พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 611

จักรพรรดิจาวเหรินจ้องมองพระเจ้าหลวงอย่างตกตะลึง ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังพูดไม่ออก ขอบตาแดงก่ำ

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วจะไม่เข้าใจได้อย่างไร คำพูดทั้งหมดที่อีกฝ่ายพูดออกมา ล้วนเป็นการทำอย่างเจตนา เพื่อลงโทษเขา

นำคำพูดที่เขาเคยพูดกับเจ้าสาม ย้อนคืนมาให้เขาทั้งหมด

หลังจากที่พระเจ้าหลวงปะทุอารมณ์เสร็จสิ้น ก็ค่อยๆใจสงบลง ไม่มองจักรพรรดิจาวเหรินอีก

เขายกมือขึ้นส่งแขก “เอาล่ะเจ้าไปเถอะ ในเมื่อข้าไม่ก้าวก่าย เจ้าก็อย่าเอาเรื่องพวกนี้มากวนใจข้า”

จักรพรรดิจาวเหรินรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาชั่วขณะ แม้ว่าพระเจ้าหลวงจะไม่คิดว่าเขานั้นเป็นคนจิตใจคับแคบจริงๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายลงเลยสักนิด

เขายินดีที่อีกฝ่ายจะตำหนิตนอย่างรุนแรง แต่ไม่อยากเห็นสายตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ฝูกงกงก็ไม่กล้าอยู่ต่อ รีบเข้าไปประคองจักรพรรดิจาวเหรินที่ร่างโซเซแทบจะล้มลงกับพื้น

“พระเจ้าหลวงยังไม่ได้เสวยอาหาร ฝ่าบาทกลับตำหนักก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

ตอนนี้จักรพรรดิจาวเหรินอารมณ์สับสนวุ่นวายมาก รู้สึกเสียใจปะปนกับความรู้สึกไม่สบายใจและความรู้สึกผิด ถูกประคองออกไปจากตำหนักฉางหนิงด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ระหว่างทางที่กลับพระที่นั่งบำรุงฤทัย ฝูกงกงเอ่ยอย่างรู้สึกผิดว่า “ฝ่าบาท เรื่องเมื่อคืนกระหม่อมเป็นคนบอกพระเจ้าหลวงเองพ่ะย่ะค่ะ ทรงเข้าใจสองสามีภรรยารัชทายาทผิดแล้ว”

ร่างของจักรพรรดิจาวเหรินชะงักไป เมื่อคิดว่าเข้าใจสองสามีภรรยาอวิ๋นหลิงผิดไป จิตใจก็ยิ่งสับสน

เขาเอยพึมพำขึ้นมาว่า “ข้าทำผิดมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ ไม่ได้ให้เขาสละตำแหน่งรัชทายาทเสียหน่อย ฝูกงกงก็คิดว่าข้าทำเกินไปหรือ”

ฝูกงกงได้แต่เอ่ยปลอบใจว่า “เมื่อเทียบกับพวกฮ่องเต้ที่ชอบตัดสินใจโดยพลการ สังหารพี่น้องของตนเองแล้ว พระองค์นับว่ามีเมตตามากแล้ว”

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรเปรียบเทียบกับคนที่เลวร้ายที่สุดไม่ใช่หรือ

จักรพรรดิจาวเหรินสีหน้าเคร่งขรึมลง รู้ว่าฝูกงกงก็ไม่เห็นด้วยกับเขา

“ถ้าหากพระเจ้าหลวงสามารถปฏิบัติต่อสองพี่น้องเจ้าใหญ่ เหมือนที่ปฏิบัติต่อสองสามีภรรยาเจ้าสามล่ะก็ ข้ายังมีอะไรต้องกังวลอีก ข้ามีลูกชายหกคนลูกสาวสองคน เจ้าสามได้รับการปฏิบัติพิเศษ......”

ฝูกงกงนิ่งเงียบไม่พูด ที่องค์รัชทายาทถูกดูแลเป็นพิเศษ นั่นเป็นเพราะเขาถูกปฏิบัติอย่างเย็นชาก่อน

ในมุมมองของพระเจ้าหลวง ไม่ว่าจะฝ่ามือหรือหลังมือก็เป็นเนื้อเหมือนกัน คนอื่นต่างก็มีแม่คอยปกป้องดูแล มีเพียงองค์รัชทายาทที่โดดเดี่ยวเดียวดาย

กระทั่งต้องถูกยกให้พระสนมหลี่ดูแล เป็นเพียงเครื่องมือปลอบใจที่อีกฝ่ายเสียใจจากการสูญเสียลูกเท่านั้น

พระเจ้าหลวงเคยบอกว่า “ถ้าข้าไม่ยื่นมือช่วย ไม่ต้องรอให้โตจนถึงสิบขวบ เด็กคนนี้โชคดีมีชีวิตรอดได้ก็ไร้ประโยชน์แล้ว”

ถ้าหากเขาไม่ช่วยดูแลสักหน่อย ผู้หญิงอย่างพระสนมหลี่ที่เห็นแก่ผลประโยชน์เช่นนั้น จะดูแลเซียวปี้เฉิงอย่างดีหรือ

“เฮ้อ มาตรฐานในการเลี้ยงลูกของเสี่ยวจิ่ว ยังมีความสามารถไม่เท่าครึ่งหนึ่งของข้าตอนที่เลี้ยงหมูเลย”

เมื่อส่งจักรพรรดิจาวเหรินกลับไปที่พระที่นั่งบำรุงฤทัย เรื่องนี้จึงนับว่าสิ้นสุดลงชั่วคราว

วันนี้เดิมทีเป็นวันหยุด ภายใต้อารมณ์ที่ถูกกระทบกระเทือน เดิมทีได้นัดพบเหล่าขุนนางก็ยกเลิกไปแล้ว

เรื่องนี้แม้ว่าจะไม่มีใครพูดอะไรออกไป แต่ก็ปิดบังคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ได้ รวมไปถึงลิงบางตัวที่”มีความสามารถมาก”

......

อาญาสี่ เรือนชิงซิน

เสวียนจีก้าวเท้าเข้าไปในห้อง โกรธจนหน้างอง้ำ เดินไปถึงตรงหน้ารูปวาดของเทพไท่ซั่งเหล่าจวินอย่างรีบร้อน

“เร็ว ทำนายดวงชะตาให้กับองค์หญิงหกอะไรนั่นที อย่าให้นางเข้าสำนักศึกษาทำลายอนาคตของเด็กหนุ่มดีๆพวกนั้น”

“เกิดอะไรขึ้นทำไมต้องร้อนใจเช่นนี้”

ได้กลิ่นธูปไม้กฤษณาจางๆ ควันธูปรายล้อม เฟิ่งเหมียนที่ทำสมาธิอยู่ค่อยๆลืมตาขึ้นมา

ศาลบรรพบุรุษนอกจากกุญแจไม่กี่อัน ก็ไม่มีการยืนยันลายนิ้วมือหรือระบบป้องกันอื่นๆ จะขโมยของย่อมเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมาก

เส้นเอ็นสีเขียวบริเวณขมับของเฟิ่งเหมียนเต้นตุบๆ ความรู้สึกสงบจากการนั่งสมาธิเมื่อเช้าตรู่ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ฉวยโอกาสก่อนที่เหล่าองครักษ์จะพบเข้า เจ้ารีบนำมันไปคืนเดี๋ยวนี้เลย”

นางหนูคนนี้ทำไมถึงได้ใจกล้าขนาดนี้ ทำไมนางไม่ไปป่วนตำหนักสวรรค์นะ

เสวียนจีก็ไม่ยอมถอย จ้องมองเขาด้วยสายตาน่าสงสาร “ขอเพียงทำนายดวงขององค์หญิงหก ข้าจะรีบนำของไปคืนทันที ท่านคิดดู ข้าเป็นถึงพระชายารองของรัชทายาทแห่งตงฉู่ ถ้าถูกจับได้ในนามหัวขโมย ถึงตอนนั้นคนที่ต้องเสียชื่อเสียงคงไม่ได้มีเพียงข้าคนเดียว”

“ถ้าจำไม่ผิด หลังจากอาหารเที่ยงนางกำนัลจะไปทำความสะอาดศาลบรรพชนทุกวัน พวกเรารีบทำนายตอนนี้เลย ข้ายังทันเอาของกลับไปส่งคืน”

จะสามารถช่วยสองสามีภรรยาอวิ๋นหลิงได้หรือไม่ สำหรับเสวียนจีแล้วเป็นเรื่องที่สำคัญมาก กระทั่งไม่เสียดายที่จะยกเอาฐานะของการเป็น”พระชายารองของรัชทายาท”ขึ้นมาพูด

เฟิ่งเหมียน “......”

เขารู้สึกหมดอาลัยตายอยากขึ้นมาชั่วขณะ ชาติที่แล้วเขาเคยล่วงเกินเทพองค์ไหนกัน

เสวียนจีเห็นเขาไม่มีท่าทีหวั่นไหว ที่สุดก็ร้อนใจขึ้นมา กัดฟันกรอดก่อนจะงัดไม้ตายออกมาใช้

นางเดินเข้าไปกอดแขนของเฟิ่งเหมียน เขย่าไปมา น้ำเสียงอ่อนหวานจนแทบจะทำให้เลี่ยนตาย

“พี่เหมียน ช่วยข้าทำนายทีเถอะ ได้หรือไม่”

กลิ่นหอมสดชื่นของสาวน้อยพุ่งขึ้นมาในจมูก เฟิ่งเหมียนถูกนางกอดเอาไว้อย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ตบะแตกทันที

แมวเหมียวที่น่ารักตัวหนึ่ง จู่ๆวันหนึ่งก็กลายเป็นสาวสวยผู้อ่อนหวาน บางทีอาจทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นรัว

แต่ถ้าหากเป็นลิงที่ซุกซนแห่งเขาเฉียนหลงละก็......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ