พวกเขามาถึงในเมืองแล้ว
เจสันเอ่ยถามชาร์ล็อตในขณะที่เขาจับพวงมาลัยไปด้วย “คุณชอว์ครับ ให้ผมไปส่งคุณที่โรงแรมหรือว่าคุณอยากจะไปเดินศูนย์การค้าดีครับ?”
"ไม่เอาทั้งคู่นั่นแหละ ฉันชวนเพื่อนออกมาทานหารกลางวันแล้ว” ชาร์ล็อตกล่าวขณะที่เก็บลิปสติกเข้ากระเป๋าถือหลังจากแต่งหน้าเสร็จ
เจสันเข้าใจและถามว่า “ถ้าเช่นนั้น คุณจองร้านอาหารเอาไว้รึยังครับ? ถ้าคุณยังไม่ได้ทำการจองร้านไหนเอาไว้ ทางเราสามารถทำการจองให้กับคุณได้ทุกเมื่อนะครับ”
หากเปรียบว่า ที คอร์ปอเรชั่น เป็นจักรวรรดิในโลกของธุรกิจ ลุคก็คงเป็นองค์ราชาแห่งจักรวรรดิและในฐานะผู้ช่วยผู้ซื่อสัตย์ เจสันก็คงจะเป็นนายกรัฐมนตรีเสียกระมั้ง เจสันมีหน้าที่เชื่อฟังนายท่านของเขาแต่เพียงผู้เดียวและคอยควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาที่เหลือทั้งหมด
แน่นอนว่าชาร์ล็อตจะรู้สึกเย่อหยิ่งเมื่อผู้ชายที่มีตำแหน่งเช่นนั้นปฏิบัติต่อเธอด้วยความยำเกรง
“อื้ม จองไว้แล้ว” ชาร์ล็อตบอกเขาว่าเธอจะไปรับประทานอาหารที่ไหน
จากนั้น รถก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางของเธอ
สิบนาทีต่อมา เจสันก็มาหยุดรถที่ทางเข้า “ถึงแล้วครับ คุณชอว์”
"ขอบใจ!" ชาร์ล็อตคว้ากระเป๋าแล้วสะบัดผมสีน้ำตาลหยักศกให้พริ้วไหว ก่อนที่เธอจะเดินลงจากรถไป จากนั้นเธอก็ชี้นิ้วไปที่เบาะด้านหลัง "เธอมากับฉัน"
เจสันขมวดคิ้วอย่างมีเลศนัย ทัศนคติที่เอาแต่ใจของชาร์ล็อตกำลังทำให้เขาวิตกกังวล
ในทางกลับกัน เบียงก้าไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยที่ชาร์ล็อตจะทำตัวเช่นนั้น
ชาร์ล็อต ชอว์ เป็นทายาทของคนที่อยู่ในจักรวาลแห่งวัตถุนิยม ดังนั้น เธอคงจะรู้สึกผิดธรรมชาติถ้าหากไม่มีลูกน้องคอยเดินตาม
ชาร์ล็อตไม่ได้ขอให้ซูตามเธอไป อาจเป็นเพราะว่าถ้าไม่ได้อยู๋ภายใต้ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ซูก็จะดูเคร่งขรึมเกินไป
พูดอีกอย่างก็คือ เบียงก้าดูอ่อนแอกว่าและรังแกง่ายกว่านั่นเอง!
เบียงก้าลงจากรถไป
จากนั้น เจสันก็ขับรถออกไป
"ตามฉันมาสิ" ชาร์ล็อตมองดูเบียงก้าที่ถ่อมตัวราวกับว่าเธอเป็นลูกสุนัขเชื่อง ๆ ตัวหนึ่ง
ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรคือโรงแรมขนาดใหญ่ที่ชาร์ล็อตได้จองไว้
เบียงก้าได้รับข้อความทางโทรศัพท์
“เราทำหน้าที่ต้อนรับเธอก็จริง แต่เธอก็ไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเรานะ ดังนั้น ถ้านางสุภาพมา ก็สุภาพกลับไป แต่ถ้าหยาบคายมา ก็อย่าก้มหัวยอมง่าย ๆ ล่ะ” ซูส่งข้อความมาหาเธอ
ชาร์ล็อตหันกลับมามองแล้วพูดว่า “ทำไมเดินจัง? เร็วสิ!"
เบียงก้าเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า
ชาร์ล็อตจองห้องพักที่หรูหราเอาไว้ในโรงแรมห้าดาว คนที่เธอนัดพบยังไม่มาถึง ดังนั้น ชาร์ล็อตจึงนั่งลงและเริ่มแต่งหน้าใหม่อีกครั้ง
เบียงก้าไม่มีอะไรทำ เธอจึงนั่งลงบนโซฟาใกล้ ๆ
ไม่นาน โทรศัพท์ของชาร์ล็อตก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาแล้วถามว่า “นี่ มาถึงยัง? ปล่อยให้ฉันรอนานขนาดนี้ได้ยังไงกัน นางตัวดี! อยากตายเหรอ?!”
เบียงก้าชะงักเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น เธอครุ่นคิดกับตัวเองว่า เพื่อนของชาร์ล็อตเป็นผู้หญิงที่เธอเรียกว่า "นางตัวดี" มันก็คงจะเหมือนกับบุคลิกของเธอเองเช่นกัน
"แม่เธอ? ฉันไม่ชอบให้พวกผู้ใหญ่อยู่ใกล้ ๆ” ชาร์ล็อตบ่นเล็กน้อยก่อนที่เธอจะถอนหายใจยาว “ก็ได้ ก็ได้ ให้แม่เธอตามมาด้วยก็ได้”
ยี่สิบนาทีต่อมา ประตูห้องก็ถูกเปิดออก
เบียงก้ายืนขึ้นตามสัญชาตญาณด้วยความสุภาพ ทันใดนั้น เธอก็ได้พบกับแม่เลี้ยงของเธอ เจนนิเฟอร์ ลีและมาลี เรย์น ราวกับว่าเลือดทั้งหมดได้ไหลออกมาจากใบหน้าของเธอทันที
ภายในห้องนั้น มาลีพูดถึงเบียงก้าแล้วหยุดไปชั่วขณะ...
ชาร์ล็อตทนความสงสัยไม่ได้ เธอจึงรีบถามมาลีว่า “เล่ามาสิ มาลี! อย่ามีความลับกับเพื่อนสิ!”
“บอกเธอไปเลย! ชาร์ล็อตน่ารักและไร้เดียงสามาก อย่าทำให้เธอต้องสงสัยอยู่อย่างนั้นสิ!”
เจนนิเฟอร์ใส่ไฟอย่างเร็วไว
คำพูดของเธอทำให้ชาร์ล็อตหรี่ตาลงอย่างอันตรายและจ้องมองไปที่มาลี
มาลีแสดงท่าทีราวกับว่าเธอถูกบังคับให้พูด “ชาร์ล็อต เธอต้องระวังนะ เธอบอกว่าเธอมาที่นี่เพื่อกับพบคู่หมั้นของเธอและเบียงก้า เรย์นก็เป็นพนักงานของบริษัทของคู่หมั้นของเธอใช่ไหม? ฉันกลัว กลัวมากเลยว่า...”
"กลัว? กลัวอะไร?" ชาร์ล็อตถามกลับในทันที “เธอชื่อ เบียงก้า เรย์นเหรอ? ฉันไม่เคยถามชื่อเธอมาก่อนเลย! แต่ทำไมเธอถึงมีนามสกุล เรย์น ล่ะ?”
เรย์นไม่ใช่นามสกุลทั่วไป และในตอนนี้เธอก็ได้พบกับคนสองคนที่มีนามสกุลนั้นซึ่งทั้งคู่รู้จักกันดี จากนั้น ความสงสัยของชาร์ล็อตก็ปะทุขึ้นในทันที
“ฉันจะบอกความจริงกับเธอเอง เบียงก้าเป็นน้องสาวของฉัน แต่เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แม่ของฉันแต่งงานกับพ่อของเธอ ซึ่งเป็นการแต่งงานครั้งที่สองของพวกเขาทั้งคู่” มาลีเหลือบมองแม่ของเธอที่ดูเจ็บปวดและน่าสมเพชในขณะที่เธอพูดต่อว่า “แม่ของฉันให้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่เธอไม่ได้สนใจเรื่องการเรียนต่อในตอนที่เธออยู่ที่นั่น เธอใช้เวลาทั้งหมดเพื่อหลอกล่อชาวต่างชาติที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียง ดังนั้น ฉันเกรงว่า… เธออาจะจะต้องระวังคู่หมั้นของเธอเอาไว้ให้ดี เธออาจถูกผู้หญิงคนนั้นขโมยไปก็ได้…”
ชาร์ล็อตโกรธมาก เธอเอามือทุบโต๊ะ “มันต้องการที่จะแย่งผู้ชายของฉันเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ลองดู!”
“อย่าประมาทเธอ แม่แท้ ๆ ของเธอขโมยชายที่แต่งงานแล้วและมีชื่อเสียงที่โด่งดังไปในตอนนั้น จากนั้นเขาก็หย่ากับภรรยาคนเดิมเพื่อแม่ของนางและแบ่งสมบัติกัน นางทำสิ่งเลวร้ายมาก พ่อของนางได้บอกกับฉันและแม่ว่าให้จับตาดูเธอให้ดี เพราะเผื่อว่าเนางอาจจะกลายเป็นเหมือนแม่ตัวเองก็ได้” หลังจากที่มาลีพูดเช่นนั้น เธอก็จิบชาอย่างใจเย็น
“ฉันจะเอาเรื่องมันเดี๋ยวนี้!”
ชาร์ล็อตลุกขึ้นยืนและกระซิบที่ข้างหูของมาลีว่า “เธอรู้จักสถานบันเทิงดีเลยใช่ไหม? ให้เพื่อนของเธอส่งยาพวกนั้นมาให้ฉันภายในครึ่งชั่วโมงหน่อยสิ เงินไม่ใช่ปัญหา แต่จะดีกว่าถ้าเธอสามารถหาพวกผู้ชายขี้ยาเหล่านั้นมาให้ฉันได้!”
มาลีรู้สึกปิติยินดีอย่างมาก เธอทำท่าทางตกใจและสับสน “เธอต้องการยาพวกนั้นไปทำไม?”
“ฉันจะแผดเผาร่างกายของมันด้วยแรงตัณหาตามที่มันต้องการ จากนั้นฉันก็จะถ่ายวีดีโอในตอนที่เธอคุกเข่าลงช่วยผู้ชายพวกนั้นอยู่ แล้วฉันก็จะโพสต์มันลงบนโซเชียลทันที…” ชาร์ล็อตตั้งใจจะสกัดดาวรุ่งเบียงตั้งแต่เนิ่น ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก