พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 504

ทางด้านอวิ๋นหลิงกำลังวิ่งเต้นตระเตรียมการแต่งงานของจื่อเถาอย่างขะมักเขม้น

หากหมายจะแต่งงานกับโม่อ๋อง สถานะของจื่อเถาดูจะไม่คู่ควรเล็กน้อย แต่ดีที่เรื่องนี้แก้ไขได้ไม่ยาก ขนาดปัญหาสถานะของกงจื่อโยวนั้นพวกนางยังทำสำเร็จมาแล้วด้วยซ้ำ แล้วเรื่องขี้ปะติ๋วนี้จะไปยากอะไร

หลังจากหาเวลาว่างช่วงบ่ายได้ อวิ๋นหลิงประชุมราชกิจช่วงเช้าเสร็จก็พาจื่อเถาไปยังจวนเหวินกั๋วกง

พอเข้าประตูใหญ่ นางก็ตรงไปยังห้องโถงหลัก แล้วแนะนำรัฐทายาทผู้เฒ่าที่สีหน้ามึนงงให้รู้จักว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นางเป็นน้องสาวบุญธรรมของข้า และเป็นลูกสาวคนรองของท่าน!”

รัฐทายาทผู้เฒ่าตกใจ “อะไรนะ นี่นางหนูพูดเหลวไหลอะไรกัน”

ไม่กลับบ้านตั้งสิบวันเกือบครึ่งเดือน แต่พอกลับก็พาลูกสาวมาให้เขาเลยหรือ

จื่อเถาลูบจมูก กระแอมเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “จื่อเถาคารวะนายท่านรัฐทายาท”

“นายท่านรัฐทายาทอะไรกัน ต่อไปเจ้าต้องเปลี่ยนมาเรียกเขาว่าพ่อบุญธรรม!”

รัฐทายาทผู้เฒ่ากระตุกมุมปาก อดพูดด้วยใบหน้าบึ้งตึงไม่ได้ว่า “นี่นางหนูจะเล่นลูกไม้อะไรกันแน่”

“ท่านพ่อไม่ต้องกังวลหรอก จื่อเถาเป็นคนของข้า ข้ามีเรื่องต้องทำ จึงต้องมอบสถานะที่สูงกว่าให้นาง”

รัฐทายาทผู้เฒ่าเข้าใจแล้ว ที่แท้เจอปัญหาก็เลยมาขอให้เขาช่วยนี่เอง ช่างหาได้ยากนักจริงๆ...

รัฐทายาทผู้เฒ่าหรี่ตาลงพลางลูบเคราแล้วกล่าวว่า “ถึงอย่างไรข้าก็ยังเป็นประมุขตระกูล เจ้าควรปรึกษาเรื่องใหญ่เช่นนี้กับข้าก่อนถึงจะถูก ไม่เช่นนั้นความน่าเกรงขามของข้าจะ...”

อวิ๋นหลิงขัดจังหวะเขาด้วยเสียงเย็นชา “เช่นนั้นช่างเถอะ ท่านพ่อมัวแต่พิรี้พิไรอยู่เช่นนี้ ข้าไปหาท่านปู่ดีกว่า ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รังเกียจที่จะมีหลานสาวบุญธรรมเพิ่มอีกสักคนอยู่แล้ว”

รัฐทายาทผู้เฒ่า “...ช้าก่อน ข้าเห็นด้วยก็ได้”

เดิมทีเขาก็ไม่มีบทบาทในตระกูลนี้อยู่แล้ว ขืนมองข้ามไม่ให้เหวินกั๋วกงผู้เฒ่าอย่างเขาจัดการเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ จะยิ่งดูว่าเขาไม่มีดีสักอย่างไม่ใช่หรือ!

“เช่นนั้นข้าจะให้ห้องครัวไปจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ประเดี๋ยวดื่มชาแล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี”

รัฐทายาทผู้เฒ่าแทบรอไม่ไหวที่จะเผยความรู้สึกออกมา อวิ๋นหลิงก็ไม่ได้ห้ามเขา ให้ทางจวนเตรียมงานเลี้ยงเล็กๆ

จื่อเถารู้อยู่แก่ใจดีว่าอวิ๋นหลิงให้ความสำคัญกับนาง ไม่ใช่แค่ทำอย่างขอไปทีเท่านั้น จึงรู้สึกปวดใจและซาบซึ้งใจ

“บุญคุณยิ่งใหญ่ของพระชายารัชทายาท ชาตินี้ทั้งชาติจื่อเถาก็ไม่สามารถตอบแทนได้”

สตรีตรงหน้าแทบจะให้ชีวิตที่สองอันใหม่เอี่ยมอ่องแก่นาง

อวิ๋นหลิงคลี่ยิ้มพลางตบมือนาง “เจ้านี่นะ อย่าเพิ่งด่วนตื้นตันใจไป รอสำเร็จก่อนค่อยขอบคุณก็ยังไม่สายเกินไป”

ตอนนี้ในใจนางรู้สึกว่าการเป็นแม่สื่อดูน่าสนใจทีเดียว

กระทั่งกลับถึงตำหนักบูรพา เซียวปี้เฉิงก็แจ้งข่าวใหม่ล่าสุดทันที

“น้องห้าบอกว่า เสด็จแม่เหลียงไม่ได้ส่งใครเข้าห้องของเขามาสองวันติดต่อกันแล้ว คิดว่าต่อไปอาจจะไม่ทำอีก”

อวิ๋นหลิงพยักหน้าแล้วเตือนสติว่า “อย่าลืมให้น้องห้าเอาเงินค่าเหนื่อยให้เฉียงเวยด้วย จะให้อีกฝ่ายแต่งเป็นหญิงนางโลมดาวเด่นทุกวันทุกคืนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

เหลียงเฟยจ่ายเงินหนึ่งร้อยตำลึงให้หญิงนางโลมแต่ละคนที่จ้างมา ส่วนโม่อ๋องให้สำนักทิงเสวี่ยจ่ายเงินอีกหนึ่งร้อยตำลึงในการเล่นละครเพื่อรักษาชื่อเสียงของตน หลายวันผ่านไปเงินพันตำลึงก็สูญเปล่า

แต่เรือล่มในหนองทองจะไปไหน อวิ๋นหลิงจึงให้เฉียงเวยควบงานหญิงนางโลมด้วยเสียเลย

ด้วยความช่วยเหลือในการปลอมตัวของหน้ากากเงิน เฉียงเวยเปลี่ยนใบหน้าที่แตกต่างกันห้าหน้าในห้าคืนเข้าไปในจวนโม่อ๋อง ได้รับเงินเป็นพันตำลึงอย่างง่ายดาย

หน้ากากเงินเป็นคนผิวขาวอวบอ้วนน่ารักนัก แต่สีหน้าของเยี่ยเจ๋อเฟิงดูหม่นทะมึนเล็กน้อย

เซียวปี้เฉิงอดพูดกลั้วหัวเราะไม่ได้ว่า “เจ้าจัดคนไปซุบซิบนินทาน้องห้าในสวนหลวง ตอนนี้เสด็จแม่เหลียงตื่นตระหนกใหญ่แล้ว”

เหลียงเฟยคิดว่าเป็นเพราะพวกหญิงนางโลมทำงานไม่สำเร็จ จึงเปิดเผยความลับโรคที่ซ่อนอยู่ของโม่อ๋อง นางก็ไม่กล้าวู่วามอีกในทันที

เฟิ่งเหมียนผู้นี้มองผาดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนโสด

อวิ๋นหลิงลอบคิดเล่นๆ ว่าถ้านางเป็นผู้เฒ่าจันทราเชื่อมด้ายแดงละก็ จะไม่ทำหน้าที่เป็นแม่สื่อจับคู่ให้เฟิ่งเหมียนแน่นอน

คนแบบนี้เหมาะจะอยู่คนเดียวมากกว่า

แต่นางสังเกตเห็นว่าเฟิ่งเหมียนบอกว่าไม่ชอบโกหก ไม่ใช่ว่าโกหกไม่ได้ ทว่าอวิ๋นหลิงไม่ต้องการบังคับนักพรตน้อยผู้นี้ จึงยุติไว้เท่านี้

นางกำลังจะไปหากงจื่อโยวให้จัดหาร่างทรงมาปรากฏตัว แต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากเสวียนจีรู้ข่าว นางพลันตบอกน้อยๆ บอกว่าจะจัดการเรื่องนี้เอง

“วางใจได้! ให้ข้าออกโรงเอง รับรองได้ว่าจะให้นกโง่ตัวนั่นพูดชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้!”

อวิ๋นหลิงไม่ได้เจอเสวียนจีมาสักพักแล้ว อีกฝ่ายเดินเข้ามาจากข้างนอก นางก็สะดุ้งโหยงในทันใด

“เจ้ากลับมาจากการขุดถ่านหินที่แอฟริกาแล้วหรือ”

ไม่ได้เจอกันมาหลายวัน เห็นสีผิวของเสวียนจีคล้ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึงสามเฉดสี ความแตกต่างระหว่างใบหน้ากับลำคอขาวระหงนั้นชัดเจน ช่างดูเหมือนขนมโอรีโออย่างไรอย่างนั้น

“ให้ตายเถอะ! ต้องย้ายอิฐในสถานที่ก่อสร้างมาผึ่งแดดให้แห้งทุกวันเลย” เสวียนจีโบกมือไปมา “แต่ข้าทำเครื่องจักรลูกรอกเสร็จแล้ว ตอนนี้บรรดาช่างก่ออิฐกับช่างไม้ที่สร้างสำนักศึกษาก็หันมาใช้งานเจ้าเครื่องนี้กันแล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องกังวล”

กงจื่อโยวจุปากติดๆ กัน พูดอย่างปวดใจ “ชิๆๆ แม่นางน้อยผู้แสนดี ตากแดดจนผิวคล้ำเหมือนลิงดำ แล้วต่อไปจะขายออกได้อย่างไร พี่เขยใหญ่มีเคล็ดลับความงามมากมาย วันหลังข้าจะเอามาให้ลองใช้แล้วกัน”

เสวียนจีเอาสองมือเท้าสะเอวบางคอดกิ่ว หัวเราะระรื่นอย่างไม่เห็นด้วย ขับเน้นฟันซี่เล็กๆ สองแถวที่ขาวราวกับหิมะ

“ขอบคุณนะพี่เขยเศรษฐีหนุ่ม แต่ไม่ต้องหรอก จุดด่างดำก็ไม่มีอะไรไม่ดีนี่นา ข้าเรียกว่าผิวสีน้ำตาลข้าวสาลี แลดูมีสุขภาพดีและงามนัก ไว้ทีหลังข้าจะอาบแดดทั้งตัวเลย!”

เซียวปี้เฉิงได้ยินก็พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าแม่สาวน้อยผู้นี้ดูแล้วน่าเจริญหูเจริญตาไม่น้อย

เด็กคนนี้มีอนาคต!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ