พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 270

สิ่งที่เซียวปี้เฉิงกล่าว ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

พระเจ้าหลวงครุ่นคิดดูแล้วพลันกล่าวเสียงเคร่งขรึม “พวกเจ้าสองคนกลับจวนก่อน ช่วงนี้ไม่ต้องอยู่ในวัง ไว้หาโอกาสได้แล้วค่อยคุยเรื่องการค้าขาย เวลาเจอหน้ากันจะได้ไม่รู้สึกอึดอัด”

“กลับถึงจวนแล้ว เจ้าสาม เจ้าไปตรวจสอบให้ละเอียดว่าองค์หญิงเก้ามีตราพยัคฆ์ได้อย่างไร?”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า บัดนี้ไม่เหมาะที่จะอยู่ในวังต่อจริง ๆ ไม่สู้กลับจวนไปพักผ่อนสักพักหนึ่ง จักรพรรดิจาวเหรินจะได้ไม่ลำบากใจ

ยามเที่ยงคืน พวกเขาสองคนนั่งรถม้ากลับจวนจิ้งอ๋องอย่างเงียบๆ เห็นได้ชัดว่าอวิ๋นหลิงยังไม่หายโกรธ ไม่พูดจาตลอดทาง ไม่แยแสเซียวปี้เฉิง

เมื่อกลับถึงจวนจิ้งอ๋อง ลู่ฉีที่ออกมาเปิดประตูทำหน้างัวเงียและสงสัย “ท่านอ๋อง พระชายา คืนนี้พวกพระองค์ต้องพักในวังไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

อวิ๋นหลิงทำหน้าบึ้งตึง เดินอ้อมผ่านเขาแล้วไปยังเรือนหลันชิง เซียวปี้เฉิงรีบเดินตามไปด้วยความร้อนรนใจ ไม่มีเวลาสนใจลู่ฉี

ลู่ฉีเกาหัวด้วยความงวยงง หลังกลับเข้าไปด้านในเรือนก็คุยกับเฉียวเย่

“ท่านอ๋องกับพระชายางอนกันอีกแล้ว เพราะอะไรหรือ?”

“ไม่รู้เหมือนกัน” ลู่ฉีส่ายหน้า “แต่ท่าทางการงอนของพระชายาเหมือนท่าทางของเวินหวยหยูจวิ้นจู่มาก ท่านว่าฝ่าบาทจะจัดพระชายารองให้ท่านอ๋องหรือเปล่า?”

“เจ้าอย่าพูดซี้ซั้วสิ”

เฉียวเย่ตำหนิเบา ๆ ภายในใจก็ครุ่นคิดไปด้วยว่า พระชายาเป็นคนร่าเริงและใจคอกว้างขวาง ไม่ค่อยงอนท่านอ๋อง หรือจะเป็นอย่างที่ลู่ฉีสันนิษฐานจริงๆ?

ณ เรือนหลันชิง เซียวปี้เฉิงเดินตามอวิ๋นหลิงพร้อมกับเรียกชื่อตลอดทาง

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูห้อง อวิ๋นหลิงก็กลอกตาใส่เขา จากนั้นก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “คืนนี้ข้าจะนอนคนเดียว ท่านไปนอนที่เรือนซู่สือ”

กล่าวจบ นางก็ปิดประตูเสียงดัง ให้อีกฝ่ายอยู่ด้านนอก เซียวปี้เฉิงอนาทรร้อนใจ คิดอะไรมากไม่ได้ รีบเอื้อมมือไปดันประตู

“อ๊าก”

วินาทีต่อมาเซียวปี้เฉิงก็โอดครวญด้วยความเจ็บปวด ทั้งยังสูดลมหายใจเข้าด้วย

อวิ๋นหลิงสะดุ้งตกใจ รีบเปิดประตู “ท่านเป็นอะไร มือโดนประตูหนีบหรือ?”

อวิ๋นหลิงเห็นเซียวปี้เฉิงกุมมือตัวเองแล้วเผยแววตาเจ็บปวด สีหน้านางก็กลัดกลุ้มขึ้นมา “เจ็บหนักไหม?”

“โอ๊ย! เหมือนกระดูกที่นิ้วจะหักแล้ว”

อวิ๋นหลิงได้ยินก็กระวนกระวายใจ รู้สึกปวดใจยิ่ง “ข้าผิดเอง...รีบเอามือมาให้ข้าดู”

นางเกลียดในความหัวฟัดหัวเหวี่ยงของตัวเอง นางไม่ได้ปิดประตูเบาๆเลย

เซียวปี้เฉิงเห็นอวิ๋นหลิงเดินเข้ามาด้วยความเป็นห่วง จึงยกมุมปากขึ้นโค้งโดยไม่ให้เป็นที่สังเกต จากนั้นสองแขนอันแข็งแกร่งก็ดึงนางมาอยู่ในอ้อมกอด

อวิ๋นหลิงชะงักงัน ก่อนจะรู้สึกเดือดดาลจนเกือบกระโดดขึ้นมา พูดเสียงหงุดหงิด “ตาบ้า กล้าหลอกข้าหรือ?”

นางอุตส่าห์เป็นห่วง

อวิ๋นหลิงยื่นมือแล้วตบไปยังหน้าผากอันบวมเป่งของเซียวปี้เฉิง

“เสแสร้งหรือ เสแสร้งเก่งนักใช่ไหม?”

เซียวปี้เฉิงส่งเสียง ครั้งนี้ไม่ได้แสร้งทำ แต่เจ็บจริงเลยแหละ

เมื่อเพลิงโทสะเลือนหายไปจากสมองของอวิ๋นหลิงแล้ว สติปัญญาก็บังเกิด นางถึงรู้ตัวว่าคืนนี้ตัวเองทำตัวไม่เหมือนเดิม ซึ่งเมื่อก่อนนางไม่เคยเป็นเยี่ยงนี้มาก่อน

หลังนางใจเย็นลงก็ยอมรับผิด “ข้าขอโทษ ข้าไม่ควรโมโหใส่ท่าน”

เซียวปี้เฉิงโล่งอก มุมปากยกโค้งขึ้น ก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ข้อมืออวิ๋นหลิง “พวกเราเป็นผัวเมียกัน ไม่จำเป็นต้องพูดแบบนี้”

ขี้หึงชะมัด แต่เขาชอบ

นางใส่ใจเขาเช่นนี้ทำให้เขาดีใจ หวานแหววหัวใจยิ่ง ความกลุ้มใจเรื่องตี้หวู่เหยาก็อันตรธานหายไปเป็นปลิดทิ้ง

“แต่ถ้าเจ้าอยากขอโทษจริงๆ เช่นนั้นก็ขอโทษด้วยการกระทำจะดีกว่านะ” เซียวปี้เฉิงยิ้มแล้วเอื้อมมือไปจิ้มแก้มด้านซ้าย และใช้แววตาบอกใบ้นาง

อวิ๋นหลิงเห็นเขาไม่ได้ขุ่นเคืองสักนิดก็รู้สึกอึ้ง ก่อนจะเอามือคล้องคอเซียวปี้เฉิงแล้วจุมพิตกับเขา

ใบหน้าเซียวปี้เฉิงผ่อนคลาย แววตาเผยความสุขสม จับท้ายทอยนางแล้วจูบอย่างดื่มด่ำ

หลังจากการขอโทษด้วยความจริงใจผ่านไป ความเฉยชาที่นางมีต่อเขาก็เลือนหาย ต่างโอบกอดเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย

“แล้วท่านจะจัดการเรื่ององค์หญิงเก้าอย่างไร?”

เซียวปี้เฉิงกล่าวเสียงเคร่งเครียด “นางบอกว่าสามปีก่อนเจอข้าที่เมืองสุย ข้าคิดย้อนหลังดูแล้ว สามปีก่อนตอนข้าอยู่ค่ายชายแดน ตราพยัคฆ์เคยหายไปจริงๆ”

“ตอนนั้นข้ากำลังทำสงครามอยู่ จำเป็นต้องใช้กองทัพรักษาการณ์ของเมืองสุย จึงส่งทั้งตราพยัคฆ์กับจดหมายไปหาเจ้าเมืองเมืองสุย อีกฝ่ายรีบส่งทหารสามหมื่นนายมาสมทบทันที”

“แต่ตอนที่ทหารมาถึงตราพยัคฆ์ก็หาย เพราะต้องสู้รบกัน ข้าจึงไม่ได้ตรวจสอบและลงโทษคนผู้นั้น ใครจะไปคิดว่าสงครามครั้งนั้นอันชินอ๋องคาบข่าวไปบอกข้าศึก จากนั้นก็เกิดเรื่องกับข้าและอวี้จือ จึงไม่ได้พูดถึงเรื่องตราพยัคฆ์หายอีก”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า แสดงว่าขอเพียงตรวจสอบให้รู้ว่าผู้ใดทำตราพยัคฆ์หาย เช่นนั้นก็จะรู้ว่าใครช่วยชีวิตตี้หวู่เหยาได้แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ