พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 71

ชายหนุ่มกลืนลมหายใจ เซียวปี้เฉิงดึงหอกออกมา และเช็ดเลือดบนเสื้อผ้าของอีกฝ่าย

ด้านในสุดของถนน ในที่สุดเยี่ยเจ๋อเฟิงและคนอื่นๆ ก็มาถึง องครักษ์กลุ่มหนึ่งได้รับบาดเจ็บกันไม่มากก็น้อย เมื่อเห็นมือสังหารนอนอยู่บนพื้น ต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“ท่านอ๋อง พระชายา พวกท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่!”

เซียวปี้เฉิงพยุ่งอวิ๋นหลิง พลางส่ายหัว “ข้าไม่เป็นไร ยังมีมือสังหารที่รอดชีวิตอยู่อีกหรือไม่?”

“เหลืออยู่คนหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”

“ดีมาก เจ๋อเฟิงเจ้านำคนไปส่งที่หอต้าลี่ก่อน จำไว้ว่าอย่าให้โอกาสเขาฆ่าตัวตาย เรื่องในคืนนี้อย่าเพิ่งพูดอะไรออกไป แล้วก็อย่าไปรายงานเรื่องนี้กับเสด็จพ่อด้วย”

เยี่ยเจ๋อเฟิงกำหมัดน้อมรับคำสั่ง จากนั้นจ้องมองที่อวิ๋นหลิงด้วยสายตาที่ซับซ้อน แล้วจึงนำตัวมือสังหารออกไป

แม้เขาจะไม่ค่อยชอบอวิ๋นหลิงเท่าไรนัก แต่ต้องยอมรับว่า เมื่อครู่หากไม่ใช่เพราะอวิ๋นหลิง เขาก็อาจจะกลายเป็นวิญญาณที่ตายภายใต้คมดาบไปแล้วก็เป็นได้

ภายใต้การคุ้มกันของทหารองครักษ์ อวิ๋นหลิงก็เดินทางกลับไปยังจวนจิ้งอ๋องภายใต้แสงจันทร์

หลังจากปิดประตู นางลดเสียงต่ำลง แล้วกล่าวว่า “เป้าหมายของมือสังหารในคืนนี้คือ ท่าน ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่คนที่ฮองเฮาส่งมา”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้าด้วยใบหน้ามืดมน “เป้าหมายที่แม่นยำ และวิธีการที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ ไม่ใช่ฝีมือของฮองเฮาอย่างแน่นอน หากเป็นไปตามที่ข้าคาดไว้ นางคงจะอยากลงมือในงานแข่งเรือในเทศกาลไหว้บะจ่าง”

วิธีการของฮองเฮาเฟิงเป็นเหมือนกับการซ่อนเข็มในผ้าฝ้ายมาโดยตลอด นางไม่สามารถทำการลอบสังหารที่อุกอาจเช่นนี้ออกมาได้อย่างแน่นอน

อวิ๋นหลิงขมวดคิ้ว สายตาของนางจับจ้องไปที่หอกพู่แดงของเขา “คิดว่า คงจะเป็นการที่พระเจ้าหลวงประทานหอกนี้ให้แก่ท่าน จึงไปกระตุ้นให้ผู้อื่นสร้างความสงสัยขึ้น จึงเป็นเหตุให้ลงมืออย่างไม่อาจรั้งรอได้เช่นนี้”

เซียวปี้เฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ไม่เช่นนั้น เจ้ากับข้าลองแสดงละครทดสอบดูสิ”

อวิ๋นหลิงเลิกคิ้ว ส่งสัญญาณให้เขาพูดต่อไป

“พรุ่งนี้ ข้าจะให้เจ๋อเฟิงไปรายงานต่อเสด็จพ่อ โดยบอกว่า ระหว่างที่ข้ากับเจ้ากลับจวนได้พบกับมือสังหาร ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนเจ้าครรภ์ได้รับการกระทบกระเทือน”

“อีกฝ่ายส่งมือสังหารมามากกว่าสามสิบคน เห็นได้ชัดว่าจะต้องคิดว่าพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน และสามารถสังหารข้าได้ แต่บัดนี้ข้ายังไม่ตาย เขาจะต้องมาที่จวนจิ้งอ๋อง เพื่อทำการตรวจสอบอย่างแน่นอน”

ดวงตาของอวิ๋นหลิงสั่นไหวเล็กน้อย และเข้าใจเหตุผลด้วยเช่นกัน “แต่เราจะต้องปิดบังพระเจ้าหลวง เขาอายุมากแล้ว ข้ากลัวว่า หากเขาเกิดตกใจขึ้นมา อาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขาก็เป็นได้”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า เมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางแดงก่ำ ไม่ซีดขาวเหมือนก่อนหน้านี้ จึงถามออกมาอย่างอ่อนโยนว่า “เจ้าแน่ใจใช่หรือไม่ว่าร่างกายของเจ้าไม่เป็นอะไร?”

“เมื่อครู่ข้าล้ม เลยรู้สึกเจ็บท้องเล็กน้อย แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วละ”

เซียวปี้เฉิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อนึกถึงฉากเมื่อครู่นี้ เขายังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย

“ต่อไปอย่าได้ไปยั่วยุมือสังหารดั่งเช่นเมื่อครู่นี้อีก เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตอนนั้นข้าตื่นตระหนกเพียงใด เจ้าไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่า หากดาบนั้นถูกเจ้าขึ้นมาจะทำอย่างไร?”

“ข้าไม่ทำในสิ่งที่ข้าไม่มั่นใจ แม้ว่าเข็มพิษจะพลาด ข้าก็ยังสามารถใช้พลังจิตสังหารเขาได้”

อวิ๋นหลิงเม้มริมฝีปาก แล้วยิ้มเล็กน้อยอย่างภาคภูมิใจ “นอกจากนี้ การแสดงในคืนนี้ของข้าทำออกมาได้ดีไม่ใช่หรืออย่างไร?”

เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในองค์กร แม้นางมักจะถูกเรียกติดตลกเสมอว่าเป็นพี่เลี้ยงที่คอยช่วยเหลือทุกคน กระนั้นนางก็มีความสามารถเช่นกัน

เซียวปี้เฉิงจ้องเขม็งไปที่อวิ๋นหลิง อดไม่ได้ที่จะประทับลงบนริมฝีปากของนางอย่างแรง จนริมฝีปากกระแทกกับฟันอย่างเจ็บปวด

อวิ๋นหลิงรู้สึกหมดหนทาง ชายผู้นี้กล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ เลยจริงๆ

เซียวปี้เฉิงโอบกอดนางไว้แน่น แล้วกล่าวด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า “ดีมาก แต่ข้าเป็นห่วง...ตั้งแต่นี้ไป เจ้าเพียงยืนอยู่ข้างหลังข้าก็พอแล้ว”

“หากข้าอยู่ข้างหน้า นอกเสียจากข้าตาย ข้าจะไม่มีทางให้ใครมาทำร้ายเจ้าได้แม้แต่น้อย”

เขาให้สัญญา แม้เสียงของเขาจะเบา แต่กระนั้นก็หนักแน่นมาก

อวิ๋นหลิงแสดงสีหน้าประทับใจออกมาเล็กน้อย ในใจรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นแปลกๆ แต่ก็ยังผละออกจากอ้อมกอดของเขาอย่างแผ่วเบา

“ท่านอ๋อง ข้าขอบคุณท่านมาก แต่ว่า...”

นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่เซียวปี้เฉิงด้วยใบหน้าสงบนิ่ง แต่ดวงตาที่ใสกระจ่างยิ่งกว่าแสงจันทร์ฉายแววเคร่งเครียด

“แทนที่จะปล่อยให้ข้าหลบอยู่ข้างหลัง ข้าหวังว่า ท่านจะสามารถวางใจได้ที่จะยอมหันหลังให้ข้า เหมือนดั่งเช่นเมื่อครู่นี้ได้”

แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ร่วมมือกัน แต่ระหว่างพวกเขาก็มีความเข้าใจโดยปริยายที่อธิบายไม่ได้ ราวกับว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อเป็นอีกครึ่งหนึ่งของกันและกัน

เยี่ยนอ๋องตกใจอย่างมาก รีบวิ่งจากเรือนเยี่ยนหุยเป็นระยะทางเกือบหนึ่งร้อยเมตรไปที่เรือนหลันชิงทันที

เขามาถึงเรือนหลังชิงด้วยรถเข็นอย่างตื่นตระหนก เมื่อเห็นเซียวปี้เฉิงและอวิ๋นหลิงไม่ได้เป็นออะไร เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเริ่มบ่นทันที

“พวกเจ้าสองคนเกือบทำให้ตกใจกลัวจนหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว!”

“โชคดีที่ไม่มีอันตราย”

เซียวปี้เฉิงและเยี่ยนอ๋องเติบโตมาด้วยกัน พวกเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่สุด ในบรรดาพี่น้องเชื่อใจเขาที่สุด ไม่มีอะไรปิดบังต่อกัน

เยี่ยนอ๋องพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมหลังจากเข้าใจทุกอย่างแล้ว “พี่สามไม่ต้องห่วง ข้าจะคอยปิดบังให้ท่านเอง จะไม่ให้คนใช้ของเรือนเยี่ยนหุยจับสังเกตได้อย่างแน่นอน”

เรือนเยี่ยนหุยเป็นเรือนเดียวในจวนจิ้งอ๋องที่ส่วนใหญ่เป็นสาวใช้ที่หวงกุ้ยเฟยส่งมาคอยดูแลเขา นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ในการสอดแนมข่าวคราวในจวนจิ้งอ๋องอีกด้วย

แต่ใครจะรู้บ้างว่าจะมีการส่งสายสอดแนมเข้ามาในส่วนไหนอีกบ้าง?

ตงชิงรีบกลับเรือนไปกระซิบกระซาบทันที “พระชายาเพคะ ทำตามที่พระชายารับสั่งเรียบร้อย นำเอาเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยเลือดไก่ไปวางไว้ในห้องแล้วเพคะ”

ในกลิ่นของเลือดคนและเลือดสัตว์นั้นแตกต่างกัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับอวิ๋นหลิง หลังจากปรับแต่งเล็กน้อยด้วยน้ำยาแล้ว ก็อาจจะทำให้สับสนกับของจริงได้

หากจะแสดงละครต้องทำให้เต็มที่ ทั่วทั้งจวนจิ้งอ๋องสว่างไสวตลอดทั้งคืน โดยมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ในอากาศ

เช้าตรู่ของวันต่อมา ท้องฟ้ามืดครึ้ม

เยี่ยเจ๋อเฟิงรีบส่งรายงานด่วนไปยังหวังหลวงทันที และข่าวการลอบสังหารจิ้งอ๋องและภรรยาก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นทันที

จักรพรรดิจาวเหรินโกรธมาก ได้รับสั่งให้หอต้าลี่ไปสืบสวนเกี่ยวกับคดีลอบสังหารนี้อย่างละเอียด และทรมานมือสังหารที่รอดชีวิต เพื่อดึงคำสารภาพออกมา

ชายชุดดำที่ถูกจับไม่สามารถต้านทานโทษประหารได้ จึงหลุดปากระบุตัวผู้บงการเบื้องหลังออกมาว่าเป็นฮองเฮาเฟิง

ตอนที่ได้รู้ข่าวนี้ ขณะนั้นฮองเฮาเฟิงกำลังดื่มชาในตำหนัก เมื่อได้ยินดังนั้นก็ทำถ้วยชาแตกด้วยความตกใจทันที

“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันถูกปรักปรำเพคะ หม่อมฉันจะไปทำเรื่องเช่นนั้นกับจิ้งอ๋องได้อย่างไรเพคะ! ฝ่าบาทจะต้องทำการสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงออกมานะเพคะ จะต้องเป็นพวกที่โยนความผิดให้คนอื่น ต้องการแยกหม่อมฉันออกจากจิ้งอ๋อง ฝ่าบาทต้องทวงคืนความบริสุทธิ์ให้หม่อมฉันนะเพคะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ