พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 596

ท้องนภาสีคราม ใบไม้ยามสารทเปลี่ยนเป็นสีเหลือง น้ำในบ่อเย็นยะเยือก

ข้างสะพานริมสระน้ำ บรรดานางกำนัลรีบไปมุงดูเหตุการณ์อย่างตื่นตระหนก เสียงเอะอะโวยวายในสวนหลวงยังดังไม่เลือนหาย

วันนี้เวลาประมาณยามเว่ยบ่ายคล้อย เกิดรถม้าชนกันบนถนนจากอุทยานชมทิวทัศน์ไปจนถึงสวนหลวง

จักรยานทำด้วยไม้ต้องสงสัยว่าขี่เร่งความเร็วจนห้ามล้อไม่ทัน พุ่งข้ามพุ่มไม้เขียวขจีไปชนราวกั้นข้างสระน้ำ ทำให้อาคันตุกะชาวตงฉู่สองคนเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งพลัดตกลงไปในสระบัว

รัชทายาทกับพระชายารีบร้องขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน องครักษ์วังหลวงและนักกู้ภัยคนอื่นๆ ก็รีบรุดมาถึงทันเวลา ช่วยเหลือผู้ที่ตกลงไปในน้ำได้ทันท่วงที

มีรายงานว่าผู้โดยสารรายนี้เป็นบุรุษหนุ่มร่างสูงโปร่งหนึ่งเมตรแปดสิบเซนติเมตร ส่วนเจ้าของรถยังเยาว์วัย ทั้งคู่เป็นมือใหม่ยังไม่ชินถนน และขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต

ที่เกิดเหตุน่าสลดใจนัก จักรยานไม้เสียหายพังยับเยินจนถึงขั้นขับต่อไปไม่ได้ เดชะบุญที่อาคันตุกะชาวตงฉู่สองรายนั้นได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ไม่อันตรายถึงชีวิต

ตามที่องครักษ์วังหลวงผู้เห็นเหตุการณ์เล่าสั้นๆ ว่า “ประมาณสักพักหนึ่งเห็นจะได้ ขณะที่ข้ากำลังลาดตระเวนสวนหลวง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนหวีดร้องอย่างบ้าคลั่งจากที่ไกล จึงรีบวิ่งมาดูว่าเป็นผู้ใดบังอาจมาทำเสียงดังโหวกเหวกที่นี่”

“พอเข้าไปใกล้ๆ ก็ได้ยินเสียงดังโครมสองที ข้ารีบวิ่งไปดู พบว่ามีคนตกลงไปในสระบัว”

แม่นมผู้เฒ่าอีกคนหนึ่งที่ผ่านทางมาโดยบังเอิญเล่าให้ทุกคนฟังว่านางเห็นอะไรบ้างอย่างละเอียด

“ตอนนั้นบ่าวเพิ่งกินข้าวเที่ยงเสร็จ กำลังเดินเล่นกับพี่น้องสองสามคนบนทางเล็กๆ ของสวนหลวงเพื่อย่อยอาหาร ก็เห็นคนสองคนขี่ม้าไม้วิ่งตุปัดตุเป๋เข้ามาหาบ่าวจากระยะไกลด้วยความไวเหลือแสน พอสูดหายใจ ‘เฮือก’ หนึ่ง รถก็เหินบินละลิ่วข้ามไปด้านข้างแล้ว”

จากที่แม่นมผู้เฒ่าเล่า บรรดาพี่น้องของนางต่างเห็นเหตุการณ์ในเวลานั้น จึงตะโกนว่า “ระวัง” พร้อมกัน ดีที่เจ้าของรถที่เกิดอุบัติเหตุเปลี่ยนทิศทางทันเวลา จึงหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้

“เหตุการณ์เลวร้ายเหลือเกิน บ่าวตกใจเสียจนเท้าติดแน่นอยู่กับพื้น จะยกอย่างไรก็ยกไม่ขึ้นเลย”

เล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้น แม่นมผู้เฒ่ายังคงหวาดผวาไม่หาย

ฝูกงกงรายงานสถานการณ์ข้างต้นกับจักรพรรดิจาวเหรินในห้องตำราทันที

จักรพรรดิจาวเหรินแทบจะสำลักบัวลอย “แค่กๆๆ ...ราชครูเฟิ่งเหมียนตกลงไปในทะเลสาบหรือ ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”

ฝูกงกงอึกๆ อักๆ อยากจะพูดแต่ยับยั้งไว้ “ตอนนี้ร่างกายไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่อารมณ์ค่อนข้างแปรปรวน”

เฟิ่งเหมียนว่ายน้ำไม่เป็น เขาจึงถูกองครักษ์ใช้ดาบช้อนขึ้นมา

ขณะนั้นเสื้อผ้าของเขาเปียกโชกไปทั้งตัว อาภรณ์สีขาวเปรอะเปื้อนโคลนจากก้นสระบัว ใบหน้าเลอะจอกแหนสีเขียวเต็มไปหมด สภาพม่อลอกม่อแลก

บนศีรษะมีพืชน้ำสองสามต้นห้อยต่องแต่ง บนนั้นยังมีกบร้อง ‘อ๊บๆ’ กระโดดหย็อยๆ ด้วยความตกใจกลัวอยู่ตัวหนึ่ง

องครักษ์กับนางกำนัลจำนวนมากมาออกันที่ริมสระน้ำรวมๆ แล้วยี่สิบกว่าคน ล้วนเห็นภาพเหตุการณ์อันน่าสลดนี้ติดตา

เวลานั้นใบหน้าเฟิ่งเหมียนซีดคล้ำ ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยอย่างอดมิได้ มองเสวียนจีแล้วพูดไม่ออก

จักรพรรดิจาวเหรินถามต่อ “แล้วเด็กสาวเสวียนจีเล่า”

“แม่นางเสวียนจีไม่เป็นไร นางไม่ต้องให้ใครช่วย ขึ้นฝั่งได้ด้วยตนเอง”

แม่นางน้อยเป็นคนคล่องแคล่วปราดเปรียว นางแสดงท่าว่ายน้ำตั้งหลายแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ก่อนปีนขึ้นฝั่งอย่างว่องไว

ผู้คนโดยรอบต่างประหลาดใจพากันอุทานว่าไม่เคยเห็นการว่ายน้ำที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อน คงเป็นพรายน้ำกลับชาติมาเกิดแน่ๆ

หลังจากเสวียนจีปีนขึ้นมา นางก็จับราวกั้นอาเจียนครู่หนึ่ง แล้วคายปลาทองตัวเล็กขนาดเท่าหัวแม่มือออกมา

นางหอบหายใจแล้ววิ่งพรวดแปดร้อยเมตรไปยังราวกั้นสระบัว เห็นจักรยานที่เพียรพยายามปรับปรุงมาตั้งหลายวันนั้นอยู่ในสภาพพังยับแหลกเละ ก็ทรุดนั่งลงกับพื้นร้องไห้ฟูมฟายไปตรงนั้นเลย

จักรพรรดิจาวเหรินทรงถอนพระทัยยาว โบกมือรับสั่งว่า “ไม่เป็นไรก็ดีมากแล้ว ถึงปัญหาจะเกิดจากศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองของพวกเขาเอง แต่ก็เป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นในวังหลวงเช่นกัน ฉะนั้นให้เจ้าสามกับชายาจัดการให้เรียบร้อยเถิด”

ฝูกงกงขานรับคำด้วยความเคารพ ก่อนออกมา

เสวียนจีอดมองเขาอีกสองสามแวบไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าน่ามองมากทีเดียว

ครั้นเห็นผู้ก่อเหตุปรากฏตัว เฟิ่งเหมียนพลันหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็ง

ขณะนี้ พลังจิตของอวิ๋นหลิงสัมผัสได้ถึงอารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรงของเฟิ่งเหมียนอย่างแจ่มชัด เขาดูเหมือนน้ำค้างแข็ง แต่ภายในกลับมีเพลิงโทสะลุกโหมโชติช่วง

ดูท่าครั้งนี้เขาจะโกรธจัด

ต้องรู้ไว้ว่าแต่ก่อนเฟิ่งเหมียนเป็นเหมือนหุ่นยนต์เอไอ ไม่มีริ้วอารมณ์แปรปรวน แต่บัดนี้มีน้ำโหเสียแล้ว

ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของลิงบางตัว

เฟิ่งเหมียนไม่สนใจใครบางคน มองไปทางอวิ๋นหลิงด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ถวายพระพรพระชายารัชทายาท”

อวิ๋นหลิงคลี่ยิ้ม มองประเมินเขาด้วยสายตาห่วงใย “ท่านราชครูไม่เป็นไรใช่หรือไม่ อยากให้ข้าตรวจร่างกายให้หรือเปล่า”

“ขอบพระทัยที่ทรงเป็นห่วง กระหม่อมไม่ได้เป็นอะไรมาก”

อวิ๋นหลิงรีบเอ่ยเยินยอ “เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี ถ้าท่านสบายดี ก็ถือว่าเป็นวันที่แจ่มใส!”

พูดจบ นางจ้องมองใบหน้าที่สงบสุขุมของเฟิ่งเหมียน แล้วฉุกนึกถึงสภาพที่น่าอับอายมีกบกระโดดหย็อยๆ บนพืชน้ำที่อยู่บนหัวของอีกฝ่าย ราชครูที่ยามปกติจะดูสูงส่งบริสุทธิ์ประหนึ่งพญาหงส์เก้าชั้นฟ้าก็กลายเป็นไก่ตกน้ำป๋อมแป๋ม

นางข่มกลั้นไม่ไหวไปครู่หนึ่ง หลุดขำออกมาอย่างไม่ไว้หน้า

ใบหน้าเฟิ่งเหมียนพลันแข็งทื่อ สายตาทอประกายประหลาดฉายชัด

อวิ๋นหลิงรีบหุบยิ้มเอ่ยว่า “ขอโทษที จู่ๆ ข้าก็นึกอะไรตลกๆ ได้”

เฟิ่งเหมียน “...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ