณะที่ผู้จัดประมูลกำลังจะทำการตัดสินครั้งสุดท้าย จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“หกแสน!”
เย่เฉินมองไปด้านข้างตามเสียงที่ลอยมา
เห็นฉินเอ้าตงคนรนหาที่ตายของตระกูลฉินยื่นหน้าออกมาด้านข้าง ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเย็นชา ก่อนจะพูดกับเย่เฉินว่า “โทษทีนะ พอดีผมก็ชอบสร้อยไข่มุกนี่เหมือนกันน่ะ!”
เย่เฉินขมวดคิ้ว ไอ้โง่นี่ทำไมก็อยู่ที่นี่ด้วย? ไม่ใช่ว่าจะถูกฉินกางกักบริเวณไปแล้วเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...
รอตอนต่อไปอยู๋นะครับกำลังสนุกเลย...
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะครับ กำลังสนุกเลย...
ไม่มีอัพเดตแล้วหรือครับ กำลังสนุกเลย...
99% เว็บนี้แปลใกล้เคียงคำพูดของคนไทยที่สุด เสียดายเขาไม่แปลต่อให้ เว็บอื่นเขาไปไกลแล้วแต่แปลเข้าใจยากหน่อย ต้องใช้การเดาเข้าช่วยถึงพอจะเข้าใจ มีเว็บที่เป็นภาษาจีนล้วน ลองใช้โปรแกรมแปลภาษาดู ก็เหมือนเว็บอื่นๆที่ว่า ผลสุดท้ายก็กลับมาอ่านเว็บนี้ต่อ คิดว่าถ้าอ่านจนจบที่เขาแปล ก็คงไปหาอ่านเว็บอื่นต่อ เดาเอา😁...
อัพตอนต่อไปหน่อยครับกำลังสนุกเลย...
il semble que c'est leur fin d'histoire comme ça . merci pour ce temps de lecture,nous aurions préféré un lien d'achat complète du livre hélas . il temps de faire autre chose désormais...