หลินเมิ่งหวันบอกว่า “หม่อมฉันไม่ไปดีกว่าเพคะ ไปแบบนี้ไม่ถูกต้องตามประเพณีนัก”
ฉู่โม่หยวนพยักหน้า
เขายังไม่ได้แต่งงานกับหลินเมิ่งหวัน แม้ว่าพี่ชายรองของเขาจะเป็นองค์รัชทายาท หลินเมิ่งหวันก็ไม่จำเป็นจะต้องไปทักทายพร้อมกับเขา
แต่ถ้าหลินเมิ่งหวันอยากจะไป ฉู่โม่หยวนก็ไม่รังเกียจที่จะพานางไปด้วย แต่เมื่อหลินเมิ่งหวันไม่อยากไป ฉู่โม่หยวนก็ไม่คิดจะบังคับ
ฉู่โม่หยวนกล่าวลาหลินเมิ่งหวัน จากนั้นจึงเดินไปในหมู่บ้านพร้อมกับทหารองครักษ์
หลินซิงโหรวเงยหน้ามองแผ่นหลังของฉู่โม่หยวน แก้มของนางแดงระเรื่อ ในแววตาเต็มไปด้วยความปรารถนา
จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยช่างสูงใหญ่และหล่อเหลายิ่งนัก ทั้งยังอ่อนโยนต่อหลินเมิ่งหวัน
นางเองก็ต้องการสวามีแบบนี้!
นางเองก็เป็นบุตรีของเอกภรรยาแห่งจวนหลิน มีตรงไหนที่สู้ผู้หญิงหยำฉ่าอย่างหลินเมิ่งหวันไม่ได้
หลินซิงโหรวจ้องมองฉู่โม่หยวนอย่างลุ่มหลง โดยไม่รู้เลยว่าสายตาที่เยียบเย็นของหลินเมิ่งหวันกำลังมองมาที่นาง
หลินเมิ่งหวันนึกเยาะเย้ยอยู่ในใจ
หลังจากเกิดใหม่ หลินซิงโหรวผู้นี้ดูเหมือนจะอยู่ไม่เป็นสุขเลย
ผู้คนมากมายได้รับเชิญให้มาร่วมการงานแข่งขันโปโล ไม่นานหลังจากนั้นรถม้าหลายคันจึงทยอยมาถึง
หลินเมิ่งหวันกับคนอื่นๆ ไม่รอช้า จางซื่อส่งบัตรเชิญให้ทหารยามที่อยู่หน้าประตู จากนั้นทหารยามจึงเชิญพวกนางเข้าไปอย่างเคารพนบนอบ
ทันทีที่เข้าไปในหมู่บ้านก็มีคนเข้ามาทักทาย
จางซื่อกับสวีซื่อให้หลินเมิ่งหวันกับคนอื่นๆ มาทักทายแสดงความเคารพ จากนั้นจึงพูดคุยกับเหล่าฮูหยินที่คุ้นเคยกัน ปล่อยให้พวกที่เด็กกว่าไปสนุกกันเอง
หลินอวิ้นอี๋กับหลินซิงโหรวต่างก็มีสหายสนิทและรีบไปรวมตัวกัน เพื่อนสนิทของหลินเมิ่งหวันยังมาไม่ถึง ดังนั้นนางจึงเดินดูไปรอบๆ พร้อมกับเฝ่ยชุ่ยและเจินจู
ชาติก่อนหลินเมิ่งหวันไม่เคยได้มาร่วมงานแข่งขันโปโล ดังนั้นนางจึงอยากจะดูให้เต็มที่
แม้ว่าจะเป็นงานแข่งขันโปโล แต่คนที่ออกไปเล่นโปโลได้ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ดังนั้นแม่นางอู๋จึงจัดเตรียมอย่างอื่นไว้ที่หมู่บ้านนี้ด้วย
ในสวนดอกไม้มีดอกไม้นานาชนิดบานสะพรั่งให้ ชวนให้คนมาชื่นชม
บริเวณพื้นหญ้านอกสวนมีลำธารสายเล็กไหลรินผ่านหมู่บ้าน พื้นที่ริมแม่น้ำเป็นพื้นที่ราบ ทุ่งหญ้าเขียวขจี และมีสตรีในครอบครัวหลายคนกำลังเล่นว่าวกระดาษกันอยู่
ส่วนหลินเมิ่งหวันกำลังเดินอยู่บนเนินดิน
แม้ว่าจะเป็นเนินดินแต่ก็เป็นเนินดินที่จัดแต่งอย่างดี มีดอกไม้ประดับภูเขาเทียม มีทุกอย่างสมบูรณ์พร้อม เป็นทิวทัศน์ที่ค่อนข้างสวยงาม
ทว่าความมหัศจรรย์ของที่นี่คือทางลาดลง
เนื่องจากมีการปิดกั้นของเนินลาดนี้ ที่โล่งตรงทางลาดจึงไม่ได้รับลมง่ายๆ และแม่นางอู๋ก็จัดสนามยิงธนูไว้ใต้ทางลาดเพื่อให้ผู้คนมายิงธนูเล่น
นอกจากนี้ยังมีการละเล่นปาลูกดอกลงเป้า ชู่จวี* เตะลูกขนไก่ และการละเล่นแบบต่างๆ (*ชู่จวีคือการละเล่นคล้ายๆ การเตะฟุตบอล)
แน่นอนว่าในสวนนี้ย่อมมีโต๊ะและม้านั่งจำนวนมาก มีผลไม้สดใหม่พร้อมน้ำชาและติ่มซำจัดเตรียมไว้ให้ ให้ทุกคนพูดคุยกันได้อย่างสะดวก
ยิ่งมองดู หลินเมิ่งหวันก็ยิ่งอดชื่นชมความคิดอันละเอียดลออของแม่นางอู๋ไม่ได้
ในเมืองหลวงไม่มีสถานที่ใดที่จะหาวิธีมาเล่นสนุกได้มากมายขนาดนี้
หรือไม่ เมื่อกลับไปแล้ว นางอาจจะลองหารือกับท่านย่า หาหมู่บ้านสักที่ทำแบบเดียวกันดูดีไหมนะ?
เหล่าขุนนางในเมืองหลวงก็น่าจะชอบมากเหมือนกัน
ขณะที่หลินเมิ่งหวันกำลังคิดอยู่นั้น เสียงเยาะเย้ยก็ดังเข้าหูของนางอย่างผิดกาลเทศะ
“หลินเมิ่งหวัน เจ้ายังคงไม่ยอมปล่อยโอกาสแม้สักนิดจริงๆ สินะ”
เวลานั้นหลินเมิ่งหวันคว้าปกคอเสื้อของหลี่เล่อหย่าผลักนางไปที่ขอบทางลาด!
ภายใต้แรงกำลังของหลินเมิ่งหวัน ร่างกายของหลี่เล่อหย่าจึงเอียงไปด้านหลังและยื่นให้มั่นคงไม่ได้
หากไม่ใช่เพราะหลินเมิ่งหวันจับนางไว้ หลี่เล่อหย่าคงจะหงายตกลงไปแล้วแน่ๆ
“เจ้าเชื่อหรือไม่ ว่าถ้าเจ้าพูดอีกเพียงคำเดียว ข้าจะปล่อยเจ้าลงไปทันที”
หลินเมิ่งหวันหลุบตามองหลี่เล่อหย่าพร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าทางลาดนี้จะไม่สูงชัน แต่ถ้าตกลงไปอย่างไรก็ต้องบาดเจ็บแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสนามยิงธนูมีบุรุษอยู่หลายสิบคน ถ้าหลี่เล่อหย่าตกลงไป นางจะต้องขายหน้าไปถึงครอบครัวแน่ๆ
หลี่เล่อหย่าจับแขนของหลินเมิ่งหวันไว้แน่นและตัวสั่นไปทั้งตัว “จะ... เจ้าอย่าบ้านะ! ปล่อยข้า!”
“โอ๊ะ ให้ปล่อยหรือ” หลินเมิ่งหวันยิ้มน้อยๆ และเอ่ยอย่างสบายๆ ว่า “ได้สิ”
ทันทีที่พูดแบบนั้น หลินเมิ่งหวันก็ปล่อยมืออย่างที่พูด
หลี่เล่อหย่ากรีดร้องและจับแขนของหลินเมิ่งหวันไว้แน่น ทว่าร่างกายก็ยังสั่นไหว ดินที่เหยียบอยู่บนขอบเนินแตกและตกลงไปบางส่วน
แน่นอนว่าหลินเมิ่งหวันไม่ได้คิดจะทำร้ายหลี่เล่อหย่าจริงๆ นางปล่อยมือแค่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงคว้าปกคอเสื้อของหลี่เล่อหย่าไว้ทันที
ในเวลาเดียวกัน หลินเมิ่งหวันก็ร้องตะโกนออกมาว่า “ใครก็ได้ช่วยด้วย คุณหนูหลี่กำลังจะตกลงไป รีบมาช่วยนางที! ขะ... ข้าจะจับไว้ไม่ไหวแล้ว รีบมาเร็วเข้า...”
แน่นอนว่าเสียงกรีดร้องของหลี่เล่อหย่ากับเสียงตะโกนอย่างตกใจของหลินเมิ่งหวันย่อมดึงดูดความสนใจของทุกคน หลี่จิ่นซูเงยหน้ามองทันที เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดสีแดงงดงาม หัวใจของเขาก็เต้นรัวเหมือนกลอง
นั่นคือหลินเมิ่งหวัน!
เขาทิ้งธนูคันยาวในมือและรีบวิ่งไปยังเนินดินทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก