วันถัดมา
เบียงก้าออกจากบ้านตอนแปดโมงเช้า
เธอภูมิใจเหลือเกินที่ห้องเช่าราคาถูกนี้อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะด้วยรถไฟใต้ดิน เธอใช้เวลาแค่เพียงยี่สิบนาทีก็เป็นอันถึง
เมื่อเธอเดินพ้นตัวอาคารออกมา เบียงก้าจำต้องยกมือขึ้นป้องที่ใบหน้าของตัวเองเพื่อให้พ้นจากแสงแดดอันแรงกล้า
เธอแทบไม่ได้หลับได้นอนตลอดทั้งคืน ดวงตาของเธอจึงเหนื่อยล้ามากในตอนที่ลุกจากเตียง
เพียงแค่แสงแดดก็มากพอจะทำให้ตาของเธอระคายเคืองได้แล้ว
เมื่อคืนเบียงก้าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อตอบคำถามที่ว่าทำไมท่านประธานต้องให้ของขวัญอะไรเธอมากมายขนาดนี้?
เรื่องการดูแลถึงบ้าน หรือแม้แต่เรื่องสุขภาพนั่นคงจะเป็นสิ่งที่เขามอบให้แทนคำขอบคุณ เพราะเธอช่วยดูแลลูก ๆให้เขาอย่างนั้นใช่รึเปล่า?”
เรื่องดอกไม้นำเข้านั่น อาจจะเป็นเพราะว่าเขาแค่อยากจะปลอบใจเธอที่ป่วยอย่างนั้นหรือ?
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ดูเป็นมิตรเอาเสียเลย
เธอยังงงรู้สึกมึนงงกับของขวัญสองกล่องเมื่อคืนไม่หาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความฟุ่มเฟือยของเขา หรือแม้แต่ของขวัญที่เขาส่งให้เธอเมื่อคืน ทั้งหมดนั่นสร้างความไม่สบายใจให้เบียงก้าอย่างมาก
ลุค ครอว์ฟอร์ดเป็นคนแบบไหนกัน? เขาเป็นคนอย่างไรกันแน่?!
ในอดีต เขาเป็นประธานเพียงคนเดียวของบริษัทในเครือ ที กรุ๊ป เขาไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนอย่างนักธุรกิจโจเสียหน่อย ในความเป็นจริงแล้ว เขาคือราชาแห่งวงการธุรกิจ ที่สำคัญที่สุดก็คือ แม้ว่าเขาจะกลายเป็นชายธรรมดาที่เดินอยู่ข้างทาง เขาก็ยังเหนือกว่าผู้ชายคนอื่นมากนัก เขามีร่างกายที่น่าอิจฉา ไหนจะหน้าตาอันหล่อเหลานั่นอีก ถ้าจะพูดว่าเขาคือชายหนุ่มที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันใฝ่ฝันถึงก็ดูจะไม่เกินจริงนัก
ในทางกลับกัน เบียงก้าไม่มีอะไรสักอย่าง
ถ้าจะนับว่าเธอมีอะไรอยู่บ้าง เธอก็มีอยู่เพียงสองสิ่งเท่านั้น หนึ่งคือเธอมีความเป็นผู้หญิง และสอง เธอยังมีชีวิต
กริยาของลุคทำให้เบียงก้าผุดความคิดแปลก ๆ ขึ้นมาในหัว ทว่ามันไร้สาระมากจนเบียงก้าคิดว่าเธอคงประเมินตัวเองสูงเกินไปหน่อย
หากว่าเขาต้องการจะหาภรรยาลับ ๆ สักคน เขาก็คงจะหาผู้หญิงแบบที่เขาชอบได้ไม่ใช่หรือ?
แล้วเขาจะต้องการผู้หญิงบ้าน ๆ แบบเธอไปทำไม?
นั่นมันไร้สาระจริง ๆ
…
ด้านนอกของย่านที่พัก
เบียงก้ากำลังจะเดินข้ามถนนตามปกติ แต่เมื่อเธอกำลังมองดูรถเพื่อที่จะข้ามถนน เธอก็เห็นว่าพนักงานทำความสะอาดที่ดูมีอายุ ซึ่งสวมเสื้อกั๊กสีเหลืองกำลังนำขยะออกจากถัง
ชายชราคนนั้นหยิบกล่องที่หนึ่งออกมา
ตามด้วยกล่องอีกใบ
กล่องใบแรกสีฟ้า ในขณะที่อีกใบสีขาว
นั่นคงเป็นกล่องที่เด็กน้อยลานี่นำมาให้เมื่อคืนใช่ไหม?
ชายชราก้มลงไปแล้วเปิดกล่องออกมา
หลังจากนั้นหญิงสาวที่แต่งตัวทันสมัยก็เดินออกมาจากระแวกนั้น
“คุณลุง คุณเป็นคนเจอมันเหรอคะ?” หนึ่งในสองสาวที่ดูอายุราวยี่สิบกลาง ๆ รีบเดินเข้าไปหาชายชราคนนั้นแล้วเอ่ยปากถาม
สำหรับชายชราแล้ว เสื้อผ้าพวกนี้ไม่ได้มีค่าอะไรนัก เพราะแม้แต่ภรรยาของเขาก็คงใส่มันไม่ได้ด้วยซ้ำไป
รถคนหนึ่งแล่นผ่านเบียงก้าไป
เมื่อเธอมองไปยังถังขยะใบนั้น เธอก็ได้เห็นว่าสองสาวได้ทำการตกลงกับชายชราว่าเธอต้องการที่จะซื้อของที่เขาหาเจอ
“นี่สองร้อยเหรียญค่ะ คุณลุงได้โปรดรับเอาไว้”
เมื่อพวกเขาจ่ายเงินให้ชายคนนั้นไปแล้ว ทั้งคู่ก็กระโจนเข้าใส่กล่องที่ชายชราคนนั้นถืออยู่ทันที
“เดี๋ยวก่อนค่ะ” เบียงก้าเดินเข้าไปหาพวกเขาแล้วมองไปที่กล่อง เธอกล่าวกับชายชรา “ฉันต้องการเสื้อผ้าชุดนี้ แล้วก็กล่องสีฟ้าด้วย ฉันจะจ่ายให้หนึ่งหมื่นเหรียญเลยค่ะ”
ผู้หญิงสองคนนั้นมองเบียงก้าด้วยความไม่พอใจ
ยายจอมยุ่งนี่มาจากไหนกัน?
เบียงก้าไม่ได้รู้สึกว่าการถูกมองด้วยสายตาเช่นนั้นจะผิดอะไร เพราะเป็นเธอเองที่เข้ามาด้วยเจตนาที่ไม่ดีนัก
ของพวกนี้ไม่ใช่ของของเธออีกแล้ว เพราะเธอปฏิเสธของขวัญของลุคไปแล้ว เพราะอย่างนั้นตอนนี้พวกมันจึงกลายเป็นของชายชราคนนี้แทน
“ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้?” ชายชรากอดถุงเงินทั้งน้ำตาแห่งความดีใจและกังวล “นี่มันเท่ากับค่าผ่าตัดและค่ายาตลอดห้าปีของฉันเลยนะ จะไม่มีใครมาทวงมันคืนใช่ไหม?”
เบียงก้ารับรองกับชายชราว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแน่นอน เบียงก้ายังเหลือบไปเห็นว่าขาของชายชรานั้นดูไม่ค่อยจะดีนัก
...
เบียงก้ามาถึงที่ทำงานราวสิบโมงครึ่ง
จากการพูดคุยกับชายชราของเบียงก้า เธอจึงได้รู้ว่าเขาอาศัยอยู่เพียงลำพังภรรยา ไม่มีลูกหลาน ในปีแรกที่เขาเริ่มทำงานทำความสะอาด ขาของเขาก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกพวกมือใหม่ขับขับรถชนเข้า
คนร้ายหนีไปและไม่เคยมีใครหาเขาเจออีกเลยจนถึงปัจจุบัน
ชายชราตรากตรำหาเงินค่าผ่าตัดและค่ายาด้วยตัวเอง เขายังบอกด้วยว่าเขาต้องการจะตายไปเสียเพื่อให้ปัญหาทุกอย่างสิ้นสุดลง แต่เพราะเขาไม่อาจจะทิ้งภรรยาไว้เพียงลำพังได้
เบียงก้ารู้สึกขอบคุณลุค ครอว์ฟอร์ดขึ้นมาทันที
มหาเศรษฐีคงไม่สนใจเศษเงินแค่ไม่กี่หมื่น แต่กับชายชราผู้ยากจนคนนี้ เงินนั้นเปลี่ยนชีวิตเขาได้อย่างสิ้นเชิง
นั่นหมายความว่าลุคได้ทำความดีแบบอ้อม ๆ
เบียงก้าสายแล้วในตอนนี้ โดยไม่ได้เอะใจเลยสักนิดว่าวันนี้เป็นวันเสาร์
เมื่อเธอมาถึงบริษัท เธอก็แทบจะไม่เห็นใครอยู่ที่นี่เลย นอกจากพวกที่งานล้นมือจนต้องมาทำงานล่วงเวลา เธอถึงตระหนักได้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดนั้นเอง…
…
ในวันเสาร์นั้น สองพ่อลูกเผชิญหน้ากัน
ลุคนั่งอยู่ในรถแลนด์โรเวอร์นำเข้าสีดำ เขาสวมเสื้อเชิ๊ตสีดำ สีหน้าของเขาดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก ในตอนที่เขาเอ่ยปากถามลูกชายที่อยู่นอกรถ “ลูกแน่ใจเหรอว่าจะไม่ไปกับพ่อ”
“ไม่ พ่อทำให้ผมผิดหวังมากครับ!”
ลานี่กระชับสายกระเป๋าด้วยมืออวบอ้วนทั้งสองข้าง ใบหน้ามุ่ยเงยมองพ่อที่นั่งอยู่ในรถ แก้มของลานี่ป่องขึ้น “ผมอยากจะพูดถึงข้อดีของพ่อสักข้อสองข้อ เผื่อเบียงก้าจะชอบพ่อขึ้นมาบ้าง แต่ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน เพราะพ่อไม่มีข้อดีอะไรสักอย่าง! พ่อเจ้าอารมณ์ แถมยังไม่อ่อนโยนอีกด้วย ดูสิ พ่อมีแต่ข้อเสียทั้งนั้น”
ลุคขมวดคิ้ว เขาเริ่มคิดว่าลูกชายคงมีอะไรบางอย่างในใจ
เมื่ออยู๋ต่อหน้าความตื่นตกใจของพ่อตน เด็กชายยังกล่าวต่อว่า “พ่อคงจะไม่ได้กำลังหาแม่ใหม่ให้...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก