คนอื่นๆ กลับมารู้สึกตัว ต่างก็รีบเข้ามาช่วยพวกนาง
เฝ่ยชุ่ยกับเจินจูเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ พวกนางชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อได้ยินเสียงร้องตกใจของหลินเมิ่งหวัน แต่เวลาต่อมาก็เข้าใจความหมายของหลินเมิ่งหวันทันที
คุณหนูของพวกนางฉลาดเฉลียวยิ่งนัก แม้ว่าหลินเมิ่งหวันจะผลักหลี่เล่อหย่าแต่เรื่องนี้นางไม่มีทางยอมรับแน่นอน!
เฝ่ยชุ่ยกับเจินจูมองหน้ากัน จากนั้นจึงรีบเข้าไป “ช่วย” ทันที
ในที่สุด เมื่อเหล่าบุรุษในสนามยิงธนูกระโดดตัวลอยขึ้นมา หลินเมิ่งหวันที่ได้รับ “ความช่วยเหลือ” จากเฝ่ยชุ่ยกับเจินจูก็ช่วยดึงหลี่เล่อหย่าขึ้นมาแล้ว
หลี่เล่อหย่าตกใจแทบแย่และทรุดลงไปกองกับพื้น สีหน้าของนางซีดเผือดและน้ำตาก็ไหลรินออกมา
หลินเมิ่งหวันมองหลี่เล่อหย่าอย่างขบขัน ไม่เคยคิดเลยว่านางจะขี้ขลาดขนาดนี้
สาวใช้สองคนของหลี่เล่อหย่ารีบก้าวเข้ามาและมองนางอย่างเป็นห่วง “คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่”
หลี่เล่อหย่าเงยหน้าขึ้นทันควัน ความโกรธที่รุนแรงปรากฏขึ้นมาในแววตาที่เอ่อไปด้วยน้ำตา
นางพยายามลุกขึ้นและพุ่งตรงไปหาหลินเมิ่งหวัน
“ข้าจะฆ่าเจ้านังสารเลว!” หลี่เล่อหย่าเงื้อมือขึ้นอย่างเดือดดาลและฟาดไปทางใบหน้าของหลินเมิ่งหวัน
หลินเมิ่งหวันไม่ได้หลบเลี่ยง นางยกมือขึ้นและจับแขนของหลี่เล่อหย่าได้อย่างง่ายดาย
มีรอยยิ้มเย็นในนัยน์ตาที่แวววาวของนาง “คุณหนูหลี่ นี่เป็นวิธีที่เจ้าปฏิบัติต่อผู้ที่ช่วยชีวิตเจ้าหรือ”
นัยน์ตาของหลี่เล่อหย่ากลายเป็นสีแดง “เจ้ามันสารเลว ข้าจะฆ่าเจ้า! ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”
“หยุดนะ!”
มีเสียงตะโกนดังขึ้นมา และสีหน้าของหลินเมิ่งหวันก็เยียบเย็นลงทันที
นางหันไปมองและเห็นหลี่จิ่นซูรีบร้อนตรงเข้ามา นัยน์ตาคมที่จ้องมองเต็มไปด้วยแรงโทสะที่รุนแรง แรงที่มือก็เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
หลี่เล่อหย่าเจ็บปวดและกรีดร้องอย่างน่าสังเวช หลินเมิ่งหวันกลับมาได้สติ นางกัดฟันกรอดและสะบัดหลี่เล่อหย่าออกไปอย่างแรง พยายามระงับความเกลียดชังที่เพิ่มขึ้นภายในใจอย่างสุดความสามารถ
หลี่เล่อหย่ากรีดร้องและโซซัดโซเซไปหลายก้าว แรงที่เกิดขึ้นทำให้นางกระเด็นเข้าไปหาหลี่จิ่นซู
หลี่จิ่นซูใจหายวูบและหลบไปด้านข้างตามสัญชาตญาณ
ไม่มีอะไรขวางหลี่เล่อหย่าดังนั้นนางจึงหน้ากระแทกพื้นไปเต็มๆ
หลินเมิ่งหวันไม่คิดว่าหลี่จิ่นซูจะหลบ เมื่อเห็นสภาพที่น่าเวทนาของหลี่เล่อหย่า ความเกลียดชังภายในใจของนางก็ถูกโยนทิ้งไปทันที จากนั้นจึงหัวเราะดังลั่นอย่างไม่นึกเกรงใจ
สาวใช้สองคนของหลี่เล่อหย่าชะงักไปนิดหนึ่ง จากนั้นจึงรีบวิ่งไปหานาง
“คุณหนู มะ...ไม่เป็นไรใช่หรือไม่เจ้าคะ”
คนที่มารุมล้อมมองเหตุการณ์นี้ต่างมึนงงเล็กน้อย
หลี่จิ่นซูหลบจริงๆ งั้นหรือ
หลี่เล่อหย่าเป็นน้องสาวของเขานะ นอกจากนี้หลี่จิ่นซูยังรักน้องสาวของเขามากที่สุดมิใช่หรือ
เมื่อนึกถึงฐานะของหลี่จิ่นซู ในใจของทุกคนก็คิดตลบไปตลบมาอย่างอดไม่ได้
“คุณชายหลี่ ท่านกับน้องสาวเป็น... พี่น้องที่รักใคร่กันนี่”
คำพูดของคุณชายผู้สวมอาภรณ์สีน้ำเงินมีความหมายซ่อนอยู่ ผู้ที่มามุงดูมองหลี่จิ่นซูกับหลี่เล่อหย่าด้วยความแปลกใจ บางคนก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
พี่ชายผู้เป็นบุตรของอนุภรรยารักใคร่น้องสาวผู้เป็นบุตรีของเอกภรรยา ความรักเช่นนี้มองอย่างไรก็เต็มไปด้วยความน่าชื่นชม
หลินเมิ่งหวันพยักหน้าให้เขา แต่ในความทรงจำกลับนึกไม่ออกว่าคนผู้นี้คือใคร
ลี่ชุนรีบเอ่ยขึ้นมาว่า “เป็นท่านที่จับคุณหนูของข้าไว้ก่อน คิดจะผลักนางลงจากเนิน คุณหนูของข้าจึงโกรธและคิดจะลงมือ!”
“โอ๊ะ” หลินเมิ่งหวันเลิกคิ้วเล็กน้อย “เจ้ามีหลักฐานรึ”
“ข้ากับลี่ชุนเห็นเต็มตา!”
“เฮอะ...” หลินเมิ่งหวันยิ้มเยาะ นางมองหลี่เล่อหย่าและเอ่ยว่า “หลี่เล่อหย่า เจ้าคงไม่ได้ลืมสิ่งที่เจ้าเคยพูดกับข้าก่อนหน้านี้หรอกนะ คำให้การของสาวใช้ของข้าไม่นับเป็นหลักฐาน แต่คำให้การของสาวใช้เจ้านับเป็นหลักฐานได้หรือ? ทำไมล่ะ ปากสาวใช้ของเจ้ายาวกว่าปากของคนอื่นงั้นหรือ หรือจะบอกว่าศาลาว่าการจิงจ้าวเป็นของครอบครัวเจ้าจริงๆ”
“โอ๊ะ ข้านึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ดูเหมือนจิงจ้าวอิ่งจะเป็นศิษย์ของหลี่เฉิงเซี่ยงนี่นา” หลินเมิ่งหวันพยักหน้าราวกับกำลังครุ่นคิด “มิน่าเล่าคุณหนูหลี่จึงคิดจะจับข้าไปที่ศาลาว่าการจิงจ้าวโดยไม่มีเหตุผล คิดว่าพอไปถึงศาลาว่าการจิงจ้าว เจ้าก็จะยืมอำนาจของหลี่เฉิงเซี่ยงทำตามอำเภอใจได้ ถูกต้องหรือไม่”
“หุบปาก! เจ้าอย่าได้คิดจะมาใส่ร้ายคนอื่นนะ!” หลี่เล่อหย่าตื่นตระหนกและผรุสวาทออกมา
“ท่านพ่อของข้าซื่อสัตย์มือสะอาด ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่!”
ถ้าคำพูดของหลินเมิ่งหวันหลุดรอดออกไป ชื่อเสียงของหลี่เฉิงเซี่ยงจะต้องถูกทำลายแน่
หลินเมิ่งหวันยกมือขึ้นลูบปิ่นปักผมบนศีรษะของตนเอง มองหลี่เล่อหย่าด้วยใบหน้าที่แย้มยิ้ม “คนที่ใส่ร้ายคนอื่นไม่ใช่เจ้าหรอกหรือ จิงจ้าวอิ่งก็เป็นศิษย์ของหลี่เฉิงเซี่ยงจริงๆ มิใช่หรือไง ข้าเพียงแค่คาดเดานิดเดียว สอบถามเจ้าแค่คำถามเดียว จะเป็นการใส่ร้ายไปได้อย่างไร”
“ทำไมล่ะ เจ้าพูดได้คนเดียว แต่ข้าห้ามพูดห้ามถามสักคำถามเดียวงั้นหรือ คุณหนูหลี่ตื่นเต้นขนาดนี้ หรือว่าข้าจะพูดอะไรทิ่มแทงใจ”
“หุบปาก!” หลี่เล่อหย่าหายใจกระชั้นถี่ “องครักษ์อยู่ไหน รีบมาจับนางให้ข้าเร็วเข้า!”
นางแทบอยากจะอุดปากของหลินเมิ่งหวันเสียเดี๋ยวนั้น หลินเมิ่งหวันจะได้ไม่มาพูดพล่ามไร้สาระอีก
“ข้าจะดูสิว่าใครจะกล้า!” น้ำเสียงของหลินเมิ่งหวันหนักแน่นขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าจางหายไปราวกับหมอกควัน
นางมองหลี่เล่อหย่าและเอ่ยอย่างเย็นชา “หลี่เล่อหย่า ถ้าเจ้ากล้าสั่งให้คนมาแตะต้องข้าแม้แต่ปลายนิ้ว ข้าจะทำให้สิ่งที่เจ้าพูดเมื่อครู่นี้กลายเป็นความจริง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก