หลี่เมิ่งเอ๋อร์อดพูดอย่างมีน้ำโหไม่ได้ “เหลวไหลเกินไปแล้ว นี่มันเงื่อนไขบ้าบออะไรกัน”
“บังอาจ! เจ้าจะบอกว่าพระชายารัชทายาทกดขี่ประชาชนอย่างนั้นหรือ” ตงชิงถลึงตาใส่นาง ก่อนตะคอกเสียงแข็ง “ล้วนเป็นความสมัครใจที่จะสมัครเข้าเรียนในสำนักศึกษาเอง พระชายารัชทายาทไม่ได้บังคับใครนะ!”
ตั้งแต่มาเป็นหัวหน้าดูแลตำหนักบูรพา ทุกคนจะต้องเรียกนางด้วยความเคารพว่า ‘กูกู’ ตอนนี้ตงชิงทำงานเหมือนซวงหลีมากขึ้นทุกที ไม่ใช่สาวใช้ตัวน้อยที่ทำงานจิปาถะและปรนนิบัติรับใช้ผู้คนอย่างแต่ก่อนอีกแล้ว
ถึงแม้หลี่เมิ่งเอ๋อร์จะโกรธจัด แต่ก็ไม่กล้าไม่เคารพอวิ๋นหลิงต่อหน้าธารกำนัล ความหยิ่งยโสก็พลอยหดหายไปในทันใด
“หม่อมฉันมิกล้า”
นางข่มกลั้นเพลิงโทสะ ขึงตาใส่หลี่เมิ่งชูอย่างเคียดแค้นวูบหนึ่ง
หลี่หยวนเส้ารู้สึกว่าไม่ถูกต้องนัก “ค่าผิดสัญญาสามร้อยตำลึงทองต่อปี เช่นนั้นสามปีก็ควรเป็นเก้าร้อยตำลึงทองไม่ใช่หรือ ไฉนจึงต้องจ่ายค่าปรับหนึ่งพันตำลึง”
“ถึงอย่างไรหลี่กุ้ยเฟยก็เป็นเสด็จแม่ของปี้เฉิง มีบุญคุณที่เลี้ยงดูเขามา เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของตระกูลหลี่ ข้าเห็นแก่หน้าพวกท่าน จะลดราคาให้สักหน่อย ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก”
เสนาบดีขวาหลี่ “?”
หลี่หยวนเส้า “...”
เป็นการลดราคาให้ก็จริง แต่ฟังๆ ดูแล้วเหตุใดจึงไม่เป็นที่พอใจนัก
หลี่เมิ่งเอ๋อร์ฉุนจัดจนเกือบจะร้องเสียงห่านออกมา นางพอฟังออกว่าอวิ๋นหลิงกำลังยั่วยุอย่างเปิดเผย
นางตั้งใจเอ่ยถึงหลี่กุ้ยเฟยโดยเฉพาะ เห็นชัดว่านางไม่พอใจตระกูลหลี่เนื่องจากความขัดแย้งครั้งก่อน
อวิ๋นหลิงมองหนึ่งชายชราและหนุ่มสาวอีกสามคน ก่อนเตือนสติด้วยเสียงนุ่มนวล “ท่านเสนาบดีขวา หากตัดสินใจได้แล้วละก็ จะต้องชดใช้ค่าผิดสัญญาทั้งหมดในวันมะรืนนี้ ไม่เช่นนั้นจะมีดอกเบี้ยหนึ่งตำลึงทองต่อวัน จริงสิ สำนักศึกษารับเฉพาะทองคำเท่านั้น ไม่รับแลกพวกเหรียญเงินหรือทองแดงนะ”
ราชวงศ์ซีโจวนับว่ามีทรัพยากรแร่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ แต่เหมืองทองคำยังขาดแคลน การค้าขายก่อนหน้านี้ยังไม่พัฒนา ดังนั้นอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนทองคำและเงินจึงสูงจนน่าตกใจ
หากชาวบ้านธรรมดาสามัญกับตระกูลคนรวยได้ทองก็จะเปลี่ยนเป็นเครื่องประดับและของตกแต่งอื่นๆ เพื่อเก็บสะสม ทองคำที่เป็นสกุลเงินใช้หมุนเวียนในตลาดก็น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของเสนาบดีขวาหลี่ดูเหยเกราวกับกินแมลงวันเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น
ตระกูลหลี่ไม่ได้ยากจน แต่ไม่รวยพอจะหยิบหนึ่งพันตำลึงทองออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย!
ลดได้รวมๆ แล้วก็สามสี่หมื่นตำลึงเงิน เทียบเท่ากับสินเจ้าสาวของลูกอนุหลายคนเลยทีเดียว!
หลี่เมิ่งชูมองไปยังอวิ๋นหลิงอย่างไม่แสดงสีหน้า ทั้งสองสบตากัน แอบยิ้มให้กันอย่างอดมิได้
นางรู้จักนิสัยท่านปู่เป็นอย่างดี ขณะนี้น่าจะกำลังคำนวณผลกำไรขาดทุนอยู่ในใจ รอเขาคิดบัญชีให้กระจ่างชัด เขาก็จะไม่คัดค้านให้นางเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงอี้
หลี่เมิ่งเอ๋อร์ร้อนใจอยู่บ้าง “ท่านปู่ต้องคิดให้ละเอียด เมื่อถึงเวลานั้นจะอธิบายกับฝั่งตระกูลจางอย่างไร ต่อให้ท่านจะไม่สนใจตระกูลจาง แต่ท่านจะไม่เหลียวแลการแต่งงานของพี่สาวอย่างนั้นหรือ ขืนให้เรียนที่สำนักศึกษาสามปี นางจะกลายเป็นสาวแก่ทึนทึกไปเสียกระมัง!”
“เจ้าเป็นห่วงเป็นใยพี่สาวถึงเพียงนี้ มิสู้มอบหนึ่งพันตำลึงทองแทนนางจะดีกว่า ถึงอย่างไรเจ้าก็ยังเด็ก ไม่ต้องรีบร้อนออกเรือน ยังมีเวลาเก็บสินเจ้าสาวได้อีกถมเถ”
อวิ๋นหลิงพูดประโยคนี้ออกมาเบาๆ หลี่เมิ่งเอ๋อร์ก็เงียบเสียงไปทันที
นางจะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนมาช่วยหลี่เมิ่งชู ถ้าไม่ใช่สินเจ้าสาวที่พ่อแม่นางสะสมไว้ให้ นางคงจะไม่เสียสละเงินของตัวเองเพื่อไปให้อีกฝ่ายหรอก
จากนั้นเห็นเสนาบดีขวาหลี่คิดคำนวณสะระตะอย่างหนักใจครู่หนึ่ง ในที่สุดก็พรูลมหายใจยาวพร้อมยอมแพ้โดยดุษณี
“ช่างเถอะๆ ข้าตกลงให้เด็กคนนี้ไปสำนักศึกษาแล้วกัน ในเมื่อนางฉายแววโดดเด่น แล้วจะไปตัดอนาคตนางก็คงไม่ได้”
เขารู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟถ้าให้หลี่เมิ่งชูไปสำนักศึกษาชิงอี้ แต่ถ้าไม่ปล่อยนางไป เขาจะเสียเงินมหาศาล
สีหน้าท่าทางของหลี่เมิ่งชูเรียบเฉย “เจ้าประลองของเจ้าไปสิ ส่วนข้าก็อ่านหนังสือของข้าไป มีปัญหาอะไรนักหรือ”
หลี่เมิ่งเอ๋อร์โกรธขึ้งจนพูดไม่ออก ก็ได้แต่ก่นด่าอย่างเคืองแค้นว่า “ศิษย์ทรยศ!”
หลี่หยวนเส้ายอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ พลางใช้ความคิด ก่อนเดินก้าวขึ้นหน้าไปเอง
“ท่านปู่ หมู่นี้หลานสนใจการเคลื่อนไหวในเมืองหลวงมาตลอด สำนักศึกษาชิงอี้มีอำนาจเร็วกว่าที่คิดไว้มาก หลานคิดว่าจะอาศัยการประลองมาเล่นงานสำนักศึกษาชิงอี้ เกรงว่าจะไม่ได้ผล”
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าสำนักศึกษาชิงอี้มีรากฐานอ่อนแอ คุณสมบัติของศิษย์ที่คัดเลือกมานั้นเทียบกับสำนักศึกษาหลักทั้งสามแห่งไม่ได้ จึงหมายจะทำลายลงตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม
ไม่คาดคิดว่าตระกูลหรง ตระกูลหลิ่วและกลุ่มอำนาจอื่นๆ ล้วนส่งบุตรชายสายตรงที่สำคัญที่สุดในตระกูลมา มุ่งมั่นจะช่วยให้องค์รัชทายาทกับพระชายาประสบความสำเร็จ
ส่วนข้อสอบใหม่เอี่ยมอ่องขององค์รัชทายาทกับพระชายาได้รั่วไหลออกมา คำถามเหล่านี้ดึงดูดความสนใจและเสียงปรบมือจากผู้คนนับไม่ถ้วน เขาอ่านแล้วก็ได้แรงบันดาลใจเป็นอย่างมาก
หลี่หยวนเส้ามีลางสังหรณ์ตงิดๆ ว่าสำนักศึกษาชิงอี้จะโด่งดังจนต้านทานไม่อยู่
“หลานเชื่อว่าเมิ่งชูไปสำนักศึกษาชิงอี้ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องเลวร้ายอะไร ไม่ว่าต่อไปสำนักศึกษาใดจะกลายเป็นอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ตระกูลหลี่วางแผนรับมือให้ดีเสียอย่างก็เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว”
“ท่านอยากจะส่งน้องสาวคนเล็กไปให้องค์รัชทายาทมาตลอดแต่ไม่สมดั่งใจหวัง มาบัดนี้เมิ่งชูเป็นที่โปรดปรานขององค์รัชทายาทกับพระชายาแล้ว นับว่าเป็นเรื่องดี”
ใบหน้าชราของเสนาบดีขวาหลี่มีรอยเหี่ยวย่น สีหน้าเศร้าอาดูรระคนสุขใจ
ที่พูดมาก็ถูก แต่นับตั้งแต่องค์รัชทายาทกับพระชายาขึ้นสู่อำนาจ ฝ่ายของเขาถูกกวาดล้างไปไม่น้อยแล้ว
เขาจึงหมายจะควบคุมองค์รัชทายาท ทำให้ฐานะตระกูลหลี่มั่นคง ไม่ใช่ช่วยองค์รัชทายาททุบหม้อข้าวตัวเองเช่นนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...