จักรพรรดิจาวเหรินดูท่าจะสนุกกับสำนักศึกษาชิงอี้ยิ่งนัก ไม่ใช่แค่เอาไว้หลบหลี่กุ้ยเฟยเพียงอย่างเดียวเสียแล้ว
อวิ๋นหลิงไม่เข้าใจว่าไฉนเขาจึงเปลี่ยนไปกะทันหัน แต่ก็ต้องดีใจที่เห็นเขาเป็นเช่นนี้
อย่างไรเสียตำหนักบูรพาในฐานะราชสำนักขนาดเล็กก็หาเงินด้วยตนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาราชสำนัก เงินห้าแสนตำลึงเงินของจักรพรรดิจาวเหรินถือเป็นการลงทุนอย่างแท้จริง
ที่สำคัญจักรพรรดิจาวเหรินยังกล่าวอีกว่าเขาเพียงต้องการชื่อแต่ในนามว่าเป็นเจ้าของ ไม่ได้สนใจผลกำรี้กำไรของกิจการรถไม้
จู่ๆ ในมืออวิ๋นหลิงก็มีเงินสดห้าแสนตำลึงเงิน นางครุ่นคิดแล้วก็ตัดสินใจเข้าร่วมหุ้นในนามของหลิวฉิง
“เช่นนี้ พี่ฉิงก็ถือครองหุ้นกิจการได้หนึ่งส่วน ภายหน้าจะรับเงินปันผลได้ทุกเดือน”
เซียวปี้เฉิงไม่คัดค้านเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะตระหนี่ถี่เหนียวบ่อยครั้ง แต่เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์สำคัญเช่นนี้ สิ่งแรกที่นึกถึงคือทุกคนควรสร้างรายได้ร่วมกัน
บัดนี้จักรพรรดิจาวเหรินพูดเร่งรัด เขาก็ถือโอกาสตีเหล็กตอนร้อน เรียกคนกลุ่มหนึ่งมาหารือจัดสรรปันหุ้นและจัดการเรื่องนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ
การจัดสรรปันหุ้น พี่น้องอวิ๋นหลิงทั้งสี่ย่อมได้สัดส่วนใหญ่เป็นธรรมดา คิดเป็นเจ็ดส่วนเต็มๆ
อวิ๋นหลิงลงทุนเงินจำนวนมาก ลงในนามของหลิวฉิงไปไม่น้อย ทางหลงเย่ก็สนับสนุนเยอะอยู่เช่นกัน
เสวียนจีค่อนข้างพิเศษ นางลงทุนในเทคโนโลยีจึงไม่ต้องลงทุนเงิน
กงจื่อโยวเล่นกับป้ายหยกพลางกล่าวว่า “ทางข้ายังมีอีกห้าแสนตำลึง จะลงทุนให้ท่านน้าเล็กกับอวี้เหอญาติผู้น้อง คิดรวมพวกเขาทั้งสองด้วย”
นั่นคือญาติที่เกี่ยวพันทางสายโลหิต เขาย่อมต้องวางแผนเผื่ออีกฝ่ายไว้บ้าง
พระชายาเยียนอ๋องสุดแสนใจกว้าง “สิบล้านตำลึง ข้าลงแต่เงินเฉยๆ ไม่เอาหุ้น!”
“แต่มีคำขอ ข้าอยากจะเปิดร้านขายรถไม้หลายแห่งในแคว้นตงฉู่ พี่สะใภ้สามแค่ส่งแบบให้ข้า แล้วกำไรสามส่วนของร้านค้าต่อจากนี้ไปจะเป็นของพวกท่าน”
อวิ๋นหลิงขบคิดครู่หนึ่ง คลี่ยิ้มพลางผงกศีรษะ “ไม่มีปัญหา”
หญิงสาวผู้นี้สมแล้วที่เป็นชาวตงฉู่ เป็นคนหัวการค้าที่สายตายาวไกล เท่ากับว่าใช้เงินสิบล้านตำลึงซื้อเทคโนโลยีกับสิทธิ์ตัวแทนขายรถล้อไม้
ทว่านางไม่คุ้นเคยกับแคว้นตงฉู่ การให้พระชายาเยียนอ๋องรับผิดชอบทางแคว้นตงฉู่จะช่วยเพิ่มผลประโยชน์สูงสุด และเป็นวิธีความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
หุ้นที่เหลืออีกสามส่วน จะแบ่งให้กับตระกูลหรง โม่อ๋องกับชายา และฉู่อวิ๋นเจ๋อที่เป็นตัวแทนของจวนเหวินกั๋วกง ต่างก็มีส่วนร่วมกันทั้งหมด
ในใจอวิ๋นหลิงกำลังนึกถึงเสิ่นชิ่นกับพี่ชาย นางจึงชักชวนเสิ่นชิ่นให้ลงทุนสามหมื่นตำลึงเงินซึ่งเป็น ‘เงินค่าทำขวัญ’ ที่จักรพรรดิจาวเหรินทรงประทานให้เสิ่นทัวก่อนหน้านี้
ถึงแม้ผลกำไรที่แบ่งกันภายหลังจะมีเพียงเล็กน้อย แต่ก็แก้ไขปัญหาปากท้องของสองพี่น้องได้มากเกินพอ
หลังจากเจรจาเสร็จสิ้น ทุกฝ่ายก็เริ่มทำงานร่วมกันอย่างเร่งรีบ อย่างไรเสียหากเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ ทุกคนก็จะกระตือรือร้น
คนมากจะทำงานให้เสร็จได้ง่าย ภายในเจ็ดแปดวันก็ได้ที่ตั้งของร้านรถไม้ ช่องทางในการซื้อวัตถุดิบ ช่างไม้กับช่างตีเหล็กที่จะทำงานด้วยกันก็ถูกกำหนดเบื้องต้นแล้ว
จื่อเถาเป็นลูกสาวช่างไม้เก่า รู้จักสายงานของช่างไม้เป็นอย่างดี ประกอบกับโม่อ๋องบัดนี้ทำงานในกรมคลังและรับผิดชอบเรื่องการเงินด้วย
อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงเพียงมอบการบริหารจัดการร้านขายรถไม้ให้กับทั้งคู่ ตัวเองก็สลัดหลุดจากการเป็นเจ้าของร้านไป
กลับกันเด็กสาวอย่างเสวียนจีกลายเป็นไข่ทองคำที่ทำเงินในสายตาของกงจื่อโยวไปเสียแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นรถล้อไม้หรือนาฬิกาพกที่ปรับปรุงใหม่ เขาสนใจยิ่งนัก จึงสนิทสนมกับอีกฝ่ายเพราะทำงานหาเงินด้วยกันทุกวัน
กงจื่อโยวนับนิ้วคำนวณไว้ว่า ตราบใดที่เขาผูกไมตรีกับพี่น้องทั้งสี่ไว้ สำนักทิงเสวี่ยจะสามารถเข้าสู่ทุกสาขาอาชีพได้ รวมถึงยารักษาโรค อาวุธยุทโธปกรณ์ อาหาร เสื้อผ้า และห้างสรรพสินค้า ล้วนมีครบครันทุกอย่าง
ด้วยวัยของท่านแม่ลู่ ไม่ใคร่เหมาะจะใช้ของที่สวยงามหรูหราเช่นนี้นัก
อวิ๋นหลิงฟังแล้วก็เอ่ยยิ้มๆ ว่า “ไม่เหมาะกับท่านแม่ลู่อยู่แล้ว นี่คือของที่ข้ามอบให้ว่าที่ภรรยาของลู่ฉี”
ตงชิงชะงักไป “ว่าที่ภรรยาหรือ”
“ใช่แล้ว เจ้าไม่รู้หรือว่าครอบครัวของลู่ฉีเร่งให้แต่งงานมาตลอด เมื่อต้นเดือนข้าพบท่านแม่ลู่ที่สำนักศึกษา นางยังบอกว่าจะรอพบลู่ฉี แล้วจะจัดเตรียมการแต่งงานก่อนสิ้นปี”
“ข้าคิดว่าเด็กคนนี้ใกล้จะมีงานมงคลแล้ว ก็เลยมอบโต๊ะเครื่องแป้งให้เขา ไม่เช่นนั้นวางทิ้งไว้ในคลังเก็บของก็ฝุ่นจับเขรอะ น่าเสียดายแย่”
ได้ยินเช่นนี้ ตงชิงก็บีบใบรายการแน่นโดยไม่รู้ตัว
“ท่านแม่ลู่พูดเช่นนี้ หรือว่าเลือกลูกสะใภ้ได้แล้ว?”
อวิ๋นหลิงครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “อาจเป็นไปได้ ผู้อาวุโสตระกูลลู่ทั้งสองมาครั้งนี้พาแม่นางคนงามแซ่จีมาด้วยคนหนึ่ง ว่ากันว่าเป็นญาติผู้น้องห่างๆ ของลู่ฉี ตั้งแต่พ่อแม่จากไป นางก็อาศัยอยู่กับท่านแม่ลู่มาตลอด ”
จู่ๆ ใบหน้าของตงชิงก็ซีดลง ขบกัดริมฝีปากสีแดงชาด มือที่ถือสมุดเล่มเล็กก็สั่นเล็กน้อย
อวิ๋นหลิงข่มกลั้นเสียงหัวเราะ กระแอมเบาๆ คราหนึ่ง เอ่ยอย่างเป็นห่วง “เจ้าเป็นอะไรไป เป็นเพราะข้ายกโต๊ะเครื่องแป้งนี้ให้ลู่ฉี ก็เลยเสียใจใช่หรือไม่”
“ข้ารู้ว่าเจ้าชอบโต๊ะเครื่องแป้งตัวนี้ แต่ลู่ฉีกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาเร็วๆ นี้ ไม่ใช่หรือ ไว้ภายหน้าเจ้าออกเรือน ข้าจะสั่งให้คนทำที่ดีกว่าให้เจ้า”
ตงชิงกระตุกมุมปาก ฝืนยิ้มพูดกลั้วหัวเราะว่า “บ่าวไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น บ่าวจะเรียกคนในคลังเก็บของให้เตรียมเอาของไปส่งนะเพคะ”
เจ้างี่เง่าลู่ฉีอยากมีภรรยาดีนัก ทีนี้คงจะสุขอุราจนนอนไม่หลับเลยละสิท่า
นางเก็บใบรายการเรียบร้อย แล้วทิ้งความในใจอันหนักอึ้งไว้บนแผ่นหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...