พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 389

“เจ้าไม่พอใจที่ข้าวางแผนเช่นนี้หรือ?”

จื่อเถาระงับอารมณ์ที่ซับซ้อนออกไป ปรับสภาพจิตใจของตัวเองให้เร็วที่สุด

“ตอบพระสนมเพคะ บ่าวไม่อยากตกเป็นทาส”

ระบบทะเบียนบ้านของแคว้นต้าโจวจะแบ่งเป็นสถานะสูงหรือต่ำ แบ่งออกเป็นชาติกำเนิดชนชั้นสูง ชาติกำเนิดดี ชาติกำเนิดพ่อค้า ชาติกำเนิดทาสและชนชั้นล่าง

สาวต้นห้องไม่มีชื่อเสียงไม่มีฐานะ เป็นแค่ของเล่นในมือคนอื่น นางคงบ้าไปแล้วอยู่เป็นสามัญชนดี ๆ ไปเป็น วิ่งเข้าไปเป็นบ่าวให้คนอื่น

ความประหลาดใจเล็กน้อยแวบเข้ามาในดวงตาเหลียงเฟย “เจ้าไม่ได้ขายตัวให้จวนจิ้งอ๋อง?”

“บ่าวแค่ถูกพระชายาจิ้งอ๋องจ้างมา”

ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ไม่ง่ายแล้ว ถ้าไม่ได้โฉนดการขายตัวของจื่อเถา เด็กผู้หญิงแบบนี้ก็จะควบคุมอยู่ในมือได้ยาก

เหลียงเฟยกัดฟัน ทำได้เพียงถอยให้หนึ่งก้าว

“ถ้าเช่นนั้นข้าสามารถวางแผนให้เจ้าเป็นอนุภรรยาของโม่เอ๋อร์ เพียงแค่ในอนาคตเจ้าสามารถคลอดลูกชายหลังจากพระชายาพระโอรส ก็จะอนุญาตตำแหน่งพระชายารองให้เจ้า!”

นี่ถือว่ายอมอ่อนข้อให้มากแล้ว ถ้าหากไม่เห็นแก่พระโอรสห้าที่ดีต่อจื่อเถาเป็นพิเศษ นางไม่มีทางพิจารณาให้เด็กผู้หญิงคนนี้เข้าไปเรือนหลังของลูกชายแน่

จื่อเถาเงียบไปชั่วขณะ ความรู้สึกสับสนในใจตลบอบอวลอีกครั้ง

ทันใดนั้นในสมองมึนงงคิดถึงแส้ที่ตกลงมาเหมือนเม็ดฝนในวันนั้น อีกทั้งใบหน้าที่อ่อนแอของพระโอรสห้า ปกป้องหน้าอกของนางแน่น...

จื่อเถารู้ว่า พระโอรสห้ามีความรู้สึกดีต่อนางไม่มากก็น้อย อีกทั้งบัดนี้ตัวนางก็เช่นเดียวกัน

แต่ช่องว่างระหว่างสถานะของพวกเขากว้างเกินไป นั่นเป็นเรื่องที่ไปไม่ได้เลย

เมื่อครุ่นคิดเช่นนี้ จื่อเถาก็ส่ายหัวอย่างแน่วแน่อีกครั้ง กล่าวปฏิเสธอย่างอ้อม ๆ ว่า “จื่อเถาขอขอบพระคุณความเมตตาของเหลียงเฟยอีกครั้ง”

เมื่อเห็นนางที่ไม่รู้จักเห็นความหวังดี ใบหน้าที่อ่อนโยนของเหลียงเฟยในที่สุดก็เริ่มมีรอยร้าวและเสียงก็เย็นชาลงทันที

“เจ้าไม่ยอมก็ช่างเถิด ถ้าเช่นนั้นก็ช่วยรักษาโรคที่ซ่อนอยู่ของโม่เอ๋อร์ รักษาได้แล้วก็จะอนุญาตให้เจ้าออกจากวังได้ จากนั้นมอบเงินตำลึงให้เจ้าพันชั่ง!”

จื่อเถาก้มหัว สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “พระสนม บ่าวไม่ใช่หมอเพคะ”

“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องหมอ ขอเพียงเจ้ามาปรนนิบัติโม่เอ๋อร์ทุกคืนก็พอแล้ว ปรนนิบัติจนกระทั่งเขาจะไม่ต่อต้านที่จะใกล้ชิดกับผู้หญิงอีกต่อไป”

“พระสนม บ่าวทำไม่ได้เจ้าค่ะ”

เหลียงเฟยอดไม่ได้ที่จะตบโต๊ะอย่างหนัก ๆ ใบหน้าก็ไม่อ่อนโยนเหมือนอย่างเมื่อครู่แล้ว

“เหตุใดเจ้าถึงไม่ยอม?หรือว่าสิ่งที่ข้าให้เจ้ายังไม่พออีกหรือ?”

“ทั้ง ๆ ที่เจ้ารู้ว่าโม่เอ๋อร์มีโรคที่ซ่อนอยู่ บัดนี้มีเจ้าเพียงคนเดียวที่ใกล้ชิดกับเขาได้ เขามาปกป้องเจ้าต่อหน้ากบฏโดยไม่สนชีวิตของตัวเอง หรือว่าเจ้ามีหัวใจที่จะสำนึกบุญคุณหน่อยหรือ?”

“ให้ชื่ออนุภรรยาแก่เจ้าก็ไม่เอา ให้เงินตำลึงเจ้าก็ไม่เอา สรุปว่าเจ้าอยากจะได้อะไร?”

ถ้าหากไม่ใช่ว่าจื่อเถามีอวิ๋นหลิงหนามที่ยั่วโมโหง่าย ๆ ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง นางคงไม่ต้องเปลืองแรง ทั้งพูดโน้มน้าวและอ้อนวอนมากมายขนาดนี้

นางโมโหมากแล้ว!

จื่อเถาที่เผชิญกับความโกรธของเหลียงเฟย ก็สงบนิ่งมาก มองดวงตาของเหลียงเฟยอย่างไม่หวาดกลัวเลยสักนิด

“พระสนมเพคะ บ่าวไม่เอาอะไรทั้งนั้น เพียงแค่บ่าวมีหลักการของตัวเอง”

เหลียงเฟยหรี่ตาลง “หลักการอะไร”

จื่อเถาพูดทีละคำอย่างจริงจังว่า “ยอมเป็นภรรยาที่ยากจน ดีกว่าเป็นอนุภรรยาที่ร่ำรวย!”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ร่างกายของเหลียงเฟยก็สั่นระริก นึกว่านางไม่พอใจกับตำแหน่งอนุภรรยา

จากนั้นมีสีหน้าโมโหสุดทน อดที่จะตบอีกฝ่ายไม่ได้

“ดีเหลือเกินหนาอนุภรรยาที่ร่ำรวยไม่เป็น!ดูเหมือนว่าเจ้าอยากจะเป็นพระชายาของพระโอรสห้านั่น ที่แท้ก็มีความคิดนี้!”

พระโอรสห้าถอนหายใจด้วยความโล่งอก สนมลี่ผินนอนพักผ่อนเร็วมาโดยตลอด เขามองท้องฟ้าก็คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะพักผ่อนแล้ว

เมื่อคิดแล้วเขาก็เดินไปหาเหลียงเฟย

คืนนั้นในหอนอนของเหลียงเฟยมีเสียงทะเลาะวิวาทอย่างต่อเนื่อง บรรดาชาววังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ล้วนเงียบเหมือนจักจั่น

ทุกคนรู้เพียงว่าสุดท้ายพระโอรสห้าโกรธและสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป สีหน้าเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหลียงเฟยโกรธจนร้องไห้ไม่หยุด ราวกับมีคนทําถ้วยชาที่มีค่าหลายใบร่วงหล่น

......

เช้าตรู่วันต่อมา อวิ๋นหลิงนั่งรถม้าเข้าวังพร้อมกับเซียวปี้เฉิง

หลังจากรถม้าเข้ามาในวังหลวง ทั้งสองคนก็แยกกัน คนหนึ่งไปราชสำนัก ส่วนอีกคนไปวังหลัง

อวิ๋นหลิงไปถามสารทุกข์สุขดิบของพระเจ้าหลวงก่อน จากนั้นก็รออยู่ที่ตำหนักรอง ไม่นานจื่อเถาก็มาถึง

เมื่อเห็นใบหน้าด้านข้างของนางบวมขึ้น ทันใดนั้นสีหน้าของอวิ๋นหลิงก็อึมครึมลงทันที “เกิดอะไรขึ้น เหตุใดเหลียงเฟยถึงได้ลงไม้ลงมือกับเจ้า?”

ผ่านไปหนึ่งคืนอาการบวมก็ไม่ลดลงเลย ตบแรงขนาดไหนกัน?

“พระชายาสบายใจได้ บ่าวไม่เป็นอะไร”

เมื่อเห็นอวิ๋นหลิง สีหน้าของจื่อเถาผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด พูดทุกอย่างด้วยน้ำเสียงที่เงียบสงบ

“เหลียงเฟยสั่งให้เจ้าเป็นสาวต้นห้องของหยวนโม่?”

จื่อเถาฝืนหัวเราะ “บ่าวปฏิเสธเหลียงเฟยอย่างอ้อมค้อม กลับคิดไม่ถึงว่าจะทำให้นางเข้าใจผิดว่าข้าปรารถนาตำแหน่งตำแหน่งพระชายาพระโอรสห้า”

อวิ๋นหลิงยิ่งฟัง ก็ยิ่งขมวดคิ้วหนักมาก

ฟังภาษาคนไม่เข้าใจก็ชั่ง สมองยังถูกประตูหนีบอีก?

เดิมทีนึกว่าดีกว่าฮองเฮาเฟิงและหวงกุ้ยเฟย เหลียงเฟยไม่เหมือนคนอื่น ที่แท้ก็ไม่ใช่คนดีอะไรเหมือนกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ