พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 707

ภายในร้านของหวานมีกลิ่นหอมหวานลอยตลบอบอวล

องค์หญิงหกมองดูจักรพรรดิจาวเหรินหายไปจากสายตาอยู่ไกลๆ อดไม่ได้ที่จะเอียงศีรษะอย่างงุนงงขึ้นมา

“วันนี้ท่านพ่อเป็นอะไร เห็นข้าราวกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น......”

นางพึมพำเบา โดยไม่ทันสังเกตเลยสักนิด กู้ฮั่นม่อที่อยู่ข้างๆกำลังจ้องมองปิ่นปักผมด้วยสายตาล้ำลึก ไข่มุกที่เปล่งประกายแวววาวอยู่นั้น

ในทะเลสีครามมีไข่มุก ที่เปล่งประกายราวกับแสงจันทร์

ถ้าหากดูไม่ผิดละก็ ของสิ่งนี้คือไข่มุกทะเลใต้ เป็นของล้ำค่าหายากในตำนานที่สามารถเปล่งประกายอ่อนๆออกมาได้

ไข่มุกระดับนี้เป็นของบรรณาการ มีเพียงคนในราชวงศ์ที่สามารถใช้ได้

เขาเคยเห็นไข่มุกชนิดเดียวกันบนปิ่นปักผมของพระชายารัชทายาท หรงรั่วยังเคยอิจฉาอยู่ข้างๆ บอกว่าพระชายารุ่ยอ๋องลูกพี่ลูกน้องของนางก็มีปิ่นปักผมเช่นนี้หนึ่งชิ้น ถูกประทานให้ตอนที่แต่งงานกับรุ่ยอ๋อง ปกติก็ไม่กล้าใส่เพราะเสียดาย

เห็นว่าแม่นางหลียกของหวานออกมา กู้ฮั่นม่อก็เก็บความคิดทั้งหมดกลับไป เดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า

“ท่านแม่ ปิ่นปักผมนี้มาจากไหน”

สังเกตว่าจักรพรรดิจาวเหรินจากไปไกลแล้ว แม่นางหลีก็รู้สึกโล่งใจ หลังจากที่มองเห็นปิ่นปักผมอันนั้น ก็รีบเก็บและมอบให้องค์หญิงหก

“แม่นางเสี่ยวลิ่ว นี่เป็นของที่นายท่านเก้าลืมเอาไว้ ดูแล้วคงมีราคาสูงมาก เจ้าช่วยนายท่านเก้าเก็บไว้ก่อนเถอะ”

“ออ......”

เห็นได้ชัดว่าองค์หญิงหกจำไข่มุกบรรณาการได้ ก็นิ่งอึ้งไปทันที รีบเก็บเอาไว้อย่างดี

น่าแปลก เสด็จพ่อเอาไข่มุกทะเลใต้มาที่สำนักศึกษาทำไม

หลังจากที่มั่นใจว่าของสิ่งนี้เป็นของนายท่านเก้าหวง กู้ฮั่นม่อก็หลุบตาลงเล็กน้อย ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

ของสิ่งนี้ไม่ธรรมดา ไม่ใช่สิ่งของที่คนทั่วไปจะมีได้ คนที่สามารถเอาไข่มุกบรรณาการออกมาอย่างเปิดเผยมีไม่มาก

ดูจากลักษณะและอายุของนายท่านเก้าหวงคนนี้แล้ว การคาดเดาอย่างหนึ่งผุดขึ้นมาในสมองอย่างรวดเร็ว

นายท่านเก้าหวง หวงเสี่ยวลิ่ว

เป็นเช่นนี้นี่เอง เป็นเช่นนี้นี่เอง

“แม่นางเสี่ยวลิ่ว เจ้ากินของหวานอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับท่านแม่ ขอตัวสักครู่”

หลังจากนั้น กู้ฮั่นม่อก็ลากตัวแม่นางหลีเข้าไปในห้อง

เขากดเสียงต่ำพลางถามขึ้นว่า “ท่านแม่ วันนี้นายท่านเก้าหวงมาหาท่านด้วยเรื่องอะไร”

ลูกชายเป็นคนเฉลียวฉลาดมาแต่ไหนแต่ไร แม่นางหลีรู้ว่าหลังจากที่เขาเห็นปิ่นปักผม คงสังเกตเห็นความผิดปกติแน่ๆ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ปกปิดเขา เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้เขาฟังทั้งหมด

“คิดไม่ถึงจริงๆว่า นายท่านเก้าหวงที่ดูสง่างาม ลุ่มลึกอบอุ่น จะทำเรื่องผลีผลามเช่นนี้ อย่าว่าแต่ฮูหยินของเขาที่เพิ่งตายไปไม่นานก่อนหน้านี้ ที่บ้านยังมีอนุภรรยาอีกหลายคน ยังคิดจะรับแม่เป็นอนุอีก แม้ว่าแม่จะเป็นหม้ายมายี่สิบกว่าปี ก็ไม่สามารถปล่อยให้ใครเหยียบย่ำตามอำเภอใจเช่นนี้”

พูดถึงตรงนี้ ใบหน้างดงามของแม่นางหลีก็มีแววขุ่นเคืองแฝงอยู่หลายส่วน

ในสายตาของคนทั่วไปอนุภรรยาก็คือของเล่นชิ้นหนึ่ง เต็มใจที่จะเป็นสิ่งของที่ต่ำต้อยเอง แม้จะเป็นลูกสาวจากตระกูลที่ยากจน นอกจากชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเองแล้ว ก็ไม่มีใครอยากจะเดินเส้นทางนี้

“แม่คิดเสมอว่านายท่านเก้าหวงเป็นผู้ชายที่ดีมีความรักที่ลึกซึ้งหนักแน่น ไหนเลยจะคิดว่าเขาจะซ่อนความคิดเช่นนี้เอาไว้”

คิ้วของแม่นางหลีขมวดเข้าหากันแน่น ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายมีสถานะพิเศษ นางก็ไม่อยากจะคบหาแล้ว

กู้ฮั่นม่อกลับมีสีหน้าประหลาดใจ ฝ่าบาทถึงกับคิดจะรับท่านแม่เข้าไปในวังหลังเลยหรือ

เขารู้ว่าท่านแม่เป็นคนหน้าตางดงาม แม้จะเป็นแม่หม้ายก็มีคนไม่น้อยอยากจะแต่งงานด้วย กลับคิดไม่ถึงว่าจักรพรรดิจาวเหรินจะหลงใหลจนยอมทำทุกอย่าง

“ท่านแม่......บางทีสถานะของนายท่านเก้าหวงอาจจะไม่ธรรมดา”

กู้ฮั่นม่อครุ่นคิด บอกสิ่งที่ตนเองคาดเดาและมั่นใจมากกว่าเก้าส่วนให้แม่นางหลีฟัง

แม่นางหลีสายตาแฝงแววตกตะลึงพลางเอามือปิดปาก “เจ้าหมายความว่านั่นคือฮ่องเต้หรือ”

ความคิดของนางแล่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ฮองเฮาองค์ก่อนถูกปลดและประหารไปเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิไม่ใช่หรือ ตรงกับเวลาที่ภรรยาเอกของนายท่านเก้าหวงตายพอดี

ถึงว่าอีกฝ่ายที่เป็นเจ้าของร้านรถไม้ ถึงกับสามารถเชิญท่านราชครูแห่งแคว้นตงฉู่มาแสดงทักษะการขับรถด้วยตนเองได้

ถึงว่าเมื่อครู่เขาบอกว่า จะให้นางเป็นอนุภรรยาที่ไม่ใช่อนุภรรยาทั่วไป

เสด็จพ่อรักนางมากขนาดนั้น น่าจะอนุญาตให้นางเอาแต่ใจสักครั้ง

กู้ฮั่นม่อไม่พลาดที่จะสังเกตเห็นแววตาที่แฝงไปด้วยความรักของนาง ได้แต่ทอดถอนในใจ

ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าสาวน้อยคนนี้คิดอะไร เพียงแต่ปกติแล้วจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ รักษาระยะห่างที่ควรมีเอาไว้เท่านั้นเอง

ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายจะมีฐานะเป็นถึงองค์หญิง

เห็นที ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาคงจะไปมาหาสู่กับอีกฝ่ายน้อยลง

ความรักขององค์หญิง ไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างเขาจะเต็มใจยอมรับได้

……

ในห้องเรียนของสำนักศึกษา

เซียวปี้เฉิงกำลังจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวันหยุดของสำนักศึกษาชิงอี้

ภาคเรียนแรกจบลงไปด้วยดี ตอนแรกเหล่าอาจารย์และนักเรียนไม่ค่อยคุ้นเคยกับการเรียนการสอนเช่นนี้ ต่อมาก็ปรับตัวได้ดีมาก

ทุกอย่างราบรื่นมาก เขาเตรียมจะรายงานอู๋อันกง อาศัยช่วงวันหยุดฤดูหนาวเตรียมการรับสมัครนักเรียนโรงเรียนแพทย์

ตามคำแนะนำของอวิ๋นหลิง เขาได้เปิดสอนเพียงไม่กี่สาขาเช่นอายุรศาสตร์ ศัลยศาสตร์ โรคติดต่อร้ายแรง ศาสตร์สมุนไพรและ พยาบาลศาสตร์เป็นต้น

อวิ๋นหลิงยังบอกว่าให้อู๋อันกงรับสมัครนักเรียนหญิงให้มากหน่อย เช่นนี้ภายหน้าก็สามารถขยายชมรม ให้นักเรียนดำเนินการกันเองภายใน

เซียวปี้เฉิงเห็นด้วยกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มิเช่นนั้นเขาคงจะเป็นห่วงมาก ถ้าหากชายหนุ่มมากความสามารถเหล่านั้นหาภรรยาไม่ได้ ภายหน้าล้วนกลายเป็นคนอย่างถังจูซิงจะทำอย่างไร

เขากำลังตั้งใจเรียงลำดับผลการสอบในสมุดรายชื่อ จู่ๆฝูกงกงก็เคาะประตูและเดินเข้ามา

“องค์รัชทายาท ฝ่าบาทบอกว่าทรงไม่ค่อยสบาย อยากจะรีบกลับไปพักผ่อน เรื่องที่จะพาองค์หญิงหกกลับวังก็มอบหมายให้ท่านแล้วกัน”

เซียวปี้เฉิงรู้สึกมึนงง “ตอนเช้าเสด็จพ่อยังดีอยู่เลยมิใช่หรือ ด่าข้าด้วยท่าทีกระปรี้กระเปร่าขนาดนั้น ทำไมจู่ๆจึงรู้สึกไม่สบายเล่า อีกอย่าง นี่ก็ไม่ได้กระทบต่อการพาโยว่หรงกลับวังด้วยกันนี่นา”

ทั้งๆที่เขาดึงดันจะมาแท้ๆ ทำไมจู่ๆจึงไม่สนใจลูกสาวแล้วล่ะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ