หลี่หยวนเส้าถูกด่าอย่างไม่เข้าใจ คิดไม่ออกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ทันใดนั้นเองก็มีหญิงสาวกระโปรงสีม่วงคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ร้องไห้กระซิก ๆ ด้วยความปีติ
“ท่านพี่ ท่านโชคดีมากที่ท่านไม่เป็นอะไร!”
หลี่หยวนเส้ามองเห็นอีกฝ่ายถึงได้พบว่าร่างกายที่เปียกโชกยังตัวอุ่น ๆ อยู่เล็กน้อย เขาสังเกตมองน้องสาวขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างละเอียดและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ยังโชคดีที่เมื่อครู่เจ้าไม่ได้อยู่ในสำนัก มิเช่นนั้นข้าจะต้องตกใจจนแทบบ้าแน่ เจ้าไม่รู้หรอกว่างูตัวนั้นทั้งใหญ่และแข็งแรงขนาดไหน เกรงว่ามันจะกินวัวทั้งตัวได้ โชคดีที่...”
เมื่อหลี่หยวนเส้าพูดถึงตรงนี้ เสียงก็หยุดลงอย่างกะทันหัน อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเฟิงอู๋จีอย่างละเอียด
ระหว่างการสนทนาของพวกเขา อวิ๋นหลิงก็เดินเข้ามา สายตามองไปยังพวกเขารอบ ๆ
เห็นแค่เพียงหลี่หยวนเส้ากระเซอะกระเซิง ผมเปียก เสื้อคลุมเต็มไปด้วยโคลน มองไปแล้วน่าสังเวชจนทนดูไม่ได้
หลี่หยวนเส้ารีบทำความเคารพ “ศิษย์เคารพพระชายารัชทายาท พระชายารัชทายาทอายุพันปี!”
“เอาล่ะ ไม่ต้องพิธีรีตองมาก” อวิ๋นหลิงโบกมือ จากนั้นหันไปทางเฉียวเย่ “มีฝนตกหนักในคืนนี้ กลางดึกอาจจะมีอันตรายได้ ใต้เท้าเฉียวพาหลี่หยวนเส้าไปพักที่ห้องพักนักเรียนคืนหนึ่งก่อนเถิด”
“กระหม่อมรับคำสั่ง” เฉียวเย่ประสานมือคารวะ หันหลังไปพูดว่า “คุณชายหลี่ เชิญตามข้าน้อยไป”
หลี่เมิ่งชูหันไปทำความเคารพเฟิงอู๋จี พร้อมกล่าวขอบคุณว่า “คุณชายเฟิง คืนนี้ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยเหลือข้าก่อน แล้วก็ช่วยท่านพี่ มิเช่นนั้นพวกเราสองคนพี่น้องหากไปทำให้พญางูโกรธ เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ เมิ่งชูรู้สึกตื้นตันมาก!”
“แม่นางรองหลี่ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว”
เฟิงอู๋จีอยากจะเอื้อมมือไปจับนาง พอสังเกตเห็นว่ามีคนอยู่รอบ ๆ มากมาย จึงรีบเอามือกลับมาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ
หลังจากหลี่หยวนเส้าได้ยินคำพูดนี้ ร่างกายก็หยุดชะงักไป หันกลับมามองอีกฝ่ายด้วยความตกใจ
แววตาของเขาเปล่งประกาย ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จากนั้นเม้มริมฝีปากแล้วเดินตามเฉียวเย่ไป
ก่อนหน้านี้เขาขาหัก ตอนนี้จึงเดินกะเผลก ๆ ตามไป
หลี่เมิ่งชูเดินตามไปช่วยประคองเขาออกจากหอพักนักเรียน
อวิ๋นหลิงเหลือบมองไปที่เฟิงอู๋จีอยู่สองครั้ง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ใช้ได้นี่ กล้าหาญมาก ตอนแรกหลี่หยวนเส้านั่นรังแกเจ้าในห้องสมุด แต่เจ้ากลับใจกว้างที่สามารถบุกเข้าไปในสำนักศึกษา เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขาในวันนี้”
จู่ ๆ ที่ได้รับคำชมจากอวิ๋นหลิง ทันใดนั้นเฟิงอู๋จีก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
“...แม่นางรองหลี่มีพระคุณต่อข้ามาก อีกทั้ง...ข้ากับหลี่หยวนเส้าเองก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรกัน”
อวิ๋นหลิงยิ้ม “กล้าหาญที่จะทำในสิ่งที่ยุติธรรม เจ้าทำได้ดีมาก พรุ่งนี้ข้าจะให้เหล่าผู้ดูแลติดสติ๊กเกอร์กระดานแดงและมอบเงินรางวัลให้”
ถ้ามีลําโพงวิทยุล่ะก็ อย่างไรก็จะต้องแจ้งให้ทั้งโรงเรียนทราบ
“ขอบคุณพระชายารัชทายาท!”
เฟิงอู๋จีมีความสุขมาก เขาไม่สนใจเกียรติยศเล็กน้อยนั่น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือได้รับการยอมรับจากพระชายารัชทายาท
ตอนที่เซียวปี้เฉิงกลับมา ก็เห็นเฟิงอู๋จียืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางเขินอาย
ถึงแม้จะรู้ว่านักเรียนคนนี้ไม่มีความคิดเชิงชู้สาวกับเมียของเขา แต่เขาก็ยังแอบหึงอยู่พักหนึ่ง
เซียวปี้เฉิงเดินเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่
“หลิงเอ๋อร์ ใต้เท้ามีเรื่องจะหาเจ้า”
อวิ๋นหลิงไม่ลืมเรื่องที่รับปากกับใต้เท้างูเหลือม จึงกําชับเฟิงอู๋จีอย่างอบอุ่นให้ไปพักผ่อนเร็ว ๆ สองประโยค จากนั้นก็เดินกางร่มจากไป
ทิ้งให้เฟิงอู๋จียืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าสงสัยและไม่กล้าที่จะถาม
ใต้เท้า ใต้เท้าอะไร?
คนเฝ้าประตูที่ประตูสำนักศึกษาหรือ?
หลังจากเดินทางกลับหอพักลูกศิษย์ เฟิงอู๋จีทราบเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังจากกู้ฮั่นม่อ
“...ทนต่อการฟ้าผ่า?”
ฟังดูแล้วธรรมดามาก แต่ถ้าหากเรื่องเกิดขึ้นในสำนักศึกษาชิงอี้ เขารู้สึกผิดปกติอีกครั้ง
เดิมทีสองสามีรัชทายาทก็ไม่ใช่คนธรรมดาอยู่แล้ว
กู้ฮั่นม่อกล่าวอย่างครุ่นคิดว่า “โชคดีที่ตอนนั้นข้าไม่อยู่ มิฉะนั้นถ้าท่านเซียนเห็นข้า จะต้องกลืนกินข้าเป็นแน่”
เขาบอกว่าเขามีลูกงูมากมาย
เครื่องประดับหางปลานี้เคลือบด้วยสีโลหะชั้นหนึ่งและด้านในยังมีแถบโลหะที่เชื่อมต่อกับใต้ดินด้วย
เมื่อฟ้าผ่าลงมาถึงบ้าน สีเคลือบของโลหะจะดึงฟ้าผ่าไปที่หางปลา จากนั้นนํากระแสไฟฟ้าลงใต้ดินผ่านแถบโลหะ ถึงจะสามารถบรรลุผลล่อฟ้าได้
ความรู้เหล่านี้ ในอนาคตสำนักศึกษาจะสอนให้เหล่านักเรียนทีละคน
เนื่องจากใต้เท้างูเหลือมจู่ ๆ ก็มาเยี่ยม สร้างความปั่นป่วนให้กับจังหวะของสำนักศึกษา
ยังไม่ถึงเวลาเปิดภาคเรียนอย่างเป็นทางการ หลังจากการฝึกทหารก็ถูกเลื่อนออกไป สำนักศึกษาชิงอี้จึงหยุดไปสามวัน
หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว บรรดานักเรียนต่างพากันวิ่งไปที่แถว ๆ ศาลาหลิวฟาง ล้อมรอบมองไปยังใต้เท้างูเหลือมที่ทนต่อการฟ้าผ่า
หลังจากท้องฟ้าสว่างไสว ความสวยงามของใต้เท้างูเหลือมเผยขึ้นภายใต้แสงแดด
ไม่เหมือนกับงูทั่วไปที่มีลายดอกเขียว ๆ แบบนั้น ลำตัวของใต้เท้างูเหลือมนี้เป็นเกล็ดแข็ง ต่อให้เป็นคนที่กลัวมากเห็นแล้วยังรู้สึกว่าสวยมาก
“โสดมานานแล้ว เห็นพญางูก็รู้สึกสวยงาม”
“ศาลาหลิวฟางนี้ควรจะต้องเปลี่ยนชื่อแล้ว ข้าเห็นว่าเรียกว่าศาลามังกรจะเหมาะสมมากกว่า”
“อ่า...เมื่อเห็นบนหัวของพญางูมีเนื้อนูนออกมา หากฝึกฝนอีกสักพัก ก็จะมีเขายาว ๆ งอกออกมา!”
บนห้องใต้หลังคา อวิ๋นหลิงอดหัวเราะเบา ๆ แล้วส่ายหัวไม่ได้
บนหัวของใต้เท้างูเหลือมมีเนื้อนูนออกมา น่าจะเป็นเนื้อเยื่อเนื้อที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหลังอายุมากขึ้น
มองดูแล้วเหมือนเขายาว ๆ แบบนั้น
มีกลุ่มนักเรียนนำขนมและผลไม้จากโรงอาหาร เอามาวางรอบใต้เท้างูเหลือมในศาลาหูซิน พากันจุดต่อแถวธูปโขกหัว
ใต้เท้างูเหลือมถูกบังคับให้ทํางานชั่วคราวในฐานะเซียนใหญ่ ขดตัวเป็นวงกลมอย่างไม่สบายใจ แต่มันรับปากอวิ๋นหลิงไว้แล้ว ตอนนี้ยังไปไม่ได้
ไม่นานในที่สุดเซียวปี้เฉิงก็มาถึง
“ฝ่าบาทรัชทายาทเสด็จ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...