เมื่อเอ่ยถึงสาวใช้อุ่นเตียง อวิ๋นหลิงก็เริ่มสนใจขึ้นมา
“ว่าแต่ ท่านมีสาวใช้อุ่นเตียงกี่คนกันหรือ?”
เซียวปี้เฉิงเอ่ยตอบอย่างเย็นชา "เกี่ยวอันใดกับเจ้า!"
“สาวใช้ที่ชื่อชิวซวง เป็นสาวใช้อุ่นเตียงของท่านใช่หรือไม่?”
ชิวซวงเป็นสาวใช้ที่มีหน้าที่ดูแลปรนนิบัติเซียวปี้เฉิงโดยเฉพาะ รูปลักษณ์หน้าตาก็สะสวยไม่น้อย
อวิ๋นหลิงยังจำคืนแรกที่ตนเพิ่งทะลุมิติมาได้ดี สาวใช้ผู้นี้กำลังยืนสาปแช่งด่าทออยู่นอกประตู ว่านางว่าเป็นตัวซวยบ้าง และยังบอกอีกว่านางควรจะตายไปให้พ้นๆ
ต่อมาเมื่อได้รู้ว่านางสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดของเยี่ยนอ๋องได้ อีกทั้งเซียวปี้เฉิงยังให้ความสำคัญกับนาง จึงได้หลบเลี่ยงนางอยู่เป็นเวลาหลายวัน ด้วยกลัวว่าจะถูกชำระบัญชีความแค้น
"เจ้าถามเช่นนี้ทำไมกัน?"
"ข้าได้ยินพวกแม่นมที่ว่างงานพูดคุยกันว่า ชิวซวงปรนนิบัติรับใช้ท่านตั้งแต่ยังเล็ก และท่านก็จะเตรียมมอบฐานะที่เหมาะสมไว้ให้นางในไม่ช้าก็เร็วนี้"
ใบหน้าของเซียวปี้เฉิงพลันมืดลงและเอ่ยตำหนิ "ฟังเรื่องเหลวไหลให้น้อยลงหน่อย ข้าอายุสิบห้าปีก็เข้าสู่สนามรบแล้ว ไม่เคยจะมีแม้แต่มีสาวใช้อุ่นเตียงใดๆทั้งนั้น"
“อืม เช่นนั้นตอนอยู่ในกองทัพท่านเป็นพระอิฐพระปูนมาตลอดหรืออย่างไร?”
“แว่นแคว้นสำคัญที่สุด จะมัวไปเสพสุขได้อย่างไรกัน!”
ความจริงในค่ายทหารก็มีสถานที่เริงรมย์เพื่อให้ทหารได้ปลดปล่อย แต่เขามีฐานะเป็นถึงองค์ชาย แน่นอนว่าไม่อาจลดตัวเองลงไปยังสถานที่เช่นนั้นได้
อวิ๋นหลิงชะงักไปครู่หนึ่ง และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงระคนแปลกใจ
“ท่านหมายความว่า...ก่อนที่จะมีข้า ท่านไม่เคยแตะต้องสตรีมาก่อนเลยหรือ?”
หูของเซียวปี้เฉิงพลันแดงก่ำ สะบัดแขนเสื้อหันหลังหลบและตะคอกเสียงเย็น
“คุยเรื่องสำคัญต่อ! อย่าเอาแต่พูดเรื่องเหลวไหลกับข้า!”
เรื่องเช่นนี้ สำหรับบุรุษที่เกิดในยุคสมัยโบราณ ไม่เพียงจะไม่ได้รับการยกย่องชื่นชม แต่กลับถูกเยาะเย้ยและดูหมิ่นเสียด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นเขาท่าทางเขินอายเล็กน้อย ในใจอวิ๋นหลิงก็รู้สึกขบขัน แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการเปลี่ยนเรื่องของเขา
“พี่ใหญ่เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนและซื่อสัตย์ แต่บางครั้งความคิดของเขาก็อ่อนต่อโลกและไร้เหตุผลจนเกินไป คิดอยากแต่จะเป็นดังเช่นในบทละคร ที่ได้ครองคู่กับสตรีที่ตนรักไปชั่วชีวิต”
เรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นไม่ได้อย่างแน่นอนในราชวงศ์ นับประสาอันใดกับเขาที่เป็นถึงโอรสองค์โตที่เกิดจากฮองเฮา
"ช่างอ่อนต่อโลกเกินไปจริงๆ แล้วมันเกี่ยวข้องอันใดกับการไร้เหตุผลเล่า มนุษย์เราต่างก็เป็นเช่นนี้"
จากมุมมองของอวิ๋นหลิง การที่รุ่ยอ๋องมีความคิดเช่นนี้ทั้งที่เกิดในยุคสมัยนี้ ช่างถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมจริงๆ ไม่แปลกที่ฉู่อวิ๋นหลิงจะเห็นเขาเป็นชายหนุ่มในดวงใจ
รุ่ยอ๋องมีรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา แต่น่าเสียดายที่เขาเองก็ตาบอดเหมือนกันกับเซียวปี้เฉิง ที่ไปตกหลุมรักคนอย่างฉู่อวิ๋นหาน
“เจ้าเป็นสตรี แน่นอนว่าเจ้าเองก็คิดเช่นนั้น” เซียวปี้เฉิงทำสีหน้าไม่พอใจ “แต่การที่บุรุษจะมีสามภรรยาสี่อนุ ก็ยังถือเป็นเรื่องปกติอยู่ดี”
อวิ๋นหลิงหรี่ตามอง "ท่านหมายความว่า ในอนาคตท่านยังจะแต่งภรรยาและรับอนุเพิ่มอย่างนั้นหรือ"
เซียวปี้เฉิงฟังน้ำเสียงที่ไม่พอใจของนางออก "ทำไม เจ้าคิดว่าจะห้ามข้าได้หรือ?"
“ข้าจะไม่ห้ามท่าน เพียงแต่ข้าเองก็ทนไม่ได้ที่จะต้องใช้บุรุษร่วมกันกับผู้อื่น หากท่านจะแต่งกับผู้อื่น เช่นนั้นพวกเราก็ต้องหย่าขาดกัน”
เซียวปี้เฉิงเลิกคิ้วเล็กน้อยและเอ่ยเสียงเบา "สตรีที่อิจฉาริษยาถือว่ามีความผิดตามหลักเจ็ดขับ หากเจ้ายังคิดเช่นนี้ เกรงว่าชั่วชีวิตนี้เจ้าคงจะแต่งงานกับผู้ใดไม่ได้อีกแล้ว"
เช่นนั้นนางก็ขออยู่อย่างไร้คู่ไปชั่วชีวิตเสียดีกว่า
ไหนจะยังความผิดหลักเจ็ดขับอะไรนั่นอีก สังคมศักดินาช่างชั่วร้ายนัก การที่บุรุษตั้งตนเป็นใหญ่ก็ชั่วร้ายเช่นกัน
อวิ๋นหลิงตวาดเสียงเบา "ฉู่อวิ๋นหานเล่า? หากว่านางได้เป็นพระชายาเอกของท่าน ท่านก็ยังจะแต่งงานสตรีอื่นอยู่หรือ?"
เซียวปี้เฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง พลางขมวดคิ้ว "พูดถึงนางทำไมกัน? เจ้าคิดว่าผู้อื่นจะมีใจคอคับแคบและอิจฉาริษยาเช่นเดียวกันกับเจ้าอย่างนั้นหรือ? นางเป็นคนรู้เหตุรู้ผลดี จะต้องไม่ถือสาอย่างแน่นอน"
เขายอมรับว่า ในคราแรกเขาเต็มใจที่จะมอบตำแหน่งพระชายาจิ้งอ๋องให้กับฉู่อวิ๋นหานซึ่งมีฐานะเป็นเพียงบุตรอนุ ความจริงแล้วเป็นเพราะเห็นว่านางทั้งอ่อนโยนทั้งรู้ความ
อวิ๋นหลิงลอบขบขันในใจ เป็นไปตามคาดเมื่อเอ่ยถึงคนรักเก่า เจ้าหมอนี่ก็เริ่มที่จะเสียดสีนางเข้าแล้ว
"หากว่าได้แต่งงานกับฉู่อวิ๋นหานและยังคงจะรับอนุ ก็หมายความว่าท่านเองก็ไม่ได้รักใคร่นางมากเท่าใดนี่"
สตรีผู้นี้ขณะที่ตั้งท้องลูกของเขา ยังมีหน้ามาเอ่ยว่าความรักคือการเสียสละและเห็นแก่ตัวอะไรนี่ต่อหน้าเขาด้วยหรือ
หรือเป็นเพราะนางยังมีความคิดที่ไม่ถูกไม่ควรต่อรุ่ยอ๋องอยู่กันแน่?
"พอ พอ! เอ่ยเรื่องสำคัญกันต่อ"
อวิ๋นหลิงไม่ได้มีความสนใจในตัวรุ่ยอ๋อง เพียงมองจากในมุมของฉู่อวิ๋นหาน ก็พอที่จะยืนยันได้ว่าสายตาของอีกฝ่ายไม่ได้ดีเท่าใดนัก
เซียวปี้เฉิงคำรามเสียงต่ำจนแทบจะไม่ได้ยิน กระทั่งไม่รู้ตัวว่าได้ออกนอกเรื่องไปตั้งแต่เมื่อใด
สตรีผู้นี้มักจะสรรหาคำพูดไม่กี่คำมาทำให้เขาไขว้เขวตลอด!
"ฮองเฮาต้องการคัดเลือกพระชายาให้พี่ใหญ่ แต่พี่ใหญ่ก็มักบ่ายเบี่ยงด้วยเหตุผลร้อยแปดพันประการ จนถึงบัดนี้เขาก็ยังไม่มีครอบครัวหรือแม้แต่ทายาทด้วยซ้ำ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองจึงตึงเครียดขึ้นอย่างมากในตลอดสองปีมานี้"
คาดไม่ถึงว่ารุ่ยอ๋องที่มีท่าทีแลดูอ่อนโยนและจิตใจดีผู้นั้น จะกล้าต่อต้านฮองเฮาเพื่อให้ได้มาซึ่งในสิ่งที่ตนต้องการได้
“เช่นนั้นฮองเฮาเองก็คงจะร้อนใจมากเป็นแน่ องค์ชายองค์อื่นเล่า?”
เซียวปี้เฉิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม "ครั้นพี่รองยังเล็กได้พลัดตกจากที่สูงโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นมาก็กลายเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา เมื่อสองปีก่อนไม่ง่ายเลยกว่าสู่ขอบุตรสาวของรองผู้บัญชาการมาเป็นพระชายาเอกได้ จวบจนบัดนี้ก็มีเพียงบุตรสาวอายุเพิ่งจะครบปีเท่านั้น”
อวิ๋นหลิงพยักหน้า ตอนอยู่ในวังนางเองก็พอรู้รายละเอียดมาบ้างแล้ว
เสียนอ๋องโอรสองค์ที่สองของจักรพรรดิจาวเหรินได้พลัดตกจากบันไดตั้งแต่ยังเล็ก จนกลายมาเป็นคนปัญญาอ่อน
แต่หากไม่เป็นเช่นนี้ บุตรสาวของขุนนางฝ่ายบู๊ระดับห้าขั้นสูงในเมืองหลวงผู้หนึ่ง ก็คงไม่อาจเป็นพระชายาเสียนอ๋อง
“สำหรับสถานการณ์ของข้าและอวี้จือ เจ้าก็ทราบดีแล้ว ข้าขอไม่พูดซ้ำอีก”
เพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก คนหนึ่งตาบอด อีกคนพิการในสนามรบ
“องค์ชายห้าเล่า?” อวิ๋นหลิงถามด้วยความสงสัย “องค์ชายห้าเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว เหตุใดยังไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นอ๋องเล่า?”
เมื่อเอ่ยถึงองค์ชายห้า สีหน้าของเซียวปี้เฉิงก็ฉายแววว้าวุ่นใจออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...