เมื่อนึกถึงจุดนี้ เย่เฉินก็โทรหาท่านหงห้าเลย
ถึงอย่างไรท่านหงห้าก็เป็นจักรพรรดิแห่งโลกใต้ดินของเมืองจินหลิง หูตาของเขา ต้องมากมายกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว
ทันทีที่เชื่อมสายได้ ท่านหงห้าก็สอบถามอย่างนบน้อบ “ปรมาจารย์เย่ ท่านมีอะไรจะสั่งการหรือครับ?”
เย่เฉินจึงบอกไป “สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิงมีเด็กอายุสองถึงสามขวบอยู่สิบคน เมื่อคืนถูกคนลักพาตัวไปแล้ว คุณคลุกคลีอยู่ในโลกใต้ดินของเมืองจินหลิงมานาน ช่วยผมตรวจสอบหน่อย ระยะนี้มีใครปล่อยข่าวว่าจะรับซื้อเด็กบ้างไหม? หรือมีใครสอบถามสถานการณ์ของเด็กๆ บ้างหรือเปล่า”
มีคดีมากมายที่สามารถคลี่คลายได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้คนที่พลังเหนือธรรมชาติทำการสอบสวน หรือใช้เทคโนโลยีวิทยาการขั้นสูงอะไร แต่เป็นเพราะตัวผู้ร้ายที่หลงเหลือเบาะแสสำคัญเอาไว้ในกลุ่มเฉพาะของเขาเอง
ยกตัวอย่างเช่นพอมีคนหนึ่งถูกฆ่า ฝ่ายตำรวจก็จะเริ่มตรวจพิสูจน์จากศพ สืบสาวไปทีละนิดๆ แต่คนในวงการกลับรู้ดีว่าคนๆ นี้เคยล่วงเกินใคร เคยเข้าร่วมในเหตุการณ์อะไร มีความเป็นไปได้ที่จะถูกใครฆ่าบ้าง
ยกตัวอย่างอีกสักข้อ รถของคนในพื้นที่หายไปคันหนึ่ง หากว่าไปแจ้งความ ให้ตำรวจดำเนินคดี ปกติก็ต้องตรวจสอบใช่ไหมว่ารถคันนี้เคยไปไหนมาบ้าง? หายไปที่ไหน? กล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นไหมว่าในช่วงนี้มีใครเคยสัมผัสรถคันนี้บ้าง?
แต่หากว่าไปถามคนในโลกใต้ดินโดยตรงเลยว่า คนในท้องที่มีใครบ้างที่ขโมยรถ หรือคนในพื้นที่มีพวกไหนบ้างที่รับซื้อของโจร มีใครเคยเห็นรถคันนี้ที่หายไปไหม โดยทั่วไปแล้วจะได้รับคำตามที่แม่นยำตรงคำถาม
แต่สิ่งสำคัญคือ ในโลกใต้ดินก็มีกฎและระเบียบที่ชัดเจนของพวกเขาเอง แม้ว่าจะเป็นคนในวงการ แต่ถ้าอยากได้ข้อมูลที่แม่นยำ ความสามารถและฐานะของเขาก็ต้องคู่ควรกับข้อมูลนี้ด้วย
มิเช่นนั้นแล้ว ก็ไม่มีทางได้ข้อมูลอะไร
ยกตัวอย่างเช่นนักเลงกระจอกคนหนึ่ง อยากรู้ว่าระยะนี้ท่านหงห้าทำธุรกิจอะไรบ้าง เคยไปกินข้าวกับใครไปพบปะกับใครมาบ้าง โดยพื้นฐานแล้วไม่มีทางได้รับข้อมูลแน่นอน
แต่ถ้าหากท่านหงห้าอยากรู้ว่า ระยะนี้นักเลงกระจอกคนหนึ่งทำอะไรบ้าง ติดต่อกับใครค่อนข้างบ่อย แค่เอ่ยประโยคเดียว ลูกกระจ๊อกในสังกัดของเขาก็ช่วยสืบข่าวให้เขาแล้ว
ท่านหงห้าทราบดีว่าช่วงเด็กถึงช่วงวัยรุ่น เย่เฉินเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงทราบว่าเมื่อเด็กๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าถูกลักพาตัว เย่เฉินต้องโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่งแน่นอน
เย่เฉินสอบถามด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “ทั้งครอบครัวของไอ้หนุ่มนี่ทำธุรกิจนี้เหรอ?!”
“ใช่!” ท่านหงห้าตอบ “ครอบครัวมีหกคน พ่อเขา แม่เขา พี่ชายสองคนกับพี่สาวอีกหนึ่งคนของเขา ล้วนทำธุรกิจนี้กันหมด”
เย่เฉินกัดฟันกรอด “สวะพรรค์นี้สมควรตายจริงๆ!”
ว่าไปแล้ว เขาก็เอ่ยถามอีก “ท่านหงห้า คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ไอ้หนุ่มนี่อยู่ที่ไหน? ผมต้องการความเคลื่อนไหวทั้งหมดภายในสองวันนี้!”
ท่านหงห้ากล่าวตอบ “กำลังให้คนสืบอยู่ คิดว่าจะได้เบาะแสในไม่ช้านี้แล้ว!”
___________
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...
รอตอนต่อไปอยู๋นะครับกำลังสนุกเลย...
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะครับ กำลังสนุกเลย...
ไม่มีอัพเดตแล้วหรือครับ กำลังสนุกเลย...
99% เว็บนี้แปลใกล้เคียงคำพูดของคนไทยที่สุด เสียดายเขาไม่แปลต่อให้ เว็บอื่นเขาไปไกลแล้วแต่แปลเข้าใจยากหน่อย ต้องใช้การเดาเข้าช่วยถึงพอจะเข้าใจ มีเว็บที่เป็นภาษาจีนล้วน ลองใช้โปรแกรมแปลภาษาดู ก็เหมือนเว็บอื่นๆที่ว่า ผลสุดท้ายก็กลับมาอ่านเว็บนี้ต่อ คิดว่าถ้าอ่านจนจบที่เขาแปล ก็คงไปหาอ่านเว็บอื่นต่อ เดาเอา😁...
อัพตอนต่อไปหน่อยครับกำลังสนุกเลย...
il semble que c'est leur fin d'histoire comme ça . merci pour ce temps de lecture,nous aurions préféré un lien d'achat complète du livre hélas . il temps de faire autre chose désormais...