พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 479

กู้ฮั่นม่อเห็นว่าเขากำลังว้าวุ่นสับสน จึงเอ่ยให้กำลังใจ "ผ่านมาหลายปีแล้ว ถึงอย่างไรตระกูลเฟิงก็ไม่สนใจเจ้าอยู่แล้ว มิสู้ใช้ชีวิตเพื่อตนเองให้ดีสักครั้ง เจ้าเองก็ได้เห็นกับตาแล้วว่าพระชายาจิ้งอ๋องสามีภรรยา พวกเขาต่างก็เป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่อาจเกิดอคติเพียงเพราะฐานะของเจ้าได้แน่”

เฟิงอู๋จีเงียบไป ดวงแววตาที่วูบไหว

เขาเป็นบุตรอนุที่เป็นญาติห่างๆของตระกูลเฟิง มารดามีมาจากหอคณิกาและถูกบิดาไถ่ตัวออกมาเป็นอนุภรรยา เมื่อเขายังยังเล็กก็ป่วยตายไปเสียแล้ว

ในฐานะบุตรชายของสตรีที่มาจากหอคณิกา ปกติแล้วบิดาเองก็ไม่ชอบเขา แน่นอนว่าคนตระกูลเฟิงส่วนใหญ่ก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างดูถูกดูแคลน

เมื่อเห็นความวูบไหวในแววตาของเฟิงอู๋จี กู้ฮั่นม่อก็รู้ว่าโน้มน้าวเขาได้แล้ว จึงฉวยโอกาสตีเหล็กตอนยังร้อนต่อ

“พรสวรรค์ของเจ้าไม่ได้ด้อยไปกว่าข้า ทว่าต่อให้สิ่งที่เจ้าศึกษาไม่ไม่เป็นไปตามหลักการก็ช่างเถิด แต่การอยู่ในตระกูลเฟิงมีแต่จะฝังกลบเจ้าเท่านั้น”

จากที่กู้ฮั่นม่อดูแล้ว เฟิงอู๋จีเป็นผู้มากพรสวรรค์หาตัวจับยาก แต่เขาแค่ชอบสิ่งที่แตกต่างออกไป

เขาไม่สนใจหนังสือประวัติศาสตร์และบทกวี แต่มีความกระตือรือร้นในการศึกษาหนังสืออ่านเสริมเช่น "คัมภีร์สิ่งประดิษฐ์ธรรมชาติสร้าง" และ "คัมภีร์ตรรกะศาสตร์"

เล่มแรกประกอบด้วยบันทึกทางการเกษตรและหัตถกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรรมวิธีการผลิต ในขณะที่เล่มหลังเป็นการสำรวจปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ

หากเอ่ยว่าเล่มแรกนับว่ามีประโยชน์ในทางปฏิบัติ เล่มหลังก็นับว่าสำคัญต่อขนบธรรมเนียมในตระกูลใหญ่อย่างแท้จริง ทั้งหมดล้วนแต่ถูกเป็นการดำรงอยู่ของคนต่างเผ่าพันธุ์โดยสิ้นเชิง

ทว่าไม่ว่าคุณสมบัติของเฟิงอู๋จีจะดีเพียงใด ตระกูลเฟิงก็คงไม่ทุ่มเทกับบุตรอนุผู้หนึ่งมากจนเกินไป ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสนับสนุนให้เขาศึกษา "ลัทธินอกรีด" เหล่านี้ด้วยซ้ำ

กู้ฮั่นม่อกล่าวต่อ "ดูจากระบบต่างๆที่จัดตั้งขึ้นในสำนักศึกษาชิงอี้แล้ว พระชายาจิ้งอ๋องก็เป็นผู้ที่ถนอมพรสวรรค์ หากเราได้ติดตามนาง แน่นอนว่าจะสามารถแสวงหาสิ่งที่ต้องการได้ เจ้าคิดให้ดีแล้วกัน"

หลังจากนั้นเป็นนาน เฟิงอู๋จีก็ค่อยๆพยักหน้า "ข้าจะไปใคร่ครวญให้ถี่ถ้วน"

พระชายาจิ้งอ๋องเป็นสิ่งที่พิเศษในใจของเขา

นับตั้งแต่ที่อีกฝ่ายสร้างสิ่งของวิเศษ เช่น "ดินสอ" และ "ถุงร้อน" เขาก็รู้สึกประทับใจอย่างมากกับพรสวรรค์และความแปลกประหลาดของอีกฝ่าย

หากเขาไม่ใช่คนของตระกูลเฟิง บางทีอาจอดใจไม่ไหวแบกเอาหน้าหนาๆไปคารวะเป็นลูกศิษย์แล้ว

แต่ยามนี้ โอกาสในการแสวงหาความรู้และความยุติธรรมมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วจริงๆ... บางทีอาจเป็นดังเช่นที่กู้ฮั่นม่อกล่าวไว้ เขาควรจะมีชีวิตที่ดีเพื่อตนเองสักครั้ง

....

ณ จวนจิ้งอ๋อง ในช่วงเวลาอันสั้นอวิ๋นหลิงก็รู้สึกใช้เวลาได้เต็มที่มาก แต่ละวันได้นอนเพียงประมาณห้าชั่วโมงต่อวันเท่านั้น

ระบบของสำนักศึกษาชิงอี้ใกล้จะสรุปผลแล้ว และจะมีการปรับเปลี่ยนในภายหลังตามสถานการณ์จริงเท่านั้น

ตอนนี้นางกำลังปรับปรุงวิชาและหลักสูตรของแต่ละสาขาในสำนักศึกษา

ปัจจุบันหลักสูตรทั่วไปในสำนักศึกษาชิงอี้ มีกำหนดเบื้องต้นว่าจะมีประวัติศาสตร์ต้าโจว วิชาคำนวณ ภาษาจีนเก้าแคว้นและหลักการทางทหาร

นอกจากนี้ อวิ๋นหลิงยังวางแผนที่จะจัดตั้ง "วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ" "จิตวิทยา" และ "กีฬา" อีกด้วย

นางต้องควบคุมการเขียนตำราสอนด้วยตนเองสำหรับสามวิชานี้ ได้แก่ "หลักวิชาคุณธรรม" "วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ" และ "จิตวิทยา"

ไหนๆวันนี้เสวียนจีก็มาแล้ว เจ้าเด็กนี่เอาแต่กินดื่มสนุกสนานตลอดทั้งวัน นับว่าว่างเป็นอย่างมาก มิสู้จับมาทำงานเสียดีกว่า?

“ตำราเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติมอบให้เจ้าเขียนแล้วกัน หากเขียนได้ดี เจ้าจะได้รางวัลเล่นประทัดเล็กเป็นเวลาสิบวัน”

เซียวปี้เฉิงใช้เวลาเกือบทั้งวันไปเยี่ยมเยียนและพบปะกับบัณฑิตชั้นผู้ใหญ่ด้านวิชาการที่เคยให้การสนับสนุนในอดีต โดยหารือกับพวกเขาเกี่ยวกับการเลือกตำราการสอนและกำหนดเวลาหลักสูตร

โชคดีที่กู้ฉางเซินพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือ มิฉะนั้นการทำเช่นนี้จะเป็นเรื่องยากมาก

หลังจากทำงานหนักมาหลายวัน เซียวปี้เฉิงก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตนเองผมร่วงไปมากขณะอาบน้ำ!

เซียวปี้เฉิงกล่าวอย่างเป็นกังวล "ตอนนี้ผมของข้าร่วงหนักมาก ภายภาคหน้าเมื่อเข้าสู่ตำหนักบูรพาจะทำอย่างไรดีเล่า"

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น

เมื่อก่อนเขาเคยลอบขำในใจว่าเสนาบดีขวาหลี่มีผมบนหัวไม่มากนัก และไม่กล้าออกไปข้างนอกโดยไม่สวมหมวก ตอนนี้เขาเองก็ต้องเป็นกังวลสำหรับอนาคตของเขาแล้ว

หากว่าในอนาคตเกิดหัวล้านขึ้นมาจะทำอย่างไรดี ทั้งดำทั้งหัวโล้น นั่นมิใช่ว่าจะกลายเป็นไข่พะโล้หรอกหรือ?

เซียวปี้เฉิงอดจินตนาการถึงฉากนั้นขึ้นมาไม่ได้ จนเกิดความกลัวขึ้นในใจ

เมื่อเทียบกับไข่พะโล้ เขายอมที่จะเป็นวิญญาณหมูป่ามากกว่า อย่างน้อยหมูป่าก็มีขน!

อวิ๋นหลิงเองก็กังวลกับผมของตนอยู่เล็กน้อย ขณะที่หวีผมอย่างเบามือก็เอ่ยว่า "ประเดี๋ยวมีเวลา ข้าย่อมต้องคิดค้นยาสระผมป้องกันผมร่วงอย่างแน่นอน"

เซียวปี้เฉิงพลันโล่งใจ เมื่อภรรยาลงมือ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหัวล้านอีกต่อไป

ดูเหมือนเขาจะนึกบางอย่างขึ้นได้ และเอ่ยพึมพำด้วยความโกรธ "รอเมื่อคิดค้นออกมาได้ได้ พวกเราใช้มันก็พอ อย่าได้ขายมัน ข้าไม่ต้องการให้ตระกูลหลี่ได้ซื้อมัน"

อวิ๋นหลิงระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง ลอบส่ายหัวไปมา เจ้าตัวน้อยนี่เจ้าคิดเจ้าแค้นใช่ย่อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ