ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 45

หลินเมิ่งหวันบอกว่า “หม่อมฉันไม่ไปดีกว่าเพคะ ไปแบบนี้ไม่ถูกต้องตามประเพณีนัก”

ฉู่โม่หยวนพยักหน้า

เขายังไม่ได้แต่งงานกับหลินเมิ่งหวัน แม้ว่าพี่ชายรองของเขาจะเป็นองค์รัชทายาท หลินเมิ่งหวันก็ไม่จำเป็นจะต้องไปทักทายพร้อมกับเขา

แต่ถ้าหลินเมิ่งหวันอยากจะไป ฉู่โม่หยวนก็ไม่รังเกียจที่จะพานางไปด้วย แต่เมื่อหลินเมิ่งหวันไม่อยากไป ฉู่โม่หยวนก็ไม่คิดจะบังคับ

ฉู่โม่หยวนกล่าวลาหลินเมิ่งหวัน จากนั้นจึงเดินไปในหมู่บ้านพร้อมกับทหารองครักษ์

หลินซิงโหรวเงยหน้ามองแผ่นหลังของฉู่โม่หยวน แก้มของนางแดงระเรื่อ ในแววตาเต็มไปด้วยความปรารถนา

จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยช่างสูงใหญ่และหล่อเหลายิ่งนัก ทั้งยังอ่อนโยนต่อหลินเมิ่งหวัน

นางเองก็ต้องการสวามีแบบนี้!

นางเองก็เป็นบุตรีของเอกภรรยาแห่งจวนหลิน มีตรงไหนที่สู้ผู้หญิงหยำฉ่าอย่างหลินเมิ่งหวันไม่ได้

หลินซิงโหรวจ้องมองฉู่โม่หยวนอย่างลุ่มหลง โดยไม่รู้เลยว่าสายตาที่เยียบเย็นของหลินเมิ่งหวันกำลังมองมาที่นาง

หลินเมิ่งหวันนึกเยาะเย้ยอยู่ในใจ

หลังจากเกิดใหม่ หลินซิงโหรวผู้นี้ดูเหมือนจะอยู่ไม่เป็นสุขเลย

ผู้คนมากมายได้รับเชิญให้มาร่วมการงานแข่งขันโปโล ไม่นานหลังจากนั้นรถม้าหลายคันจึงทยอยมาถึง

หลินเมิ่งหวันกับคนอื่นๆ ไม่รอช้า จางซื่อส่งบัตรเชิญให้ทหารยามที่อยู่หน้าประตู จากนั้นทหารยามจึงเชิญพวกนางเข้าไปอย่างเคารพนบนอบ

ทันทีที่เข้าไปในหมู่บ้านก็มีคนเข้ามาทักทาย

จางซื่อกับสวีซื่อให้หลินเมิ่งหวันกับคนอื่นๆ มาทักทายแสดงความเคารพ จากนั้นจึงพูดคุยกับเหล่าฮูหยินที่คุ้นเคยกัน ปล่อยให้พวกที่เด็กกว่าไปสนุกกันเอง

หลินอวิ้นอี๋กับหลินซิงโหรวต่างก็มีสหายสนิทและรีบไปรวมตัวกัน เพื่อนสนิทของหลินเมิ่งหวันยังมาไม่ถึง ดังนั้นนางจึงเดินดูไปรอบๆ พร้อมกับเฝ่ยชุ่ยและเจินจู

ชาติก่อนหลินเมิ่งหวันไม่เคยได้มาร่วมงานแข่งขันโปโล ดังนั้นนางจึงอยากจะดูให้เต็มที่

แม้ว่าจะเป็นงานแข่งขันโปโล แต่คนที่ออกไปเล่นโปโลได้ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ดังนั้นแม่นางอู๋จึงจัดเตรียมอย่างอื่นไว้ที่หมู่บ้านนี้ด้วย

ในสวนดอกไม้มีดอกไม้นานาชนิดบานสะพรั่งให้ ชวนให้คนมาชื่นชม

บริเวณพื้นหญ้านอกสวนมีลำธารสายเล็กไหลรินผ่านหมู่บ้าน พื้นที่ริมแม่น้ำเป็นพื้นที่ราบ ทุ่งหญ้าเขียวขจี และมีสตรีในครอบครัวหลายคนกำลังเล่นว่าวกระดาษกันอยู่

ส่วนหลินเมิ่งหวันกำลังเดินอยู่บนเนินดิน

แม้ว่าจะเป็นเนินดินแต่ก็เป็นเนินดินที่จัดแต่งอย่างดี มีดอกไม้ประดับภูเขาเทียม มีทุกอย่างสมบูรณ์พร้อม เป็นทิวทัศน์ที่ค่อนข้างสวยงาม

ทว่าความมหัศจรรย์ของที่นี่คือทางลาดลง

เนื่องจากมีการปิดกั้นของเนินลาดนี้ ที่โล่งตรงทางลาดจึงไม่ได้รับลมง่ายๆ และแม่นางอู๋ก็จัดสนามยิงธนูไว้ใต้ทางลาดเพื่อให้ผู้คนมายิงธนูเล่น

นอกจากนี้ยังมีการละเล่นปาลูกดอกลงเป้า ชู่จวี* เตะลูกขนไก่ และการละเล่นแบบต่างๆ (*ชู่จวีคือการละเล่นคล้ายๆ การเตะฟุตบอล)

แน่นอนว่าในสวนนี้ย่อมมีโต๊ะและม้านั่งจำนวนมาก มีผลไม้สดใหม่พร้อมน้ำชาและติ่มซำจัดเตรียมไว้ให้ ให้ทุกคนพูดคุยกันได้อย่างสะดวก

ยิ่งมองดู หลินเมิ่งหวันก็ยิ่งอดชื่นชมความคิดอันละเอียดลออของแม่นางอู๋ไม่ได้

ในเมืองหลวงไม่มีสถานที่ใดที่จะหาวิธีมาเล่นสนุกได้มากมายขนาดนี้

หรือไม่ เมื่อกลับไปแล้ว นางอาจจะลองหารือกับท่านย่า หาหมู่บ้านสักที่ทำแบบเดียวกันดูดีไหมนะ?

เหล่าขุนนางในเมืองหลวงก็น่าจะชอบมากเหมือนกัน

ขณะที่หลินเมิ่งหวันกำลังคิดอยู่นั้น เสียงเยาะเย้ยก็ดังเข้าหูของนางอย่างผิดกาลเทศะ

“หลินเมิ่งหวัน เจ้ายังคงไม่ยอมปล่อยโอกาสแม้สักนิดจริงๆ สินะ”

เวลานั้นหลินเมิ่งหวันคว้าปกคอเสื้อของหลี่เล่อหย่าผลักนางไปที่ขอบทางลาด!

ภายใต้แรงกำลังของหลินเมิ่งหวัน ร่างกายของหลี่เล่อหย่าจึงเอียงไปด้านหลังและยื่นให้มั่นคงไม่ได้

หากไม่ใช่เพราะหลินเมิ่งหวันจับนางไว้ หลี่เล่อหย่าคงจะหงายตกลงไปแล้วแน่ๆ

“เจ้าเชื่อหรือไม่ ว่าถ้าเจ้าพูดอีกเพียงคำเดียว ข้าจะปล่อยเจ้าลงไปทันที”

หลินเมิ่งหวันหลุบตามองหลี่เล่อหย่าพร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

แม้ว่าทางลาดนี้จะไม่สูงชัน แต่ถ้าตกลงไปอย่างไรก็ต้องบาดเจ็บแน่นอน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสนามยิงธนูมีบุรุษอยู่หลายสิบคน ถ้าหลี่เล่อหย่าตกลงไป นางจะต้องขายหน้าไปถึงครอบครัวแน่ๆ

หลี่เล่อหย่าจับแขนของหลินเมิ่งหวันไว้แน่นและตัวสั่นไปทั้งตัว “จะ... เจ้าอย่าบ้านะ! ปล่อยข้า!”

“โอ๊ะ ให้ปล่อยหรือ” หลินเมิ่งหวันยิ้มน้อยๆ และเอ่ยอย่างสบายๆ ว่า “ได้สิ”

ทันทีที่พูดแบบนั้น หลินเมิ่งหวันก็ปล่อยมืออย่างที่พูด

หลี่เล่อหย่ากรีดร้องและจับแขนของหลินเมิ่งหวันไว้แน่น ทว่าร่างกายก็ยังสั่นไหว ดินที่เหยียบอยู่บนขอบเนินแตกและตกลงไปบางส่วน

แน่นอนว่าหลินเมิ่งหวันไม่ได้คิดจะทำร้ายหลี่เล่อหย่าจริงๆ นางปล่อยมือแค่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงคว้าปกคอเสื้อของหลี่เล่อหย่าไว้ทันที

ในเวลาเดียวกัน หลินเมิ่งหวันก็ร้องตะโกนออกมาว่า “ใครก็ได้ช่วยด้วย คุณหนูหลี่กำลังจะตกลงไป รีบมาช่วยนางที! ขะ... ข้าจะจับไว้ไม่ไหวแล้ว รีบมาเร็วเข้า...”

แน่นอนว่าเสียงกรีดร้องของหลี่เล่อหย่ากับเสียงตะโกนอย่างตกใจของหลินเมิ่งหวันย่อมดึงดูดความสนใจของทุกคน หลี่จิ่นซูเงยหน้ามองทันที เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดสีแดงงดงาม หัวใจของเขาก็เต้นรัวเหมือนกลอง

นั่นคือหลินเมิ่งหวัน!

เขาทิ้งธนูคันยาวในมือและรีบวิ่งไปยังเนินดินทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก