พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 534

การสอบคัดเลือกกำหนดไว้เจ็ดวัน ห้องสมุดเมืองหลวงก็ผู้คนแน่นหนาขึ้นทุกวัน

ประกาศรับสมัครที่ติดไว้แบ่งขอบเขตเนื้อหาการสอบชัดเจน บรรดาศิษย์ที่สมัครเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงอี้รวมกลุ่มกันหารือและทบทวนหนังสือ

เนื่องจากต้องจัดห้องสอบกับจัดหาผู้คุมสอบ สองสามวันนี้อวิ๋นหลิงจึงไปห้องสมุดบ่อยครั้ง

นางชอบบรรยากาศที่นี่ยิ่งนัก แม้ว่าอาคารโดยรอบจะมีกลิ่นอายโบราณ เหล่าชายหนุ่มหญิงสาวสวมเสื้อคลุมยาวกับกระโปรงยาว แต่ลักษณะที่พวกเขาทบทวนความรู้กันอย่างเงียบๆ ได้ซ้อนทับกับความทรงจำในชาติก่อนได้อย่างลงตัว

หากมองข้ามองค์กรควบคุมยาไป อวิ๋นหลิงก็รู้สึกว่าหลายปีที่ผ่านมาพวกนางเป็นเหมือนเด็กสาวธรรมดาๆ กลุ่มหนึ่งในมหาวิทยาลัย

ทุกครั้งที่มาห้องสมุด นางรู้สึกอัศจรรย์ใจที่ได้ทะลุมิติมายังที่นี่ อารมณ์ก็สงบลงโดยไม่รู้ตัว

สายลมโชยพัดเอื่อยๆ ท้องนภาสีครามสดใส บรรดาเด็กหนุ่มที่เดินมาด้วยกันก็หัวเราะเบาๆ

ที่ชั้นบนของห้องด้านในสุดทางตะวันตก หลี่เมิ่งชูมาที่นี่แต่เช้าทุกวัน แล้วอ่านหนังสือตลอดทั้งวัน

ศิษย์โดยรอบล้วนท่องตำรา สาวใช้ประจำตัวที่อยู่ข้างกายนางไม่กล้าพูดเสียงดัง

“คุณหนูรอง เป็นเพราะท่านต้องการหลบคุณหนูตัวน้อย จึงมาอยู่ห้องสมุดทุกวันหรือเจ้าคะ”

หลี่เมิ่งชูชะงักครู่หนึ่งขณะพลิกหนังสือ “ทำไมข้าอยากทบทวนตำราเองไม่ได้หรือไร”

“ไม่ใช่ว่าบ่าวไม่รู้จักนิสัยใจคอของท่าน...แค่กๆ บ่าวเข้าใจแล้ว ท่านต้องเตรียมตัวเข้าโรงประลองของสำนักศึกษาชิงอี้ในภายหน้า ด้วยเหตุนี้จึงขยันหมั่นเพียรอย่างหนัก!”

ตอนแรกที่ไปเรียนสำนักศึกษาเป่ยลู่นั้น นางไม่เคยเห็นหลี่เมิ่งชูขยันถึงเพียงนี้มาก่อน

หลี่เมิ่งชูคลี่ยิ้มอย่างไม่มีท่าทีตอบรับหรือปฏิเสธ และไม่ได้อธิบายให้มากความ

หลังจากกลับบ้านวันนั้น นางถูกเสนาบดีขวาหลี่ดุด่าอย่างรุนแรง ดีที่ได้หลี่หยวนเส้าช่วยพูดแก้ต่างให้ เรื่องนี้จึงคลี่คลายไปได้

หมู่นี้เสนาบดีขวาหลี่มีงานยุ่งรัดตัว มักจะติดต่อกับขุนนางคนอื่นๆ บ่อยครั้ง ส่วนมารดาไปเยี่ยมญาติที่อยู่ไกล ทำให้หลี่เมิ่งชูมีเวลาและโอกาสทบทวนบทเรียน

ปีนี้มีคนสมัครเข้าสอบสำนักศึกษาชิงอี้เกือบห้าร้อยคน แต่รับสมัครเพียงสามร้อยเท่านั้น อัตราการคัดออกสูงมาก

นางออกจากสำนักศึกษาเป่ยลู่มาสามปี คืนวิชาความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาก่อนหน้าให้อาจารย์ไปเกือบหมดแล้ว

เหลือเวลาอีกเพียงเจ็ดวัน ฉะนั้นนางต้องคว้าทุกเวลาที่จะเกี่ยวโยงไปถึงโชคชะตาในอนาคตไว้

หลี่เมิ่งชูสูดหายใจเข้าลึกๆ ละทิ้งความคิดที่กวนใจไป ขะมักเขม้นอ่านหนังสือมากขึ้นกว่าเดิม

จนกระทั่งตะวันตกลับเหลี่ยมเขา สำนักศึกษากำลังจะปิด นางก็เตรียมตัวจะกลับ

ในห้องฝั่งตะวันออกสุด ชายหนุ่มสองคนที่กระซิบกระซาบคุยกันก็เดินลงมาอย่างช้าๆ

กู้ฮั่นม่อเอ่ยเสียงเบา “อีกไม่กี่วันจะเริ่มสอบ เจ้าต้องระวังหน่อย ในหมู่คนจำนวนมากเช่นนี้จะต้องเจอคนที่คุ้นหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงเวลานั้นอย่าให้คนไม่ประสงค์ดีเห็นเข้าแล้วกัน”

หากคนที่รู้จักเห็นเข้า เรื่องที่เฟิงอู๋จีแอบสมัครสอบก็จะแดงออกมา

เฟิงอู๋จีพยักหน้ากำลังจะตอบ แต่เหมือนจะเห็นแผ่นหลังที่แปลกแต่คุ้นตา จึงหยุดฝีเท้าโดยไม่รู้ตัว

จัดห้องสอบสำหรับศิษย์เกือบห้าร้อยคนเสร็จ ก็จัดอาจารย์คุมสอบในแต่ละชั้นทุกห้องเรียบร้อย

เพื่อจัดการเรื่องนี้ อวิ๋นหลิงไม่ได้ไปประชุมราชสำนักช่วงเช้าสามวันติดต่อกันแล้ว กระทั่งนางได้พักหายใจในที่สุด

วันนี้เมื่อกลับมาจากห้องสมุด เห็นตงชิงเดินมารายงานด้วยความกรุ่นโกรธ

“พระชายารัชทายาท เช้านี้ตำหนักทองหลวงเกิดความโกลาหลอลหม่าน พวกอาลักษณ์กรมพิธีการเห็นว่าท่านไม่อยู่ จึงถือโอกาสเสนอฝ่าบาทว่าควรจัดคัดเลือกนางในอีก!”

อวิ๋นหลิงพยักหน้าหงึกหงัก นางรู้อยู่แล้วว่าพวกขุนนางคิดอะไร จึงไม่ได้แปลกใจมากนัก

“เสด็จพ่อว่าอย่างไร”

“ฝ่าบาทย่อมทรงปฏิเสธเรื่องนี้ไป ตรัสว่าเมื่อแต่งตั้งตำแหน่งผู้ครองบัลลังก์แล้ว พระองค์ก็ไม่มีพระประสงค์จะรับสนมอีก เมื่อคนเหล่านั้นได้ยินเข้า จึงเบนความสนใจไปยังรัชทายาทกับบรรดาท่านอ๋องทั้งหลาย ชักชวนราชวงศ์อย่างไม่ลดละว่าควรแตกกิ่งก้านสาขาโดยเร็วที่สุด ฝ่าบาทจึงรับสั่งว่าจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ”

จนกระทั่งหลังมื้อกลางวัน เซียวปี้เฉิงก็กลับมาจากห้องตำรา

อวิ๋นหลิงมุ่นคิ้วเล็กน้อยพลางถามเขาว่า “เพิ่งหารือเรื่องจัดคัดเลือกนางในใหม่กับเสด็จพ่อมาหรือ”

เซียวปี้เฉิงจับมือนางแล้วเดินเข้าไปในตำหนักนอน “เสนาบดีขวาหลี่ตาแก่พวกนั้นจงใจทำ ตั้งใจหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาตอนที่เรากำลังเตรียมการสมัครสอบของสำนักศึกษา ก็แค่อยากจะก่อกวนพวกเรานั่นแหละ”

ครั้นเห็นสีหน้าของเขาสุขุมและไม่กลัดกลุ้มแม้แต่น้อย อวิ๋นหลิงก็คลายคิ้วลงโดยไม่รู้ตัว

“ดูท่าท่านจะมีวิธีรับมืออยู่แล้ว?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ