พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 555

หลังจากพูดจบ หลี่เมิ่งชูก็โค้งคำนับก่อนจากไปด้วยสีหน้านิ่งสุขุม

ในสวนดอกไม้เงียบงันไปครู่หนึ่ง หลี่หยวนเส้าก็เริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างในใจ “จริงๆ แล้วที่เมิ่งชูพูดก็สมเหตุสมผล น้องสาวควรไปเรียนจึงจะถูกต้อง”

เสนาบดีขวาหลี่ก็มีสีหน้าซับซ้อนเช่นกัน ราวกับวันนี้เพิ่งได้รู้จักหลานสาวสายตรงอย่างแท้จริง

“ถ้านางเป็นผู้ชาย คุณสมบัติคงจะเหนือกว่าเจ้าเสียอีก น่าเสียดาย…”

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจที่หลี่เมิ่งชูพูด แค่ไม่อยากจะยอมรับต่างหาก

ควบคุมราชวงศ์มาตลอดทั้งชีวิต เกียรติยศกับอำนาจพิเศษนี้ ใช่ว่าจะปล่อยวางกันได้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่เล่า

หลี่เมิ่งเอ๋อร์ฟังแล้วไม่พอใจ นางเชิดจมูกขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว กระทืบเท้าเร่าๆ ก่อนหมุนตัววิ่งจากไป รู้สึกน้อยใจยิ่งนัก

ทั้งที่คนผู้นั้นเป็นสวะเหลือเดนชัดๆ แต่เหตุใดจึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกะทันหันแล้วยังขโมยจุดเด่นของนางไปอีก

เมื่อก่อนนางแกล้งทำได้สมจริงนัก ที่แท้มีอุบายลึกล้ำ!

หลังจากพี่น้องสองคนแยกย้ายกันไป สวนดอกไม้จวนหลี่ก็เงียบลง

รถม้าของตำหนักบูรพาแล่นโขยกเขยกไปสามสี่ร้อยเมตร กระทั่งแน่ใจว่าในสวนไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อวิ๋นหลิงก็เก็บพลังจิต

เดิมทีนางกังวลใจเล็กน้อย กลัวว่าหลี่เมิ่งชูจะถูกตำหนิหลังนางจากไป จึงลอบฟังดูลาดเลาอยู่ในสวนต่อ แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินละครฉากเด็ดยอดเยี่ยมเช่นนี้

นางสุดแสนชมชอบดรุณีอย่างหลี่เมิ่งชู!

หลังจากเซียวปี้เฉิงกลับมายังตำหนักบูรพาช่วงบ่าย อวิ๋นหลิงก็เล่าเรื่องราวที่ได้เห็นและได้ยินในจวนตระกูลหลี่เมื่อยามเช้าตรู่ให้เขาฟัง

เซียวปี้เฉิงนั่งอยู่ในรถม้ามาพักใหญ่ภายใต้แสงแดดแผดเผา หน้าผากจึงมีเหงื่อบางๆ ผุดซึมออกมา

เขาเลิกคิ้ว ในดวงตาสีดำเข้มฉายแววชื่นชม “ดรุณีผู้นี้ละเอียดถี่ถ้วนนัก แม้จะไม่ใช่บุรุษก็ไม่เป็นไร สำนักศึกษาชิงอี้จะไม่ทอดทิ้งนาง”

“ปฏิกิริยาของพี่ชายนางก็ทำให้ข้าประหลาดใจอยู่บ้าง” อวิ๋นหลิงว่าพลางรินน้ำผลไม้เย็นๆ ให้เขาแก้วหนึ่ง

“เจ้าหมายถึงหลี่หยวนเส้าหรือ เจ้าเด็กหนุ่มนั่นคุณสมบัติไม่เลวจริงๆ ถือว่าโดดเด่นในหมู่ลูกหลานตระกูลหลี่ ตอนสอบเซียงซื่อระดับมณฑลเมื่อปีกลายยังได้อันดับย่าขุย ส่วนเจ้าหัวขี้เลื่อยอย่างจางอวี้ซูนั่นเทียบไม่ติดฝุ่นเลย”

เซียวปี้เฉิงรับมาจิบคำหนึ่ง ความร้อนในร่างกายก็พลันหายไปมาก

ที่เรียกว่าย่าขุยนั้นก็คือสอบเซียงซื่อได้อันดับหก

สำหรับคนในวัยอย่างหลี่หยวนเส้านั้น การประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การโอ้อวดจริงๆ

เซียวปี้เฉิงถอนใจอย่างเศร้าๆ “ต้นกล้าเป็นต้นกล้าที่ดีก็จริง แต่น่าเสียดายที่เติบโตในที่ดินของตระกูลหลี่ แม้จะไม่เติบโตมาเลวร้าย แต่ก็บิดเบี้ยวไปหน่อย เติบโตมาในสภาพแวดล้อมอย่างตระกูลหลี่ตั้งแต่เล็ก ย่อมติดนิสัยหยิ่งทะนงตนมาบ้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ มักจะใช้กลอุบายเล็กๆ น้อยๆ เพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัว”

หลี่หยวนเส้าไม่ใช่ลูกผู้ดีมีตระกูลที่ไร้วิชาความรู้เหมือนจางอวี้ซูหรือเดรัจฉานสวมเสื้อผ้าที่วางมาดภูมิฐานอย่างเฟิงจิ่นเฉิง

ตอนแรกแม้จะมีเหตุผลที่รังแกเฟิงอู๋จีในห้องสมุด แต่หากเป็นบุตรตระกูลขุนนางอย่างหรงจั้นหรือฉู่อวิ๋นเจ๋อก็จะไม่ทำเรื่องพรรค์นั้น

“ฟังจากที่ท่านพูดเขาก็ยังเป็นคนเก่งอยู่ แต่ดันเกิดในตระกูลหลี่ทำให้เขาไม่ก้าวหน้า จะไม่บิดเบี้ยวไปสักหน่อยก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลย”

ในที่สุดอวิ๋นหลิงก็เข้าใจความหมายของเขา ถึงหลี่หยวนเส้าจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ทำตัวบิดเบี้ยวไปเสียทั้งหมด

‘ความมหัศจรรย์’ อย่างหลี่เมิ่งชูนั้นหาได้ยากนัก

ประเดี๋ยวค่อยหาวัน จะต้องไปขอบคุณนางสักหน่อยแล้ว

“จริงสิ พรุ่งนี้พ่อเจ้าจะกลับมาเมืองหลวง ปี้เฉิงจะจัดการเรื่องตระกูลเฟิงทางด้านนั้นให้เรียบร้อย เจ้าก็อยู่พักฟื้นให้สบายใจในตำหนักบูรพาต่อไปก่อนเถิด”

เฟิงอู๋จีรีบปฏิเสธ “ขอบพระทัยพระชายารัชทายาท แต่อีกไม่กี่วันข้าต้องไปรายงานตัวที่สำนักศึกษา ศิษย์อยากกลับไปเอาของบางอย่างและจัดห่อสัมภาระที่ตระกูลเฟิง”

“ซวงหลีเตรียมเสื้อผ้าใหม่ๆ ให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว ยังมีอุปกรณ์การเรียนที่ต้องใช้หลังเข้าสำนักศึกษา กู้ฮั่นม่อก็ได้เช่นกัน ฉะนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลไป”

สำหรับศิษย์ยากจนที่สอบเข้าเรียนในสำนักศึกษาชิงอี้ได้นั้น อวิ๋นหลิงกำหนดนโยบายสวัสดิการที่เกี่ยวข้อง และให้เงินอุดหนุนในด้านต่างๆ ไว้มากมาย

ถึงแม้เฟิงอู๋จีจะมาจากตระกูลเฟิง แต่ก็ไม่ต่างจากศิษย์ที่ยากจน ฮูหยินเฟิงปฏิบัติต่อเขาไม่ดีเลย แม้กระทั่งเสื้อผ้าก็ยังเป็นรุ่นเก่าที่คนอื่นไม่ใช้แล้ว

เขามีชีวิตย่ำแย่กว่ากู้ฮั่นม่อเสียด้วยซ้ำ เด็กคนนั้นยากจนก็ส่วนยากจน อย่างน้อยก็จะไม่ถูกลงโทษหรือทุบตี

เฟิงอู๋จีขอบคุณอีกครั้ง แต่ยืนกรานจะกลับไปเก็บข้าวของที่ตระกูลเฟิง

อาการไข้ของเขาลดลงแล้ว แต่ยังมีรอยแส้เฆี่ยนสดๆ ตามเนื้อตามตัวอยู่ไม่น้อย พักนี้แดดจัด อวิ๋นหลิงจึงไม่อยากให้เขานั่งรถม้าที่โยกคลอนจนแผลระบมขึ้นมา

“เป็นของสำคัญอะไรหรือ เจ้าวางไว้ที่ไหน ข้าจะให้ปี้เฉิงเอากลับมาให้เจ้าแล้วกัน”

ทว่าพวงแก้มของเฟิงอู๋จีกลับแดงเรื่อขึ้นมาอย่างน่าสงสัย มองไปยังอวิ๋นหลิงด้วยสายตาทอประกายวาวโรจน์ ครู่ใหญ่กว่าจะเอ่ยปากอย่างเก้อเขิน

ของต่างๆ ถูกเก็บอยู่ในตู้ ล้วนเป็นสมบัติของเขา

แต่ถ้าองค์รัชทายาทเห็นเข้า คงจะไม่เข้าใจผิดว่าเขาคิดอะไรกับพระชายารัชทายาทกระมัง?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ