เพียงไม่นานข่าวการตกพระโลหิตของพระชายาเสียนอ๋องก็ร่ำลือไปทั่ว ทำให้บรรยากาศซึ่งควรจะยินดีปรีดากลับกลายเป็นเศร้าหมองแทน
จักรพรรดิจาวเหรินทรงถอนพระทัยด้วยความเสียดาย “เฮ่ย...ให้หมอหลวงจัดเตรียมยาและของบำรุงต่าง ๆ แล้วจงพักฟื้นร่างกายเสีย”
เหล่าองค์ชายต่างก็เสกสมรสไปกว่าครึ่งแล้ว แต่ยังมีทายาทไม่มากนัก จึงถือเป็นเรื่องที่จักรพรรดิจาวเหรินทรงวิตกในเวลานี้
แม้ว่าเสียนอ๋องจะแอบคิดคด แต่ทายาทในครรภ์ของพระชายาเสียนอ๋องก็ยังเป็นที่ต้องการอยู่
แต่บัดนี้เด็กไม่มีแล้ว จักรพรรดิจาวเหรินก็ให้ทรงรู้สึกเครียดนัก “ให้ชายาเจ้าสามมาช่วยดูแลหน่อยแล้วกัน”
สองวันนี้อวิ๋นหลิงจึงต้องเทียวไปเทียวมาจวนเสียนอ๋องเพื่อดูอาการของพระชายา และวันนี้ดูเหมือนพระชายาเสียนอ๋องจะดีขึ้นบ้างแล้ว
“หลายวันนี้ต้องลำบากเจ้ามาช่วยดูแลข้า”
เมื่อเห็นอวิ๋นหลิงมา พระชายาเสียนอ๋องได้แต่ฝืนทำกระฉับกระเฉง ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากแต่แววตากลับดูโศกเศร้า
“เมื่อคืนฉางซวี่ไปเชิญหมอหลวงมาจากในวัง พวกเขาบอกว่าบอบช้ำภายในรุนแรง อนาคตเห็นทีจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีก”
อวิ๋นหลิงรู้สึกจุกในใจ “อย่าไปฟังคนอื่นพูดเหลวไหล ขอเพียงกินยาปรับสมดุลร่างกายให้แข็งแรง ไม่แน่อาจตั้งครรภ์ได้อีก”
พระชายาเสียนอ๋องได้ยินดังนี้ ประกายแห่งความหวังที่ฉายอยู่ในตาก็พลอยสูญสิ้น กลายเป็นความหมองเศร้าแทน
ด้วยวิชาแพทย์อย่างอวิ๋นหลิงยังไม่กล้าบอกว่าอีกหน่อยจะมีลูกได้อีก นางก็รู้แล้วว่าความหวังเรื่องทายาทคงจะริบหรี่เต็มที
พระชายาเสียนอ๋องได้แต่นั่งเหม่อลอย ปากก็พูดพึมพำ “นี่คงเป็นชะตาของข้ากระมัง...”
สิ้นเสียงไม่ทันไร ก็เห็นนั่วเอ๋อร์เดินต้วมเตี้ยมเข้ามา พร้อมโผเข้าสู่อ้อมอกของพระชายา
“ท่านแม่!”
นั่วเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาดว่านอนสอนง่าย น้อยครั้งที่จะร้องไห้งอแงตื่นตกใจ เมื่อเห็นบุตรีเป็นเช่นนี้ พระชายาเสียนเอ๋อก็รู้สึกเป็นห่วงนัก
“นั่วเอ๋อร์เป็นอะไรไป?”
นั่วเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาดำขลับคลอไปด้วยหยาดน้ำแห่งความหวาดหวั่นและเคว้งคว้าง “ท่านแม่ ท่านพ่อไม่ต้องการพวกเราแล้วใช่ไหม?”
พระชายาเสียนอ๋องหน้าซีดเผือด เลิกคิ้วเบา ๆ และถามว่า “ทำไมนั่วเอ๋อร์ถามเช่นนี้ล่ะ?”
นั่วเอ๋อร์เบะปากเล็กน้อย เอามือปาดน้ำตาพลางสะอื้นไห้ “ใคร ๆ ก็บอกว่าท่านพ่อจะแต่งเจ้าสาวคนใหม่ เพราะท่านแม่มีน้องชายให้ไม่ได้ และนั่วเอ๋อร์ก็ไม่ใช่เด็กผู้ชาย”
ได้ยินดังนี้เข้า พระชายาเสียนอ๋องก็ยิ่งหน้าเซียวไปอีก ร่างกายมีอาการสั่นเล็กน้อย
เรื่องของซ่งเชว่อวี่กับเสียนอ๋องแพร่กระจายไปทั่วแล้ว จนใคร ๆ ต่างก็รู้เรื่องที่เกิดในจวนอันชินอ๋อง อีกไม่นานฝ่ายหญิงคงจะได้เข้าจวนเสียนอ๋องเป็นแน่แท้
ไม่รุ้ว่าคนนอกไปซุบซิบนินทากันอย่างไร จนมารู้ถึงหูของนั่วเอ๋อร์เข้า
มีเงาร่างหนึ่งมาทางประตู พร้อมกับอุ้มนั่วเอ๋อร์ขึ้นเร็วพลัน น้ำเสียงแหบแห้งแฝงด้วยความโกรธที่ยากจะจับหางเสียงได้
“นั่วเอ๋อร์ คำพูดเหล่านี้ใคระเป็นคนบอกเจ้า?”
“พวกผู้ใหญ่ก็พูดอย่างงี้ทั้งนั้น” นั่วเอ๋อร์ขยี้จมูกเบา ๆ พลางกอดคอเสียนอ๋องเอาไว้ “นั่วเอ๋อร์จะเป็นเด็กดีทุกวัน ท่านพ่ออย่าทิ้งนั่วเอ๋อร์กับท่านแม่ไปนะ”
“เด็กโง่จริง พ่อจะทิ้งเจ้าไปได้ยังไง?”
เสียนอ๋องรู้สึกปวดใจจนแน่นอก จนแทบอยากตัดลิ้นคนที่พูดมากซะ พยายามที่ปลอบลูกสาวอย่างอ่อนโยน
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม นั่วเอ๋อร์ก็คือลูกรักของพ่อเสมอ”
“จริงหรือเจ้าคะ?” แววตาของนั่วเอ๋อร์เปล่งประกาย เต็มไปด้วยความยินดี “ท่านพ่ออย่าโกหกข้านะ มาเกี่ยวก้อยก่อน ใครผิดคำพูดขอให้เป็นสุนัข!”
เสียนอ๋องยื่นนิ้วเกี่ยวก้อยกับนาง ทำเอานั่วเอ๋อร์หัวเราะทั้งน้ำตา
เสียนอ๋องรู้สึกสะท้านในใจ ได้แต่ถอยห่างออกไปเงียบ ๆ เห็นร่างของอวิ๋นหลิงอยู่ในห้องโถง แววตาฉายความสับสนวูบหนึ่ง
“หลายวันนี้ ขอบคุณน้องสะใภ้สามมาก”
หญิงที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ เดิมเป็นศัตรูที่เขาครั่นคร้ามที่สุด ควรต้องวางแผนกำจัดซะ หากแต่นางได้ช่วยชีวิตบุตรและภรรยาเขาให้พ้นจากอันตรายถึงสองครั้งสองครา...
เสียนอ๋องรับตัวนั่วเอ๋อร์ที่หลับสนิทมา พร้อมเดินจากไป มุ่งไปยังเรือนตะวันออก
เห็นเขาเดินไปไกลแล้ว อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะแหวกผ่านมู่ลี่เดินเข้าข้างในอีก “เจ้าดีต่อซ่งเชว่อวี่ไม่น้อย นางยังทำกับเจ้าเช่นนี้ แล้วจะยอมอ่อนข้อง่าย ๆ หรือ?”
พระชายาเสียนอ๋องค่อย ๆ ลืมตาขึ้น มองไปยังผ้าห่มเงียบ ๆ ไม่พูดไม่จา
อวิ๋นหลิงไม่ใช่คนที่ยอมถูกรังแกง่าย ๆ เมื่อมาเห็นพระชายาเสียนอ๋องที่ดูโอนอ่อนผ่อนตามไปเสียหมด อารมณ์ก็อดคุกรุ่นขึ้นมาไม่ได้
“เมื่อนางเป็นคนวางยา เราก็มีวิธีเอาคืนเหมือนกัน”
นิสัยอวิ๋นหลิงไม่ใช่คนยอมรับชะตากรรม และไม่อยากให้คนอื่นยอมรับเช่นกัน นึกถึงสีหน้าแสดงความเจ็บปวดของเสียนอ๋องแล้ว นางก็ให้นึกขัน พร้อมรู้สึกขยะแขยงมากกว่า
เปลือกนอกทำเป็นรักครอบครัวนักหนา แต่ลับหลับไม่เคยทำอะไรที่ดีต่อพระชายาและลูกเลย
นั่นไม่ใช่ความรัก แต่เป็นการเสแสร้งมากกว่า
“ข้ารู้ว่าเจ้าเจ็บใจแทนข้า แต่เรื่องถึงขั้นนี้แล้วจะทำอะไรได้อีก”
พระชายาเสียนอ๋องฝืนยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงอ่อนระโหย แววตาตายด้านโดยสิ้นเชิง
“อวิ๋นหลิง บางครั้งข้าก็อิจฉาเจ้านัก ที่นึกจะพูดอะไรก็พูดได้ อยากทำอะไรก็ทำ แต่ข้าคงเอาอย่างไม่ได้”
เพราะนางไม่มีชาติตระกูลเหมือนอย่างอวิ๋นหลิง ความสามารถก็ไม่เทียบเท่า ยิ่งไม่มีรูปโฉมที่โดดเด่น หนำซ้ำยังไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...