พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 216

อวิ๋นหลิงยิ้มแป้oมองรุ่ยอ๋อง “ทำไมมองข้าด้วยสายตาแบบนี้ล่ะ ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า ให้ข้าตรวจให้ไหม หรือออกยาให้?”

เยี่ยนอ๋องมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ถามอย่างเป็นห่วง “พี่ใหญ่ป่วยรึ? ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ป่วยตรงไหน อาการหนักหรือเปล่า?”

ช่วงก่อนเขาถูกหวงกุ้ยเฟยเร่งให้แต่งงาน วุ่นวายจนหัวหมุน ไม่รู้ข่าวของรุ่ยอ๋องเลย

รุ่นอ๋องหน้าตึง ชิงพูดก่อนที่อวิ๋นหลิงจะเอ่ยปาก “อวี้จือไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ช่วงก่อนข้าแค่เป็นหวัด ไม่ได้เป็นอะไรมาก เจ้ากับข้าเราก็ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ไปพูดคุยกันดีกว่า”

พูดจบ เขาก็ลากเยี่ยนอ๋องออกหนีออกจากที่นี่

อวิ๋นหลิงเห็นรุ่ยอ๋องที่ขี้ขลาดแบบนั้นก็แค่นหัวเราะในใจ เพราะวันนี้คนเยอะหรอก เธอถึงไม่มีเวลาสนใจเขา

สองคนนั้นพึ่งออกไป องค์ชายห้ากับองค์ชายหกก็อีก ต่อด้วยคู่สามีภรรยาเสียนอ๋อง อุ้มนั่วเอ๋อร์น้อยที่สวมชุดใหม่ไว้ในอ้อมอก

วันนี้นั่วเอ๋อร์สวมชุดชุดแดง รอบคอพันไว้ด้วยขนกระต่ายสีขาวนุ่มนิ่ม ผมมัดจุกสองข้างและพันด้วยพู่เส้นสีแดง

เมื่อเห็นอวิ๋นหลิง หนูน้อยเรียกด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยสดใส

“คุณอาอวิ๋นหลิง วันนี้นั่วเอ๋อร์งามเหมือนคุณอาหรือม่าย?”

หลายวันก่อนพระชายาเสียนอ๋องมาเที่ยวหาที่จวนจิ้งอ๋องบ่อย นั่วเอ๋อร์จึงสนิทสนมกับอวิ๋นหลิงแล้ว

นอกจากแม่แล้ว นางก็ชอบอาสะใภ้คนสวยคนนี้ที่สุด มาหาทีไรก็ให้นางกินขนมน้ำผึ้งทุกครั้ง

พอเห็นอวิ๋นหลิงแล้ว นั่วเอ๋อร์ก็ดิ้นกระโดดจากอ้อมอกเสียนอ๋องทันที แล้วขาสั้นๆนั้นก็วิ่งเข้าไปหานาง ราวกับลูกบัวลอยก้อนนุ่มนิ่มมีชีวิต

“คุณอาอุ้มอุ้มนั่วเอ๋อร์!”

เสียนอ๋องมองลูกสาวอย่างกังวล แล้วเตือน “นั่วเอ๋อร์……ช้า ช้า หน่อยเดี๋ยว หก ล้ม !”

อวิ๋นหลิงอุ้มนั่วเอ๋อร์ขึ้นมา แล้วฟัดหอมลงบนแก้มอ้วนนั่นทีหนึ่ง

“วันนี้นั่วเอ๋อร์งามยิ่งนัก งามยิ่งกว่าอาอีก”

เมื่อนึกถึงเจ้าลูกหมูอ้วนสองตัวนั้นที่รู้จักแต่กินกับนอน ไม่ก็ใช้เสียงโหยหวนทำลายผู้อื่นแล้วนั้น อวิ๋นหลิงรู้สึกอิจฉาพระชายาเสียนอ๋องยิ่งนัก

ทำไมตอนนั้นนางไม่เกิดลูกสาวสองคนกันนะ?

นั่วเอ๋อร์ถูกหอมจนหัวเราะคิกคัก แล้วก็จุ๊บลงบนแก้มอวิ๋นหลิงด้วย

“นั่วเอ่อร์ไม่อยากงามกว่าคุณอา อยากงามเท่าคุณอา!”

ดูลูกสาวบ้านคนอื่นสิ!

อวิ๋นหลิงแอบคิดว่าอนาคตจะต้องมีลูกสาวให้ได้

เสียนอ๋องมองภาพนี้แล้วยิ้มกว้าง แต่มุมปากก็ตกลงเล็กน้อย

ปกตินั่วเอ๋อร์เป็นเด็กนิ่งเรียบร้อย ไม่ได้สดใสร่าเริงเฉกเช่นเด็กคนอื่น เขาที่เป็นพ่อ น้อยนักที่จะได้เห็นนั่วเอ๋อร์แสดงออกแบบนี้

ความชอบและใกล้ชิดสนิทสนมที่แสดงออกกับอวิ๋นหลิงนั้น ทำให้เสียนอ๋องรู้สึกแปลกใจนัก

“นั่วเอ๋อร์เจ้าอย่ากวนคุณอาเลย วันนี้นางยุ่งมากเลยล่ะ”

เมื่อเห็นว่าแขกเริ่มมากันเยอะแล้ว พระชายาเสียนอ๋องก็รีบอุ้มนั่วเอ๋อร์กลับมา แล้วยื่นซองอั่งเปาให้

อวิ๋นหลิงยิ้มรับไว้

หากถามว่าการจัดงานเลี้ยงฉลองครบหนึ่งเดือนนั้นมีดีอะไร คำตอบก็คือ การรับอั่งเปาจนมือไม้อ่อนไปหมด เมื่อนางลองจับวัดน้ำหนักอั่งเปาซองหนาพวกนั้น ก็รู้สึกคุ้มแล้วกับความเหนื่อยของหลายวันที่ผ่านมา

นอกจากค่าใช้จ่ายของการจัดเลี้ยงแล้ว คงได้กำไรมาไม่น้อย

ส่วนใหญ่แขกมักจะให้ของรับขวัญพวกเป็นสร้อยกุญแจทองและทับทรวง แต่พระโอรสหกพิเศษกว่าคนอื่น เขาให้รองเท้าหัวเสือสีแดงปักประณีตสวยงาม

รองเท้าหัวเสือเป็นรองเท้าพื้นหนา ตัดเย็บอย่างดี ข้างนอกเป็นลายปักประณีตดึงดูดสายตา ข้างในเป็นสำลีอ่อนนุ่ม

อวัยวะที่โดดเด่นที่สุดบนใบหน้าของนาง ได้แก่ คิ้วคมเข้มขนดกและจมูกที่โด่งเป็นสัน ประกอบกับผิวขาวผ่องนั้น ยิ่งส่งให้งามขึ้นกว่าเดิม

ซ่งเชว่อวี่เดินเข้าไป ตามมาด้วยสาวใช้ข้างหลังเข้ามามอบกล่องอันหรูหราให้

นางยิ้มกล่าว “ได้ข่าวว่าจิ้งอ๋องและพระชายาจัดเลี้ยงฉลองครบเดือนให้บุตรชายทั้งสอง วันนี้ข้าเป็นตัวแทนจวนอันชินอ๋องมอบของรับขวัญ ยินดีแก่ท่านทั้งสองยิ่งนัก”

กล่องหรูถูกเปิดออก ข้างในคือสร้อยกุญแจทองแท้หนึ่งคู่ เจิดจรัสท่ามกลางแสงแดดที่สาดส่อง

อวิ๋นหลิงเงยหน้ามองซ่งเชว่อวี่ ในใจมีความสงสัยเล็กน้อย นางรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าหน้าคุ้นมาก แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน

“ข้ากับพ่อบุญธรรมพึ่งกลับเมืองมาได้ไม่นาน จึงไม่ค่อยมีเวลาเตรียมของขวัญมากนัก ขอพระชายาจิ้งอ๋องโปรดเข้าใจ”

พูดไป ซ่งเชว่อวี่พลางก็ยกกำปั้นทำความเคารพอย่างเคยชิน

การทำความเคารพแบบยกกำปั้นกับประสานมือ แม้ท่าทางจะคล้ายกัน แต่ความหมายต่างกันสิ้นเชิง ที่ต้าโจว จะมีเพียงผู้ฝึกวิชาเท่านั้นถึงจะชอบเคารพแบบยกกำปั้น

พวกหรงฉานที่กำลังแทะเมล็ดทานตะวันอยู่ไม่ไกลออกไปก็เริ่มซุบซิบขึ้นมา

“เห็นทีก็คงจะเป็นดั่งข่าวลือนั่นแหละว่า ท่านหญิงอี้เหอเป็นบุตรสาวยุทรภพ”

สายตาอวิ๋นหลิงเผลอหยุดอยู่บนหลังมือของซ่งเชว่อวี่ แล้วชะงักไปนิด

หลังมือขาวของอีกฝ่ายนั้น มีรอยแผลลึกสีแดงจาง แม้จะมีแขนเสื้อปกปิด แต่ก็โผล่ออกมาท่อนเล็กๆ รอดสายตานางไปไม่ได้

ดูจากการประสานแผลแล้ว บาดแผลยังใหม่อยู่ น่าจะพึ่งได้มาไม่นาน

อวิ๋นหลิงฉุกคิดถึงคำพูดของเยี่ยเจ๋อเฟิงขึ้นมา ในคืนที่จวนจิ้งอ๋องถูกปล้น เขาได้ฝากรอยดาบไว้บนหลังมือขวาของสตรีปิดหน้าไว้หนึ่งแผล

ในใจนางสับสนว้าวุ่น แต่นางไม่แสดงสีหน้าออกมา เพียงแค่พยักหน้ายิ้มรับ

“ท่านหญิงอี้เหอเกรงใจไปแล้ว วันนี้ใครมาล้วนเป็นแขก เชิญรีบนั่งก่อนเถิด ตงชิงไปยกน้ำชามาให้ท่านหญิงอี้เหอเร็ว ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ