ลุคจดจ่ออยู่กับเนื้อหาด้วยความประหลาดใจ
คนดี ๆ ที่ไหนได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่นี้คงจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ยาก
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ข้างในนะ เบียงก้า! จะบอกอะไรให้นะ ฉันจะรอเธออยู่หน้าประตูนี่แหละ! ฉันจะไม่ไปไหนจนกว่าเธอจะออกมาเปิดประตู! แล้วถ้าเธอคิดจะหนีไปล่ะก็ เธอคงต้องมีปีกสักคู่แล้วบินออกไปทางหน้าต่างเท่านั้นล่ะ!"
แม่ตะโกนออกมาแบบนั้นทั้งที่เขากำลังทำรักกับเบียงก้าอยู่ ถึงขนาดนี้แล้วจะให้เขานิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร?
เขาไม่ได้หยุดกิจกรรมนั้นลง เพราะคิดว่าแม่อยากจะหยุดการกระทำของลูกชายกับภรรยาของหลาน
เพราะเรื่องพวกนี้มันผิดศีลธรรมสิ้นดี
แต่หลังจากที่แม่ก้าวเข้ามาในบ้าน แม่กลับพูดว่า “ไม่เลวนี่ ถังข้าวสารคงเป็นถังทองล่ะสิท่า?”
ลุครู้ได้ในทันทีว่าคำพูดพวกนั้นมีบางอย่างไม่ปกติ
เขาไม่รู้ว่าอะไรที่ไม่ชอบมาพากล แต่เขาก็รู้ว่าเหตุผลที่แม่มาที่นี่นั้นต่างที่คิดโดยสิ้นเชิง
สำหรับคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรมาก่อน ก็คงไม่วายที่จะไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นในบทสนทนา ระหว่างอลิสันและเบียงก้า
“เธอบอกว่าไม่มีผู้ชายอยู่ที่นี่งั้นเหรอ? ทั้งที่เธอกำลังบำเรอชายชูลับหลังหลานชายและลูกชายของฉันกลางวันแสก ๆ อย่างนี้! ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นคนแบบนี้ เบียงก้า!”
ลุคทำความสะอาดร่างกาย ขณะที่แม่กำลังประณามเบียงก้าอยู่
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเพี๊ยะขึ้น!
การตบนั้นเหมือนกับใบมีดที่เย็นเฉียบและบางเฉียบตัดใบหน้าของเขาและดูดเลือด คนสองคนที่อยู่ข้างนอกเป็นผู้หญิงที่เลี้ยงดูเขาและแม่ของลูกสองคนของเขา
พวกเขาถึงขนาดทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน!
หลังจากที่ลุคกลับมาแต่งกายเรียบร้อยในมาดนักธุรกิจแล้ว คิ้วของเขาขมวดมุ่นและเดินไปที่ประตู ในตอนที่เขาวางมือบนลูกบิดประตู ลุคก็ได้ยินเรื่องราวที่กระทบกับตัวเขาราวกับสายฟ้าฟาดลงมา
“ฉันเป็นผู้หญิงหน้าด้านในสายตาคุณมาตลอดรึเปล่าล่ะคะ? คุณคิดว่าฉันยั่วยวนลูกชายของคุณ ซึ่งก็คือพี่ชายแท้ ๆ ของฉัน แล้วพอเขาไม่หลงกลฉัน ฉันก็ไปแต่งงานกับหลานชายของคุณ ซึ่งก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับฉันเช่นกัน ทำไมคุณไม่เคยบอกว่าฉันเกิดมาล้างผลาญชีวิตคุณเลยสักครั้งล่ะ? ทำไมกว่าจะตบตีฉันถึงต้องปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาขนาดนี้ล่ะ? ทำไมคุณไม่ทำแบบนี้กับฉันต่อหน้าคนในตระกูลครอว์ฟอร์ดหรือตระกูลแทนเนอร์ไปเลยล่ะ?” นั่นคือสิ่งที่เบียงก้าพูดออกมา
ในที่สุด ลุคก็เข้าใจเรื่องทุกอย่าง
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเบียงก้าถึงทิ้งเขาไป เข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงบอกว่าเธอลืม ฌอง แลงดอนไม่ได้ และเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงเลือกที่จะดูใจกับพนักงานต่ำต้อยจากบริษัทอื่นเช่นนั้น!
เขาเคยคิดว่าเธอไร้สติถึงเอาแต่พูดว่าถ้าเขาเป็นพี่ชายของเธอคงจะดี…
เขายังเคยสันนิษฐานว่าเบียงก้ามีรสนิยมทางเพศที่ไม่ค่อยปกตินัก
ทั้งที่จริงแล้ว แม่ของเขาต่างหากที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวเหล่านั้น!
"ลูกแม่" อลิสันรู้สึกตระหนก เธอซ่อนความเกลียดชังของตัวเองไว้ ก่อนจะเผยด้านอ่อนโยนและมีเมตตาออกมา "แม่โกรธเบียงก้าจนรู้สึกมึนไปหมดแล้ว แม่คิดว่าเธอกำลังทำเรื่องอย่างว่ากับชายชู้น่ะลูก"
ลุคไม่สนใจอลิสัน เขามุ่งไปที่โต๊ะกาแฟ หยิบกล่องบุหรี่และไฟแช็กที่เขาวางไว้ แล้วจุดบุหรี่
เขาดึงเบียงก้ามาพูดด้วย "เก็บกระเป๋าได้แล้ว เราจะออกไปตอนเก้าโมงตรง"
“…”
อลิสันตบเธอแรงจนแก้มของเบียงก้าบวม
ลุคจ้องไปที่แก้มของเธออยู่นาน ก่อนจะมองออกไปแล้วออกจากบ้านไปพร้อมแม่ของตัวเอง
ยิ่งเงียบก็ยิ่งน่ากลัว อลิสันรู้นิสัยนั้นของลูกชายเป็นอย่างดี
อลิสันไม่ต้องการให้ความตึงเครียดนี้ล่วงเลยผ่านไป เพราะเธอกลัวว่าลูกชายจะเชื่อในสิ่งที่เบียงก้าพูด
“ที่แม่ทำแบบนี้ก็เพราะแม่ฉันแก่ประโยชน์ของลูกหรอกนะ แม่รู้ว่าลูกชายแม่น่ะคิดเองเป็น แต่ลูกควรจะรู้ว่าผู้ชายน่ะตกม้าตายเพราะเรื่องผู้หญิงกันมานักต่อนักแล้ว แล้วบริษัทกำลังไปได้ดีถึงขนาดนี้ ลูกไม่ควรไขว้เขวเรื่องจุดมุ่งหมายของตัวเองเพราะแค่เรื่องผู้หญิงเลยนะ ลุค!"
เพื่อปกปิดการกระทำของตัวเอง อลิสันโกหกอย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อลุคได้ยินคำพูดของผู้เป็นแม่ เขาก็หยุดนิ่งอยู่ที่ประตู
สายตาคมกริบหันกลับมามองคนเป็นแม่ “แล้วตอนนั้นพ่อไม่ได้ทำแบบเดียวกับผมรึไง? พ่อทิ้งภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายไปเป็นชู้กับแม่ ถ้าผมจะทำอะไรที่มันผิดศีลธรรมบ้างจะเป็นอะไรไปล่ะ? ในตัวผมมีเลือดแม่อยู่นะ”
ย้อนกลับไปตอนที่ชื่อของแซคคารี่ ครอว์ฟอร์ด และซูซาน อาร์มสตรอง เด่นหราอยู่บนทะเบียนสมรส อลิสัน แทนเนอร์ ก็เป็นที่รู้กันดีว่าเธอคือ ภรรยาคนที่สองของแซคคารี่
ภรรยาสองคนปรนนิบัติสามี ราวกับพวกเขาว่าลืมไปว่ากำลังอยู่ในสังคมผัวเดียวเมียเดียว
“ลุค อย่าลืมสิว่าเบียงก้าเป็นเมียของซาเวียร์! ถ้าแม่บอกปู่ของลูกเรื่องที่ลูกกับยัยนั่นทำเมื่อเช้านี้ ปู่ของลูกจะไม่ให้อภัยลูกแน่! ลูกอาจไม่สนเรื่องชื่อเสียงของตระกูลครอว์ฟอร์ด แต่ปู่ของลูกเขาต้องสนแน่!”
อลิสันยกเอาผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดออกมาอ้าง เพราะเธอรู้ดีว่าคนไร้ศีลธรรมอย่างเธอไม่มีสิทธิ์พูดอะไร
“ไปบอกปู่ผมสิ! ไปบอกเดี๋ยวนี้เลย!” ลุคโกรธจัด สีหน้าของเขามืดหม่นสุดจะพรรณนา
คนรับใช้ที่ได้ยินเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจตัวสั่นเทิ้ม
สายตาของลุคเย็นชา “ถ้าไม่ใช่เพราะแม่นะ คุณแม่สุดที่รัก เบียงก้าก็คงไม่ถูกบังคับให้แต่งงานกับซาเวียร์หรอก ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมผมถึงได้กลายไปเป็นพี่ชายของเบียงก้า ผมจะกลับมาฟังคำตอบอย่างละเอียดทีเดียว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก