พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 180

เธอสูดกลิ่นกายที่ช่างหอมหวานของชายผู้นั้น หลังจากสัมผัสมันอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุด เบียงก้าก็กลับสู่ความเป็นจริง

“คุณฝันร้ายรึเปล่า?” ริมฝีปากที่เย็นชาของลุคกดลงบนหน้าผากของเธอ จากนั้นมือใหญ่ของเขาก็จับผมที่ยุ่งเหยิงของเธอทัดใบหูให้เธอ เขามองดูใบหน้าอันสดใสและดวงตาที่เปียกปอนของเธอ เขาพูดเบา ๆ ว่า “อย่ากลัวไปเลย ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”

เบียงก้ารู้สึกขอบคุณที่มันเป็นเพียงแค่ความฝัน

เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอก็ได้เห็นความจริงที่ไม่ได้เลวร้ายดั่งเช่นความฝัน

มือข้างหนึ่งของเธอจับเอวที่กระชับของชายผู้นั้น ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งคว้าที่เสื้อของเขา เธออ้าปากค้างหลังจากได้ยินคำพูดปลอบโยนของชายผู้นั้น

บรรยากาศภายในห้องเล็ก ๆ ตกอยู่ในความเงียบ

หลังจากนั้นไม่นาน เบียงก้าก็ฟื้นคืนสติ เธอสะบัดมือออกจากเอวและหน้าอกของเขาอย่างรวดเร็ว

เสื้อที่ลุคใส่อยู่มีรอยยับหลังจากที่เบียงก้าปล่อยมือออก

"ฉันขอโทษ ฉัน-ฉันจะรีดให้คุณเองค่ะ” เบียงก้าไม่ได้พูดอะไรอีก

หลังจากที่เธอพูดเช่นนั้น เธอก็กำลังจะลุกขึ้น

ลุคดึงเธอกลับเข้าไว้ในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง เขาพูดอย่างหนักแน่นว่า “นอนต่ออีกหน่อยสิ ยังเช้าอยู่เลย”

ลมหายใจอันร้อนรุ่มของชายผู้นั้นกระทบเข้าที่แก้มและใบหูของเธอ บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนกลายเป็นความหอมหวานและความสนิทสนมในทันที

บางทีวันนี้อุณหภูมิอาจสูงขึ้นและลุคก็อยู่ข้าง ๆ เธอ จนทำให้อากาศรอบตัวเธอรู้สึกอบอุ่นและอบอ้าวขึ้นมาในทันใด

จึงทำให้เธอผล็อยหลับไปในเวลาไม่นาน

ตั้งแต่เธออายุ 18 ปี เธอก็ไม่เคยได้นอนหลับสนิท

อุณหภูมิร่างกายของลุคและอากาศรอบตัวเขาทำให้เบียงก้ารู้สึกปลอดภัย แต่เธอก็ยอมรับว่าในบางครั้ง เธอก็รู้สึกไม่เต็มใจจะยอมจำนนต่อเขาเช่นกัน

แต่ในครั้งนี้ เธอไม่ได้ปฏิเสธที่จะยอมลงไปในนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา

ในที่สุดขนตาที่สั่นเทาของเธอก็ปิดลง การหายใจที่หนักหน่วงของเธอเมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็ค่อย ๆ สงบลงเช่นกัน

หลังจากผล็อยหลับไป เบียงก้าไม่มีฝันร้ายอีกเลย

เตียงภายในห้องนอนไม่ใหญ่นัก

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเตียงควีนไซส์ แต่ก็ไม่เพียงพอสำหรับผู้ใหญ่สองคน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่สูงและมีขาที่ยาวจนไม่มีที่ว่างสำหรับขาครึ่งล่างของเขา

เมื่อเบียงก้านอนกับเรนนี่ เธอแทบไม่กล้าเคลื่อนไหวมากนักเพราะเธอกังวลว่าเธอจะนอนทับเด็กหญิงวัย 5 ขวบ

ลุคเหนื่อยแต่เขาไม่นอน

เขาอยู่ในสำนักงานจนถึงตีห้า แต่โชคดีที่ช่วงเช้าตรู่การจราจรนั้นยังคล่องตัว ดังนั้น เขาจึงกลับมาถึงบ้านพักของเบียงก้าในตอนตีห้าครึ่งเท่านั้น

เขาเปิดประตูด้วยกุญแจสำรองก่อนเข้าไปที่ห้องของลูกชาย

เด็กน้อยนอนเอาขาพาดบนผ้าห่มแล้วเตะออกไป เด็กชายนอนหลับสนิทและมีเสียงกรนเบา ๆ ดังออกมา

หลังจากห่มผ้าห่มให้ลูกชายแล้ว เขาก็ไปที่ห้องของเบียงก้า

เรนนี่กำลังนอนหลับอยู่ในท่าที่เรียบร้อยกว่าลานี่ เธอจะขยับเขยื้อนเป็นบางครั้งเท่านั้น

เมื่อเขากำลังจะปิดประตูและเดินออกไป เขาก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากเตียง เขาหันกลับมาและเห็นเบียงก้าขมวดคิ้วในขณะที่ใบหน้าของเธอถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อและเธอก็ขยับตัวเบา ๆ ราวกับว่าเธอกำลังรู้สึกเจ็บปวด

ลุคไม่รู้ว่าเธอฝันร้ายแบบไหน เขาจึงเดินเข้าไปและพยายามปลุกเธอ

เบียงก้าที่กำลังนอนหลับอยู่ละเมอไปต่าง ๆ นานา แต่เขาก็ได้ยินไม่ชัดเจนว่าเธอพูดว่าอะไร

เมื่อเขากล่อมเธอให้นอนหลับแล้วเขาก็ห่มผ้าห่มให้เธอ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเบา ๆ และเดินไปเข้าห้องน้ำทันที

เมื่อลานี่ตื่นขึ้นมา เด็กชายก็วิ่งไปเข้าห้องน้ำเพราะต้องการจะปลดทุกข์

“คุณพ่อ ทำไมตื่นเช้าจังครับ” เด็กน้อยเปิดประตูและเห็นพ่อของเขา หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ถามพ่อในขณะกำลังปลดทุกข์

ลุคล้างมือเสร็จแล้ว และวางผ้าเช็ดตัวสีขาวที่เบียงก้าเตรียมไว้ให้เขาเมื่อวานนี้ลง

ก่อนที่พ่อของเขาจะตอบ เด็กชายตัวเล็ก ๆ ก็ปลดทุกข์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กชายเดินออกไปพร้อมกับพ่อและพึมพำด้วยความขึงขัง “คุณพ่อครับ เอาเสื้อผ้าและรองเท้าของผมมาให้ผมหลังเลิกเรียนด้วยเพราะเข้าใกล้ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว และก็เอาเสื้อผ้าและรองเท้าสำหรับฤดูหนาวมาให้ผมด้วยนะครับ”

ลุคเปิดโทรทัศน์และวางรีโมตลง เขาถามลูกชายว่า “ลูกวางแผนจะอยู่ที่นี่ตลอดไปรึไง?”

"แน่นอนสิครับ ทำไมผมจะต้องอยากกลับไปบ้านที่เย็นยะเยือกแบบนั้นด้วยล่ะ?” เมื่อเขาเดินกลับไปที่ประตูห้องนอน เด็กชายก็หันกลับมามองชายที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา เด็กชายลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดต่อว่า “คุณพ่อยุ่งไม่ใช่เหรอ? คุณมักจะพูดแบบนั้นอยู่เสมอ คุณชอบบอกว่าพ่อน่ะไม่มีเวลาดูแลพวกเรา แต่ตอนนี้เรามีน้าบีแล้ว คุณพ่อไปทำธุระของคุณพ่อต่อได้เลยครับ แล้วอย่าลืมจ่ายค่าเล่าเรียนของพวกเราด้วยนะครับ ผมไม่อยากให้น้าบีทำงานหนักเพื่อดูแลพวกเรา และผมก็ไม่ต้องการเป็นภาระเพิ่มให้กับเธอด้วย”

ชายที่กำลังนั่งดูข่าวเช้ากล่าวอย่างเรียบเฉย “คุณปู่ทวดของลูกจะคิดถึงลูกมากนะ”

“ถ้าคุณทวดคิดถึงผม ผมจะกลับไปหาและจะกลับมาที่นี่ในตอนกลางคืน หรือบางทีเราอาจจะให้คุณปู่ทวดอยู่ที่นี่ด้วยก็ได้” โลกของเด็กน้อยช่างเรียบง่ายจริง ๆ

ลุคขมวดคิ้ว ริมฝีปากของเขาแนบชิดกันเป็นเส้นบาง ๆ เขาเงียบไปนาน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะข่าวเช้าหรือเป็นเพราะคำพูดของลูกชายกันแน่

เด็กชายจึงเดินกลับห้องไปอย่างหวาด ๆ

คุณตาเรย์นมักจะนอนอยู่ในห้องนอนใหญ่ที่นี่เสมอและมันก็ใหญ่กว่าห้องนอนอีกห้องหนึ่งมาก เบียงก้านอนหลับไปนานนับชั่วโมงอยู่ในอีกห้องหนึ่ง จากนั้นไม่นาน เธอก็ตื่นขึ้นมา

เมื่อตื่นขึ้นมา เธอก็เดินไปอาบน้ำชำระร่างกาย เธออยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานในขณะที่แปรงสีฟันยังคงคาปากเธอ ความคิดนับล้านแล่นเข้ามาในหัวของเธอจนหัวของเธอยุ่งเหยิงและไม่รู้ว่ามันจะมีทางแก้ไขรึเปล่า จากนั้นไม่นานเธอก็เดินออกมา

ข่าวเช้าได้จบลงแล้ว ผ้าม่านห้องนั่งเล่นปิดอยู่เล็กน้อย จึงทำให้ภายในห้องนั่งเล่นไม่สว่างเกินไป ชายร่างสูงและขาเรียวยาวนอนอยู่บนโซฟา เขาผล็อยหลับไปพร้อมกับคิ้วที่กำลังขมวดอยู่ที่บนใบหน้าของเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก