ด้านนอกของประตู สายตาอลิสันเคลื่อนจากหน้าจอโทรศัพท์มาที่ประตู
สัญชาตญาณของความผู้หญิงบอกเธอว่าตั้งแต่เช้ามานี้มีแต่เรื่องที่ดูไม่เข้าท่า
‘เบียงก้าโทรมาแล้วไม่พูด...’
'เธอพยายามจะทำอะไร?’
'แถมฉันยังคิดว่าตัวเองได้ยินเสียง… ครางเบา ๆ ใช่ไหมนะ?’
'เสียงพวกนั้นเป็นเสียงของเบียงก้าใช่รึเปล่า?'
เมื่ออลิสันได้ยินดังนั้น เธอก็ชาเข้าไปถึงกระดูกดำ!
"เบียงก้าเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ! เปิดประตู!" อลิสันแทบรอดูว่าใครเป็นคนทำเรื่องอย่างว่าเช่นนี้กับเธอแทบไม่หวาดไม่ไหว
ก่อนมาถึงที่นี่ อลิสันโทรไปหาพี่ชายของเธอเพื่อยืนยันว่าซาเวียร์ยังคงนอนหลับอยู่ที่ชั้นบนของบ้าน
และอลิสันก็รู้ว่าคนที่อยู่ในบ้านกับเบียงก้าในตอนนี้ก็ไม่ใช่ลูกชายของเธอ
เจสันบอกเองว่าลูกชายของเธอทำงานล่วงเวลามาได้สองวันแล้ว แถมหลังเลิกงานเขายังนอนที่บริษัทอีกด้วย
อย่างที่เจสันบอก ลุคเลือกทำงานล่วงเวลาเพื่อที่จะไม่ต้องนำงานที่ค้างไว้ติดตัวไปทำต่อที่เมืองบ้านนอกนั่น เพื่อที่เขาจะได้มุ่งความสนใจทั้งหมดของตัวเองไปที่เบียงก้า
อลิสันไม่พอใจ มันเคยมีแค่เธอ ลานี่ หรือเรนนี่เท่านั้นที่เคยได้รับการเอาใจใส่จากลุคเท่านั้นมิใช่หรือ?
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่คิดว่า เบียงก้าจะเป็นสาวพราวเสน่ห์อะไร!
สามีของเบียงก้านอนอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง แถมคนรักของเธอยังทำงานล่วงเวลาอยู่ที่บริษัท แต่เธอกลับยังมีผู้ชายคนอื่นตั้งแต่หัววันแบบนี้...
อลิสันสาบานเลยว่าเธอจะเป็นคนเปิดเผยเรื่องไร้ยางอายของเบียงก้าเสียที่นี่วันนี้เลย!
หลังตัดสินใจได้แล้ว อลิสันก็ตะโกนเสียงลั่นใส่ประตูไปว่า “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ข้างในนะ เบียงก้า! จะบอกอะไรให้นะ ฉันจะรอเธออยู่หน้าประตูนี่แหละ! ฉันจะไม่ไปไหนจนกว่าเธอจะออกมาเปิดประตู! แล้วถ้าเธอคิดจะหนีไปล่ะก็ เธอคงต้องมีปีกสักคู่แล้วบินออกไปทางหน้าต่างเท่านั้นล่ะ!"
อลิสันตะโกนอย่างหัวใส
เตียงไม้ในบ้านเช่าที่คับแคบส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดตามจังหวะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของชายหนุ่มซึ่งคุกเข่าอยู่บนเตียง
ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหายใจที่ไม่ปกติของคนทั้งสอง
เบียงก้าพยายามอย่างหนัก เธอเกรงว่าเขาอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วกลายร่างเป็นอสูรร้ายเข้า ดังนั้นเธอจึงละทิ้งความสำนึกผิดชอบทั้งหมด แล้วจับมันไว้จนเขาเกือบเสร็จกิจ
“อา…” มือใหญ่ของลุคจับมือเล็ก ๆ ของเธอไว้
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่อาจนับได้
จนในที่สุด เขาก็เสร็จสม
เบียงก้าเอนตัวพิงขอบหน้าต่าง เธอมองไปยังชายที่ดูราวกับอสูรร้ายที่อยู่เบื้องหน้า หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ หลายครั้ง ในที่สุด เธอก็สงบสติอารมณ์ได้
เธอดึงมือกลับ ใบหน้าเป็นสีแดงก่ำ
เบียงก้านำผ้าห่มมาคลุมร่างของตัวเองเอาไว้...
ลุคหลับตาก้มหน้าลง ก่อนจะดำดิ่งไปกับช่วงเวลาเหล่านั้น กระทั่งลูกกระเดือกในคอขยับขึ้นลง ลุคกลืนน้ำลายแล้วลืมตาขึ้น
เบียงก้าเห็นตัณหาที่ลุกโชนในสายตาของเขา มันร้อนแรงมากจนดูคล้ายจะละลายเธอได้อย่างไรอย่างนั้น
ฮอร์โมนเพศชายแผ่กลิ่นซ่านไปทั่วห้องได้ลบล้างอุปสรรคที่ขวางกั้นระหว่างคนทั้งคู่
เบียงก้าอยากจะก้มหน้าลงเหลือเกิน หากแต่นิ้วเรียวยาวและแข็งแรงของลุคเชยคางของเธอขึ้นและออกแรงดึงเข้าไปใกล้ริมฝีปากบางของเขาอย่างแรง
เธอถูกจู่โจมด้วยจุมพิตที่ยาวนานและเร่าร้อนจนเรียวลิ้นและริมฝีปากของเบียงก้าเริ่มรู้สึกเจ็บ ลุคถอนจุมพิตออกจากริมฝีปากปากของเธอ ก่อนจะจูบเข้าที่แก้มและลำคอของเธอแทน ลมหายใจร้อนระอุของเขาเป่ากระทบใบหูของเธอ…
…
อลิสันจ้องไปที่เบียงก้าอยู่นาน ก่อนที่จะหันไปมองที่ประตูห้องนอนซึ่งถูกปิดเอาไว้ และท้ายที่สุดยังเห็นรองเท้าคู่หนึ่งใกล้ทางเข้าอีกด้วย “งั้นเธอช่วยอธิบายเรื่องรองเท้าที่ถอดทิ้งไว้ข้างประตูด้วย?"
“ลูกชายของคุณใส่มาตอนที่เขามาที่นี่ครั้งก่อน แล้วลานี่ก็เผลอทำน้ำหกใส่ เจสันก็เลยนำรองเท้าคู่ใหม่มาให้เขา ดังนั้นเขาก็ทิ้งมันไว้ที่นี่ค่ะ” เบียงก้าอธิบาย
“นี่เธอจะหน้าหนาไปถึงไหนน่ะ เบียงก้า?” อลิสันปาแก้วลงบนโต๊ะกาแฟ ลุกขึ้นและเดินกระแทกเท้าไปหาเบียงก้า อลิสันก็ฉีกทึ้งชุดนอนของเบียงก้าออกก่อนที่เธอจะทันได้ปัดป้อง
"นี่คุณคิดจะทำอะไร?" เบียงก้ารู้สึกโกรธ
“เธอบอกว่าไม่มีผู้ชายอยู่ที่นี่งั้นเหรอ? ทั้งที่เธอกำลังบำเรอชายชูลับหลังหลานชายและลูกชายของฉันกลางวันแสก ๆ อย่างนี้! ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นคนแบบนี้ เบียงก้า!” อลิสันจ้องมองไปยังรอยรักบนผิวที่ขาวราวกับหิมะของเบียงก้า
ทั้งลำคอ กระดูกไหปลาร้า...
มีแม้กระทั่งรอยจูบที่หัวไหล่ทางด้านหลัง ใครเห็นเขาก็คงจินตนาการได้ว่าการร่วมรักครั้งนี่รุนแรงแค่ไหน!
เพี๊ยะ!
อลิสันตบเข้าที่ใบหน้าของเบียงก้าด้วยความโกรธจัด
“เธอแต่งงานกับหลานชายของฉัน แต่ก็ยังมิวายหลับนอนกับชายอื่น เธอไร้ยางอายไปถึงไหน?” อลิสันยกมือขึ้นตั้งท่าจะตบเบียงก้าอีกครั้ง
เบียงก้าคว้าข้อมือของอลิสันไว้เสียก่อน!
เธอหรี่ตาและจ้องมองอลิสัน “ฉันเป็นผู้หญิงหน้าด้านในสายตาคุณมาตลอดรึเปล่าล่ะคะ? คุณคิดว่าฉันยั่วยวนลูกชายของคุณ ซึ่งก็คือพี่ชายแท้ ๆ ของฉัน แล้วพอเขาไม่หลงกลฉัน ฉันก็ไปแต่งงานกับหลานชายของคุณ ซึ่งก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับฉันเช่นกัน ทำไมคุณไม่เคยบอกว่าฉันเกิดมาล้างผลาญชีวิตคุณเลยสักครั้งล่ะ? ทำไมกว่าจะตบตีฉันถึงต้องปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาขนาดนี้ล่ะ? ทำไมคุณไม่ทำแบบนี้กับฉันต่อหน้าคนในตระกูลครอว์ฟอร์ดหรือตระกูลแทนเนอร์ไปเลยล่ะ?”
อลิสันรู้สึกฉุนเฉียวอยู่ครู่หนึ่ง มือและสายตาของเธอสั่นระริก
ทั้งหมดที่เธอต้องการทำคือเรียกตัวชายชู่คนนั้นออกมาเท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้ใครในห้องรู้ว่าเธอกับเบียงก้ามีความสัมพันธ์ทางสายเลือดต่อกัน!
ชื่อเสียงของเธอคงพังยับเยินถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป!
ทว่าสายเกินไปแล้ว ประตูห้องนอนถูกเปิดอย่างแผ่วเบา ชายหนุ่มที่ก้าวออกมาจากห้องสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูเท่ในชุดสูทสำหรับนักธุรกิจและรองเท้าหนัง แม้ว่าเขาจะมีสายตาที่ดูเหมือนจะทำให้อากาศรอบตัวเย็นลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก