ลุครีบออกจากที่ทำงาน ไปยังย่านที่เบียงก้าและคุณปู่ของเธออาศัยอยู่อย่างรวดเร็ว
รถเรนจ์โรเวอร์สีดำจอดอยู่ที่ประตูเพื่อนบ้าน ทันทีที่เขาลงจากรถ ลูกน้องที่มีสายตาเฉียบแหลมก็เข้ามารายงานต่อชายรูปร่างสูงโปร่ง “คุณครอว์ฟอร์ดครับ พวกเขาถูกจับและรถถูกลากออกไปแล้วครับ”
“ทำได้ดี” ลุคพูดสามคำนั้นอย่างไม่แยแส พลางเดินไปหาชายชราที่กำลังตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ชายด้านหลังไม่ได้ตามลุคเขามา หลังจากรายงานภารกิจเสร็จ พวกเขาไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไรต่อไป
ตำรวจจับกุมชายที่มีแผลเป็นทั้งสองคนออกไป ตำรวจจราจรยังได้สั่งให้รถบรรทุกลากรถคันที่เสียแล้วออกไป กระนั้น ฝูงชนจากบริเวณใกล้เคียงยังคงตื่นเต้นและล้อมรอบชายชรา
ลุคเข้าไปช่วยพยุงชายชราขึ้นแล้วพูดว่า “คุณปู่ครับ เรื่องทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วครับ”
“ขอโทษที่ทำให้ต้องลำบาก… ฉันเองโทรหาบีไม่ติดน่ะ คนกลุ่มนั้นเลยโทรหาคุณแทน…” คุณปู่หายใจเหนื่อยหอบและแสดงท่าทีเสียใจอย่างสุดซึ้ง เขามักคิดว่าตนแก่และไร้ประโยชน์ชอบสร้างปัญหาให้พวกเขาอยู่เสมอ
“ไม่ครับคุณปู่ แค่เรื่องเล็กน้อย” ลุควางตั้งใจพาชายชรากลับห้องพักก่อน
ลุคพยักหน้าเล็กน้อยให้กับหญิงวัยกลางคนสองคนที่ช่วยดูแลชายชราในละแวกนั้น ลุคหยิบกรงนกของชายชราขึ้นมาด้วยมือหนึ่ง ส่วนมือข้างหนึ่งพยุงชายชราไว้และพาเขาขึ้นไปที่ชั้นบน
หญิงวัยกลางคนนั้นด้านหลังเขาทั้งสองชื่นชมเขา “ดูสิเธอ เธอดูหลานเขยของตาคนนั้นสิ ถ้าเอาไปเทียบกับลูกเขยชาวบ้านนะ เขาทั้งหล่อ ขับรถก็หรู แถมจัดการทุกอย่างก่อนที่ตัวจะมาถึงที่เกิดเหตุอีก ต้องเป็นเพราะบุญกุศลของคนในครอบครัวชายชราที่สะสมมานานหลายชาติแน่ ๆ เลยฉันว่านะ!”
…
หลังกลับจากโรงพยาบาลจนถึงที่ทำงานในตอนบ่าย ไม่มีสายเรียกเข้ามาในโทรศัพท์เบียงก้าเลย
แน่นอน เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ในละแวกนั้น
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เบียงก้าจึงรีบร้อนโทรหาคุณปู่
ก่อนที่ชายชราจะทันได้พูด เบียงก้าตัดหน้าเอ่ยถาม “คุณปู่คะ มื้อเย็นวันนี้คุณปู่อยากทานอะไรดีคะ? คิดว่าคงนานมาแล้วสินะคะที่คุณไม่ทานปลา? พอเลิกงานแล้ว เดี๋ยวหนูจะซื้อปลามาทอดให้คุณปู่ทอดนะคะ”
เธอไม่ได้ยินคำตอบที่คาดคิดจากคุณปู่ กลับกลายเป็นเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นแทน จากนั้น เบียงก้าก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหูจากปลายสาย "หนูบี ปู่คือคุณปู่อีกคนของหลานนะ คุณปู่ของลุคไงลูก"
ฝีเท้าของเบียงก้าที่กำลังเดินข้ามถนนพลันหยุดลง คุณปู่จะอยู่กับปู่ของลุคได้อย่างไร?
ปี๊ป
ปี๊ป ปี๊ป
มันเป็นชั่วโมงเร่งด่วนและเบียงก้ากำลังติดอยู่ในกระแสการจราจรอันคับคั่ง ณ ถนนในย่านใจกลางเมือง
"ขอโทษจริง ๆ ค่ะ" เบียงก้าก้มศีรษะขอโทษรถที่เธอกำลังขวางอยู่ เธอถือโทรศัพท์เดินข้ามถนนและมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟใต้ดินอย่างรวดเร็วและถามว่า "คุณปู่ของหนู..."
“คืนนี้มากินข้าวเย็นกันนะ ลุคอยู่ที่ทำงานอยู่เลยลูก พวกหลานทั้งสองคนกลับมาพร้อมกันเลยก็ได้นะ เอาละ เอาละ! ปู่วางสายแล้วนะ!” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดพูดจบและวางสายไปอย่างอารมณ์ดี
เบียงก้าหยุดฝีเท้าอีกครั้ง ไม่รู้ว่าคุณปู่ไปถึงที่นั่นได้อย่างไร
ในขณะนั้น รถเรนจ์โรเวอร์สีดำก็ขับรถมาหยุดอยู่ข้างเธอ
เบียงก้าเห็นชายคนนั้นนั่งอยู่ในรถและรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
"ขึ้นรถสิ" หลังจากลดกระจกรถลง ผู้ชายที่มีใบหน้าดูแข็งแกร่งก็เร่งเร้าเธออย่างไร้ความอารมณ์รู้สึก
เบียงก้าไม่ยอมขึ้นรถ แต่ถามเขากลับ “ทำไมคุณปู่ฉันถึงอยู่กับคุณปู่ของคุณได้?”
“ไม่คิดที่จะพูดอะไรหน่อยเลยเหรอคะ?”
ลุคยังคงนิ่งเงียบ
“อย่าใช้วิธีแบบนี้มาบังคับฉันให้ทำอะไรแบบนั้นเลยค่ะ ฉันได้ไม่รังเกียจที่จะให้ปู่ฉันไปอยู่บ้านของคุณหรอกนะ” เบียงก้าไม่ได้กำลังจะประนีประนอม
ลุคมักมีวิธีที่จะควบคุมเธออยู่เสมอ สำหรับเธอ สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือพยายามกันเขาออกไปอย่างสุดกำลังเพื่อไม่ให้เขาควบคุมเธอได้สำเร็จ
“ก็ได้ ผมคิดว่าผมจะดูแลคุณปู่ของคุณไปตลอดชีวิตสักหน่อย” ลุคพูดอย่างเย็นชาและค่อย ๆ เลื่อนกระจกรถขึ้นช้า ๆ แล้วรถเรนจ์โรเวอร์สีดำก็แล่นหายไปจากข้างถนนอย่างรวดเร็ว
เบียงก้าตกตะลึง
การที่ฌองเคยนอกใจ ทรยศ และแม้กระทั่งทำให้ผู้หญิงคนอื่นตั้งครรภ์ ‘เจ้าฌอง เจ้าคนไม่เอาไหน อย่างคิดที่จะย่างกรายเข้าใกล้กับเบียงก้าอีกเชียว!’
โชคดีที่เขาสามารถการันตีได้ว่าลุคปฏิบัติต่อหลานสาวของเขาอย่างจริงใจ
'ประธานของบริษัทที่อายุน้อยและมีแวว ทั้งเขาและเธอก็เดินทางไปที่เมืองเล็ก ๆ นั่น แต่กลับน่าสงสารเสียจริงที่ต้องหลับนอนกันในรถ’
'ถ้าพ่อหนุ่มนี่ไม่ได้ชอบบีจริง ๆ ก็คงไม่เต็มใจนอนหลังขดหลังแข็งในรถทั้งคืนหรอก '
ลุคถือบุหรี่ในมือข้างหนึ่งพร้อมกับคุยงานผ่านโทรศัพท์ไปด้วย เด็กแฝดสองคนที่อยู่ข้างหลังเขามองชายบ้างานอย่างไม่พอใจนัก เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวแสบทั้งสองไม่ได้ยกโทษให้พ่อของตนเลย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงภาพยนตร์ พวกเขายังโกรธพ่อที่เลือกดูภาพยนตร์โดยไม่คิดหน้าคิดหลังเสียก่อน
พ่อเฒ่าเรย์นดูมีความสุขมากขึ้นเมื่อเห็นว่าหลานเขยของเขาเป็นคนที่มีความสามารถ มีความรับผิดชอบแถมยังมีภาวะผู้นำ
หากหลานสาวของพ่อเฒ่าสามารถแต่งงานกับชายคนนี้ได้ แสดงว่า ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา เธอก็ไม่ทนทุกข์ทรมานโดยเปล่าประโยชน์
…
เมื่อเบียงก้ามาถึงคฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด เมื่อร่างเรียวบางของเธอใกล้เข้ามา เด็กน้อยสองคนรีบออกไปกอดขาของเธอ เธอแทบจะไม่ได้เข้าไปด้านในด้วยซ้ำ
ทันทีที่เจ้าตัวแสบทั้งสองและเบียงก้าพบกัน ราวกับว่าเธอเป็นสนามแม่เหล็กที่ดึงดูดให้พวกเด็ก ๆ มาติดอยู่กับเธอ
ลุคเอาก้นบุหรี่ในมือออก เขาดูน่ากลัวอย่างยิ่งเมื่อทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เขาแผดเสียงใส่เด็ก ๆ ว่า "ทั้งสองคน หยุดเฮตะโลไปอย่างนั้นสักที ใครบอกให้ไปกอดน้าบีแบบนั้น?"
เมื่อได้ยินเสียงตวาดของชายหนุ่ม เบียงก้าก็ก้มหน้าลงทันใด เธอเกลี้ยกล่อมเด็กน้อยสองคนด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ “ลานี่ เรนนี่ ให้ฉันเข้าไปข้างในก่อนได้ไหมเอ่ย?”
เรนนี่ทรุดตัวลงในอ้อมแขนของเบียงก้า เธอร้องไห้และถูตัวไปกับเบียงก้า
ใบหน้าเล็ก ๆ ของลานี่พูดอย่างไร้ความรู้สึกข้าง ๆ เบียงก้าว่า “เราไม่รู้ว่าพอ่เป็นอะไรไปแล้วครับ อยู่ ๆ ดี พ่อก็ทำตัวเหมือนเป็นยักษ์เป็นมารอีกแล้ว พ่อสัญญาว่าจะพอไปดูหนัง แต่พ่อกลับไม่ดูให้ดีก่อนว่าพอเราไปดูหนังแบบไหน แล้วเลือกหนังเรื่อง ไลฟ์ ให้เราดูครับ เรนนี่กลัวมากเลยครับ และเราต้องเลิกดูกลางคันเพราะเรนนี่ร้องไห้ไม่หยุดเลย ตอนหลับนะ น้องบอกว่ายังฝันร้ายอยู่เลยด้วย”
“เข้าใจแล้วจ้ะ ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่นี่แล้ว” เบียงก้าจูบแก้มเล็ก ๆ ของเรนนี่ด้วยความเสียใจและอุ้มเธอขึ้นมาเพื่อปลอบประโลมเจ้าหญิงน้อย
เรนนี่ร้องไห้เและเศร้ายิ่งกว่าเดิม มือเล็ก ๆ ทั้งสองข้างของเธอโอบรอบคอเบียงก้าเอาไว้พลางพึมพำ "น้าบีคะ หนูไม่อยากอยู่กับพ่ออีกแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก