จักรพรรดิจาวเหรินทรงปรับความคิดเสร็จสรรพก็ออกพระบัญชาอย่างรวดเร็ว
ความหมายทั่วไปคือรุ่ยอ๋องเป็นคนเหลวไหลและโง่เขลา ถูกไส้ศึกของเผ่าทูเจวียหลอกจนฟั่นเฟือน จากนั้นก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้น บุกเข้าไปในคุกใต้ดินโดยพลการ ทำให้น่าผิดหวังยิ่งนัก หากพระชายารุ่ยอ๋องต้องการหย่า เขาก็สามารถยอมรับคำขอของอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ ได้
ทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกไป เดิมตำหนักทองหลวงที่สุดแสนวุ่นวายอยู่แล้วก็วิพากษ์วิจารณ์กันเสียงขรม จนแทบจะกระพือยกหลังคาออกไปเลยทีเดียว
จักรพรรดิจาวเหรินประทับบนบัลลังก์มังกรด้วยพระพักตร์ไร้ความรู้สึก ดูสง่างามลุ่มลึก แต่จริงๆ แล้วสายพระเนตรว่างเปล่า พระทัยล่องลอย
เขาได้พัฒนาความสามารถเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาในช่วงสองสามวันนี้เรียบร้อยแล้ว
ผู้สันทัดข่าวบางคนรู้ว่าอวิ๋นหลิงเป็นผู้กระพือข่าวนี้อยู่เบื้องหลัง จึงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
“มีน้องสะใภ้ที่ไหนจะยุยงให้พี่ชายหย่ากับพี่สะใภ้ ไร้สาระสิ้นดี ไร้สาระแท้ๆ!”
“มือของพระชายาจิ้งอ๋องออกจะยื่นยาวเกินไปหน่อย…”
บางคนมองไปทางเซียวปี้เฉิงอย่างอดมิได้ พูดทำนองว่าเขาเป็นสามีอ่อนแอไร้น้ำยา ชายาไม่อยู่ในโอวาท ยอมให้อวิ๋นหลิงสนตะพายไปทุกเรื่องโดยไม่ดูแลสั่งสอน
ตอนนี้เซียวปี้เฉิงหน้าหนาเสียแล้ว ไม่รู้สึกเสียหน้าที่ตนถูกภรรยาควบคุมแต่อย่างใด ก่อนเหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยราบเรียบเสียงเนิบช้าว่า
“นางเป็นนายหญิงของจวนจิ้งอ๋อง เป็นชายาของข้า นางย่อมมีสิทธิ์มีเสียงในจวนจิ้งอ๋องครึ่งหนึ่ง”
“เรื่องที่เสด็จพ่อตกลงกันแล้ว ข้าแนะนำให้ทุกคนพูดเพลาๆ ลงหน่อย อีกอย่างชายาข้าเป็นคนวู่วามและชอบโต้เถียง ขืนได้ยินคำพูดเหล่านี้เข้า อาจจะอยากขอคำชี้แนะต่อหน้าทุกท่านเลยก็ได้”
สิ้นเสียงของเซียวปี้เฉิง ทุกคนในตำหนักทองหลวงล้วนมองไปยังอาลักษณ์กรมพิธีการโดยไม่รู้ตัว เห็นชัดว่าจดจำฉากครั้งที่แล้วที่เขาถูกบีบให้ ‘ชนเสาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กระจ่าง’ ได้ดี
วู่วามและชอบโต้เถียง?
ทุกคนต่างมีสีหน้าอ่อนลง ดีที่เขาพูดออกมา คงชอบลงไม้ลงมือและชอบก่นด่าผู้คนด้วยกระมัง!
อาลักษณ์กรมพิธีการถูกมองจนใบหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว อดพูดด้วยความกรุ่นโกรธไม่ได้ว่า “มองข้าทำไม ข้าจะพูดอะไรได้!”
ถูกต้อง นับตั้งแต่พ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของอวิ๋นหลิง อาลักษณ์กรมพิธีการไม่เคยปริปากวิจารณ์เรื่องใดๆ เกี่ยวกับวีรกรรมของพระชายาจิ้งอ๋องเลย
บรรดาขุนนางในราชสำนักยังคงไม่พอใจเล็กน้อย แต่เสียงกลับเบาลง
เซียวปี้เฉิงเห็นฉากนี้อยู่ในสายตา ก่อนกวาดตามองไปรอบๆ พบว่าผู้ที่ต่อต้านอวิ๋นหลิงนั้นส่วนใหญ่จะเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น
ชื่อเสียงของอวิ๋นหลิงในเมืองหลวงยามนี้เรียกได้ว่าแบ่งเป็นสองขั้ว คนที่ยกย่องก็จะสรรเสริญนางให้ได้ขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า คนที่ก่นด่าก็จะเหยียบย่ำนางจมกองโคลนตม
บัณฑิตให้ความสำคัญกับกฎธรรมเนียมเป็นที่สุด จึงมีความคิดโน้มเอียงไปทางคร่ำครึ
เริ่มแรกอวิ๋นหลิงช่วยชีวิตพระเจ้าหลวงกับเหล่าองค์ชายจนมีความดีความชอบ จึงเปิดโรงหมอและขายยารักษาโรคหลายชนิดในราคาย่อมเยา ปัญญาชนและศิษย์สำนักต่างๆ ล้วนพากันเขียนพรรณนาบทกวีและความเรียง ยกย่องความงามและความเมตตาที่สามารถชุบชีวิตคนได้ของนางอย่างล้นหลาม
อาจเป็นเพราะหลังจากมีข่าวโจษจันไปว่านางไม่อนุญาตให้เขาแต่งชายารอง ชื่อเสียงของอวิ๋นหลิงก็เริ่มถูกครหาปะปนกันไป บางคนเริ่มบอกว่านางชอบอิจฉาและตระหนี่ถี่เหนียว
จนกระทั่งถึงคราวนั้นที่บุกเข้าตำหนักทองหลวงโดยพลการแล้วทุบตีอาลักษณ์ผู้เฒ่ากรมพิธีการจนสลบเหมือด เหล่าข้าราชบริพารไม่ได้พูดอะไรต่อหน้า เพราะติดที่ความสัมพันธ์อันไม่ธรรมดาของนางกับราชสำนักเป่ยฉิน จึงได้แต่พูดจาบาดหูไม่น่าฟังลับหลัง
ตอนแรกผู้ที่สรรเสริญนางขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าคือขุนนางฝ่ายบุ๋น ตอนนี้คนที่เหยียบย่ำนางจมกองโคลนตมก็คือขุนนางฝ่ายบุ๋นอีกเช่นกัน
ตรงกันข้าม อวิ๋นหลิงได้สร้างความรู้สึกดีๆ และมีชื่อเสียงระบืออย่างสูงส่งอยู่ในใจของบรรดาแม่ทัพทั้งหลายมาตลอด
เหล่าทหารไม่เคยใส่ใจกับกฎเกณฑ์ที่ยุ่งวุ่นวายมากมายถึงขนาดนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พวกเขารู้แค่ว่าพระชายาจิ้งอ๋องฝ่าทำลายพิษควันของเผ่าทูเจวีย แล้วส่งยารักษาบาดแผลอันน่าอัศจรรย์เป็นพะเรอเกวียนมาให้ รวมถึงอาวุธหน้าไม้ที่ประณีตและทรงอานุภาพจำนวนมาก ที่ช่วยผ่อนแรงกดดันทางชายแดนได้มากโข
เท่าที่พวกเขาเห็น พระชายาจิ้งอ๋องคือเทพธิดา นางรั้งตำแหน่งอยู่ในใจพวกเขาอย่างไม่สั่นคลอนและไม่แปรเปลี่ยนเหมือนกับจิ้งอ๋อง
เซียวปี้เฉิงกำลังครุ่นคิด ก็ได้ยินขันทีปรากฏตัวตรงหน้าประตูตำหนักทองหลวงด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข
“ฝ่าบาท! ข่าวดี ข่าวดี! ดีที่สุดเลยพ่ะย่ะค่ะ!”
จักรพรรดิจาวเหรินกำลังประทับอยู่บนบัลลังก์มังกรก่อนลืมพระเนตรที่งัวเงีย พลันตื่นสะดุ้งเฮือก แล้วกระแอมเบาๆ สองที
ไม่แปลกที่เขาจะเผลอนั่งหลับไป อายุอานามปูนนี้แล้ว อดตาหลับขับตานอนมากว่าสิบวันติดต่อกัน ย่อมทนไม่ไหวอยู่แล้ว
“ฝ่าบาท พระองค์กับจิ้งอ๋องไม่เคยเปิดเผยว่าปืนคาบศิลานั้นเป็นของวิเศษที่ได้มาจากที่ใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“กระหม่อมก็อยากรู้เหมือนกันว่านั่นเป็นอาวุธลับที่ราชสำนักเป่ยฉินมอบให้มาสนับสนุนพวกเราหรือไม่”
“ไม่ๆๆ น่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์แปลกใหม่ที่แคว้นตงฉู่ได้มาจากชาวตะวันตก ข้าได้ยินมาว่าทางตงฉู่คล้ายจะมีเรื่องเช่นนี้เหมือนกัน”
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การมีอาวุธเช่นนี้อยู่ในมือ ต่อจากนี้ไปแคว้นต้าโจวจะไร้ผู้ต้านทานมิใช่หรือ ไยจะต้องกลัวศัตรูมารุกรานด้วยเล่า”
จักรพรรดิจาวเหรินทรงถอนพระทัยลึกๆ อยู่ในใจ “เจ้าสาม เจ้าว่ามาสิ”
เซียวปี้เฉิงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วตอบด้วยเสียงเข้ม “ปืนคาบศิลาแคว้นต้าโจวมีอานุภาพเหนือกว่าปืนคาบศิลาของตะวันตก ชายาข้าสร้างขึ้นตามคำแนะนำของเทวดาที่มาเข้าฝัน ค่ายปืนไฟนั้นชายาข้าก็สร้างขึ้นเช่นกัน พลปืนทั้งหลายในค่ายก็ได้รับการสอนและฝึกฝนจากนางด้วย”
สิ้นเสียงของเขา ในตำหนักก็เงียบกริบไปครู่หนึ่ง ทุกคนต่างมองเขาด้วยความประหลาดใจ
แม้กระทั่งอาลักษณ์ผู้เฒ่ากรมพิธีการก็ดวงตาสั่นไหวอย่างอดไม่ได้ ก่อนถามเสียงหลงว่า “จริงหรือนี่”
เซียวปี้เฉิงไม่ยกเปลือกตาขึ้นด้วยซ้ำ “หากใต้เท้าอาลักษณ์ไม่เชื่อ ให้เสด็จพ่อช่วยยืนยันได้”
จักรพรรดิจาวเหรินพยักพระพักตร์ ตรัสด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ชิงอี้มีคุณงามความชอบ สมควรตกรางวัลอย่างงาม”
เขาตั้งใจเรียกขานชื่อนี้โดยเฉพาะ ทำให้ขุนนางทุกคนในท้องพระโรงเงียบไปครู่หนึ่ง อดนึกถึงชื่อพิเศษที่พวกเขาจงใจลืมไปเสียสนิท
เห็นชัดว่า จักรพรรดิจาวเหรินทรงอนุญาตให้พระชายาจิ้งอ๋องเข้ามาแทรกแซงเรื่องของราชสำนักในภายภาคหน้าได้
พวกเขาคิดจะตอบโต้แต่ก็พูดไม่ออก สุดท้ายทำได้เพียงเงียบงันต่อไปเท่านั้น
หลังจากเซียวปี้เฉิงกลับจวนในยามเย็น ก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตำหนักวันนี้ให้อวิ๋นหลิงฟัง
“นับตั้งแต่นี้ไป ถ้าคนเหล่านั้นเจอเจ้า เกรงว่าจะไม่กล้าผายลมเสียด้วยซ้ำ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...