ออกจากพระตำหนักบำรุงฤทัย อวิ๋นหลิงก็ลากตัวเซียวปี้เฉิงกลับตำหนักฉางหนิงด้วยอาการหน้าเง้าหน้างอ
เซียวปี้เฉิงอดใจไม่ไหว เอื้อมมือไปหยิกแก้มของนาง "หน้าตาเจ้าตอนนี้ เหมือนปลาประหลาดชนิดหนึ่งที่ข้าเคยเจอในคลองสมัยก่อน คนแถวนั้นเรียกว่าปักเป้า"
อวิ๋นหลิงถลึงตาเข้าใส่ "เสด็จพ่อท่านลำเอียงตั้งขนาดนั้น ทำไมท่านไม่รู้สึกอะไรบ้างเลย?"
เซียวปี้เฉิงหยุดชะงัก เผลอยิ้มตอบว่า "หลายปีมานี้ข้าชินนานแล้ว ไม่ค่อยรู้สึกอะไรหรอก เพียงแต่...อวิ๋นหลิง วันนี้เจ้าปกป้องข้าต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ ข้ารู้สึกดีใจนัก"
ไม่เคยมีใครดีต่อเขาเช่นนี้ จนป่านนี้ยังรู้สึกอบอุ่นอยู่ในทรวง
เซียวปี้เฉิงมองดูอวิ๋นหลิงด้วยแววตาที่เป็นประกาย ซ้ำยังหอมแก้มนางไปอีก "มีเจ้าอยู่ด้วยช่างดีจริง ๆ"
อวิ๋นหลิงมองหน้าเขา ในใจทั้งนึกโกรธและนึกห่วงใย สารพัดความรู้สึกกลั่นออกมาเพียงสองคำเท่านั้น "เจ้าทึ่ม"
เซียวปี้เฉิงยักคิ้ว พูดอย่างไม่สู้พอใจนัก "เจ้าตั้งฉายาให้ข้าอีกแล้ว จากเจ้าบอดจนถึงเจ้าทึ่ม แต่ไม่เคยเรียกข้าว่าท่านพี่ซักครั้ง"
อวิ๋นหลิงตัวสั่นไปสามตลบ พูดอย่างขยะแขยงว่า "ท่านพี่ท่านเพ่ออะไรกัน ที่ ๆ ข้าอยู่ไม่นิยมเรียกแบบนี้ แค่ฟังก็ขนลุกแล้ว"
เซียวปี้เฉิงมองนางอย่างนึกขำ "แล้วทางบ้านเจ้าเรียกขานกันยังไง?"
"ทั่วไปก็เรียกที่รัก"
"ที่รัก? ฟังแล้วรู้สึกแปลก ๆ สู้เรียกเจ้าสามยังรื่นหูซะกว่า"
"ไม่ดี ๆ ตอนอยู่องค์กรข้าก็อยู่ลำดับสาม" อวิ๋นหลิงส่ายหน้า พูดยิ้ม ๆ ว่า "อึม...งั้นเรียกเจ้าทึ่มยังจะถนัดปากมากกว่า เพราะเห้งเจียก็เรียกตือโป๊ยก่ายแบบนี้เหมือนกัน"
เซียวปี้เฉิงทำหน้าบึ้ง แม้เขาจะไม่รู้ว่าใครคือเห้งเจีย แต่ชื่อตือโป๊ยก่ายมันหมายถึงหมูชัด ๆ
ขณะพูดคุยกัน เตียงไม้เล็กก็มีเสียงอ้อแอ้ลอดออกมา เพราะต้าเป่าตื่นแล้วจะกินนมนั่นเอง
อวิ๋นหลิงอุ้มต้าเป่าขึ้นมา พร้อมมองดูเอ้อร์เป่าที่ยังหลับปุ๋ยอยู่ อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ "หมูน้อยสองตัวนี้ช่างโตเร็วนัก"
เซียวปี้เฉิงก็มาดูลูกบ้าง "นั่นสิ หน้าตาเปลี่ยนไปวันต่อวันจริง ๆ อีกไม่นานคงได้จัดงานฉลองครบเดือนแล้ว"
"ถ้ามีกล้องถ่ายรูปก็คงดี จะได้บันทึกหน้าตาแต่ละวันของพวกเขาไว้" ไม่สามารถเก็บภาพตอนเด็กของพวกเขาไว้เป็นที่ระลึก อวิ๋นหลิงรู้สึกเสียดายนัก
เซียวปี้เฉิงกล่าวยิ้ม ๆ "เจ้าใช้ดินสอเขียนภาพได้ไม่ใช่หรือ ก็สามารถเก็บหน้าตาของพวกเขาตอนนี้เช่นกัน"
อวิ๋นหลิงตาเป็นประกาย ทำไมนางลืมข้อนี้ไปเสียได้
ไหน ๆ อยู่ในวังก็ว่างมากอยู่แล้ว อวิ๋นหลิงไม่รอช้า จะได้สอนเซียวปี้เฉิงให้เขียนรูปเป็นด้วย
"รอไว้พี่รองฟงจะกลับเป่ยฉินเมื่อไหร่ จะได้ฝากภาพเขียนไปให้พี่ฉิงดูด้วย ให้นางได้เห็นหน้าตาของพวกเจ้า"
ท่ามกลางเสียงที่กำชับ ฟงจื่อโจวเอาสิ่งของมากมายที่อวิ๋นหลิงฝากมา รวมถึงความคิดถึงของนางออกเดินทางจากต้าโจว แต่ก่อนไป เขาได้มอบกระบี่พกที่สลักตำแหน่งของหลิวฉิงไว้ให้แก่อวิ๋นหลิงด้วย
เซียวปี้เฉิงโอบไหล่นางเบา ๆ "เชื่อข้า การเดินทางจะต้องราบรื่น และไม่นานพวกเจ้าจะได้พบกันอีก"
อวิ๋นหลิงพยักหน้า เก็บความร้อนรนไว้ในใจ สีหน้านอกจากรอคอยแล้วยังมีความครุ่นคิดหนัก
ช่วงที่นางกับหลิวฉิงย้อนเวลามาตรงกับเวลาที่หินอุกกาบาตตกสู่ผิวโลก หากคำทำนายว่าเทพธิดามาจุติเป็นเรื่องจริง งั้นหลงเย่กับเสวียนจีก็น่าจะมาด้วยเช่นกัน
หนานถัง...ตงฉู่...
แคว้นหนานถังกำลังอยู่ในช่วงปิดเมือง อาจจะเว้นไว้ก่อน แต่ได้ยินว่าปีใหม่นี้ ทูตตงฉู่จะมาเยือนแคว้นต้าโจว
อวิ๋นหลิงแอบมีลางสังหรณ์ ทูตตงฉู่มาเยือนคราวนี้อาจมีสิ่งที่นางคาดคิดไม่ถึงก็เป็นได้
คิดได้ดังนี้ นางว่าจะถามเซียวปี้เฉิงเกี่ยวกับเรื่องของแคว้นตงฉู่ กลับเห็นเฉียวเย่สีหน้าเคร่งเครียดเข้ามาในตำหนักฉางหนิง
เซียวปี้เฉิงชะงักเล็กน้อย ขมวดคิ้วพลางถามว่า "เฉียวเย่ เกิดอะไรขึ้น ทำไมเข้าวังมาล่ะ?"
เฉียวเย่ถอนหายใจหนัก กล่าวอย่างร้อนรนว่า "ท่านอ๋อง หมู่นี้ท่านกับพระชายาไม่อยู่ในจวน เมื่อคืนมีคนลักลอบเข้ามา ขโมยกล่องไม้ที่ใส่กุญแจไว้ในห้องหนังสือของท่าน องครักษ์เยี่ยรีบไปตามล่า แต่กลับหลงกลถูกทำร้ายเข้า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...