แม้ว่าเบียงก้าจะตอบสนองในทันทีและหันกลับมาสวมเสื้อผ้าของเธออย่างเร่งรีบ ผู้ชายที่ยืนอยู่ที่ประตูยังคงเห็นทุกอย่างแล้ว
“ทำไมคุณอยู่คนเดียวล่ะ?” เสียงทุ้มลึกของลุคเป็นสิ่งแรกที่ทำลายความเงียบในห้อง
เรื่องโกหกเมื่อครู่ถูกเปิดโปรงต่อเธอย่างง่ายดาย เบียงก้ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
“ฉันหมายความว่ากำลังจะมาคนตามมาที่นี่ ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้มีคนอยู่กับฉันแล้ว”
ชายคนนั้นมองดูเธอขณะที่เธอตื่นตระหนก เธอพยายามปกปิดคำโกหกนั้นอยู่
ดวงตาของลุคมองไปรอบห้องเงียบ ๆ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นอีกครั้ง “ตำรวจติดต่อมาผม ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง? ร่างกายของคุณดีขึ้นใช่ไหม?”
ชาร์ล็อตต์ถูกจับแต่เธอไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากพ่อของเธอด้วยปัญหาเช่นนี้ เธอจึงแจ้งชื่อลุคให้ตำรวจแทน นั่นเป็นเหตุผลที่ตำรวจติดต่อเขามา
สมองของเบียงก้าจะระเบิด
ดวงตาสีดำสดใสของชายคนนั้นมองตรงมาที่เธอ
“ร่างกายของฉัน… สบายดีค่ะ…” เบียงก้าอึดอัดใจทุกสิ่งที่จะให้ผู้ชายผู้เป็นหัวหน้าของเธอรู้ว่าเธอถูกวางยาปลุกกำหนัด ดังนั้นเธอแทบจะไม่สามารถแม้แต่จะตอบ
“เจสันขอลางานให้คุณหนึ่งสัปดาห์ พักผ่อนให้สบายนะ” ลุคกล่าวต่อ
“ขอบคุณค่ะ และขอบคุณคุณดอยล์ที่ลางานให้กับฉัน…”
เธอก้มศีรษะลงอย่างรู้สึกผิด
ไม่นานชายคนนั้นก็หมดความอดทน และพุ่งตรงไปหาเธอ
ตามสัญชาตญาณเบียงก้า เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าว และยังกลัวเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้น ทั้งหมดที่เธอทำได้คือจับตาดูเอวของลุค...
เธอเห็นร่างกายอันกระชับของชายผู้นี้ถูกห่อหุ้มอยู่ใต้เสื้อเชิ้ตของเขา เมื่อเธอตระหนักว่าเธอกำลังมองไปยังที่ที่ไม่เหมาะสม เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองอย่างเชื่องช้า แต่แล้ว
การหายใจของเธอไม่สม่ำเสมอ เมื่อเธอถอยไปจนถึงกำแพง แต่ชายคนนั้นโอบล้อมเธอเอาไว้ ก้าวย่างของเขายาวกว่าเธอมาก และเงาก็ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเธอ ทำให้รู้สึกกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ลุควางมือบนกำแพงทันที นั่นทำให้เธอติดอยู่ระหว่างอ้อมแขนของเขา จากนั้นเขาก้มศีรษะลง มามองเธอจากด้านบน น้ำเสียงของเขาชวนให้หลงใหล “คุณกลัวผมงั้นเหรอ?”
เบียงก้าได้กลิ่นของผู้ชายที่ลอยออกมาจากตัวเขา มันมีกลิ่นหอมและปะปนไปด้วยร่องรอยของกลิ่นนิโคติน แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เธอล่องลอยออกไปไกล
เธอไม่รู้ว่าเธอหน้าแดงรึเปล่า เธอก็พบว่ามันหายใจลำบากเหลือเกิน ศีรษะของเธอสั่นเทาเมื่อมองขึ้นและพูดว่า “ใช่ ฉันกลัวค่ะ กลัวมากด้วย เพราะงั้น สิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้ไม่เหมาะสมค่ะ…”
“ถ้าคุณกลัวผมจริง แล้วคุณยังล่อผมเข้าไปในห้องของคุณทำไม? ผมบอกไม่ได้จริง ๆ ว่าคุณจะโกหกเมื่อไหร่และเมื่อไหร่ที่คุณพูดความจริงกับผม” เสียงทุ้มนุ่มลึกของชายผู้นั้นดังมาจากเหนือศีรษะของเธอ
เบียงก้าเงยหน้าขึ้นอย่างไร้เดียงสา "ฉันไม่เคยนะคะ…"
ลุคเตรียมคำตอบสำหรับทุกสิ่งไว้แล้ว “ผมถามคุณว่ามีใครอยู่ในห้องรึเปล่า คุณตอบว่าใช่มีคนอยู่ ผมยังบอกคุณด้วยว่าอยากพบคุณ แต่คงไม่เหมาะถ้าจะอยู่ที่นี่กันแค่สองคน ชายหญิงสองต่อสอง
เบียงก้า “…”
เธอไม่สามารถโต้เถียงเหตุผลของเขาได้
เมื่อเขาจ้องมองดวงตาและคิ้วอันอ่อนโยนของเธอ ทันใดนั้น เขาแตะริมฝีปากที่อ่อนโยนของเธอด้วยนิ้วเรียวยาวของเขา กดเบา ๆ "คุณโกหกผม คุณบอกผมว่ามีคนอื่นอยู่ในห้อง ผมก็เลยไม่สนใจการประชุมและเข้ามาที่นี่ นั่นหมายความว่าคุณหลอกให้ผมเข้ามาในห้องของคุณไม่ใช่เหรอ?”
เบียงก้าลดสายตาเธอลงมามองนิ้วของชายคนนั้นที่กดทับริมฝีปากของเธอ เธอพยายามยับยั้งท่าทางของร่างกายที่สั่นสะท้านอย่างไม่สมเหตุสมผล เธอเอ่ยอย่างหงุดหงิด “คุณคงเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ…”
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน
ลุค ครอว์ฟอร์ดไม่ใช่คนธรรมดาเดินดินทั่วไป เธอไม่คิดว่าเขาจะมาที่โรงพยาบาลจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ข้อโต้แย้งทั้งหมดของเธอฟังดูอ่อนแอและไม่น่าเชื่อถือภายใต้สถานการณ์เหล่านี้
“ไม่ค่ะ คุณจะทำอย่างนี้ไม่ได้…” เธอส่ายหัวและพยายามดึงตัวเองออกจากสถานการณ์ยุ่งยากนี้
วินาทีถัดมา ประกายแสงของชายหนุ่มลูบไล้ริมฝีปากของเธอหนักหน่วงยิ่งขึ้น ริมฝีปากอันบางเบาของเขาเริ่มบรรจงเปิดริมฝีปากของเธอ ลิ้นของชายหนุ่มวาดลวดลาย แทรกกายเข้าไปด้านใน ฉุดกระชากใจด้วยอารมณ์ของผู้ที่ปราชัย...
เบียงก้าตื่นตัวเมื่อได้สัมผัสกับรสชาติของชายผู้นี้ เขาสะอาดและสดชื่น ทั้งเอาแต่ใจและบ้าอำนาจ
เธออดไม่ได้ที่จะจำสิ่งที่เจสันพูดในตอนนั้น ใครก็ตามที่ต้องการจะทรยศชายผู้นี้ควรเลือกโกศหน้าหลุมศพไว้ล่วงหน้า...
บางทีอาจจะเป็นแบบที่คนพวกนี้คิดก็ได้ เมื่อเขาเลือกคุณแล้ว คุณต้องซื่อสัตย์ต่อเขาตลอดไปและทำทุกอย่างที่ชายและหญิงทำเพื่อสานความสัมพันธ์ และผู้หญิงคนนั้นไม่มีสิทธิ์เลิกลากับเขา
ในเวลาเดียวกัน ชายผู้นี้มีสิทธิ์ทุกประการที่จะพูดอย่างโหดร้ายว่า “ผมสนุกมากพอแล้ว และตอนนี้ผมไม่ต้องการคุณอีกต่อไปแล้ว”
นอกเหนือจากประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจเมื่อห้าปีที่แล้ว นี่เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เบียงก้าถูกผู้ชายคนหนึ่งลุกล้ำเข้ามาได้มากขนาดนี้ อันที่จริง เธอไม่เคยแม้แต่จะจูบชายคนนั้นเมื่อห้าปีก่อนด้วยซ้ำ…
ดวงตาของลุคเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น ลำคอของเขาสั่นเมื่อริมฝีปากที่ร้อนลุ่มไล่ไปถึงคอของเธอ จูบผิวที่เนียนนุ่มของเธอ
เธอครางเบา ๆ จิตใจของเธอยุ่งเหยิง ริมฝีปากของชายผู้นั้นส่งเสียงเย้ายวนยั่วยวนบนผิวนุ่มเนียนของเธอ
เบียงก้าถือว่าทั้งหมดนี่เป็นเพราะผลข้างเคียงที่ยังหลงเหลือจากยาที่ยังหลงเหลืออยู่ในตัวเธอ…
ประมาณห้านาที เธอก็สูญเสียความเป็นตัวเอง เมื่อตั้งสติได้ เธอก็เบิกตากว้างทั้งน้ำตาและกัดเขาโดยไม่ลังเล
เขากลัวเธอ
กลิ่นเลือดกระจายไปทั่วปาก…
ลุคหยุดจูบเธอ นัยน์ตาตัณหาของเขาจ้องมาที่เธอและทำให้ใบหน้าของเธอเร่าร้อน ผิวของเขาแดงก่ำและเสียงของเขาแหบในขณะที่เขาพูด “ระวังด้วย ถ้าคุณเผลอดื่มเลือดผมเข้าไป คุณอาจท้องก็ได้นะ”
ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นทันที...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก