ภรรยาตาหวาน (คลั่งหื่น) นิยาย บท 23

Chapter 23 ดวงตาของหลี่หลงฉาย

“ทะ...ท่านพี่ หยุดเถอะเจ้าค่ะ เพียงแค่นี้ก็พอแล้ว ข้าไม่อยากให้ท่านต้องมีอาญาติดตัว”

แม้นางจะมองไม่เห็นแต่ได้ยินและพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมดคร่าวๆ นางไม่คิดว่าสามีจะโกรธที่ตนถูกทำร้ายจนลงมือตบหลี่หลงฉายเสียจนฟันร่วง

แม้ในใจนั้นจะแอบสะใจ แต่ก็เป็นห่วงสามีเพราะลำพังอาญากบฏที่ถูกตามล่าตัวอยู่นั้นก็ทำให้สามีต้องคอยหนีคดีแอบซ่อนตัวออกจากผู้คน หากว่าทำคดีเพิ่มเกรงว่าจะยิ่งใช้ชีวิตลำบาก

ไหนจะต้องหลบหนีไหนจะต้องคอยดูแลภรรยาตาบอดที่เป็นภาระเช่นนางอีก

“วางใจเถอะน้องหญิง คนพวกนี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”

เขาหันไปจับศีรษะของภรรยาแล้วโครงไปมาเล็กน้อยอย่างอ่อนโยนก่อนจะหยิบมีดสั้นที่ติดตัวออกมา

“จะ...เจ้าจะทำอะไร”

หลี่หลงฉายตกใจจนแทบหยุดหายใจ จังหวะที่นางกำลังหมุนกายวิ่งหนีกลับถูกชายหนุ่มกระชากผมอย่างแรงจนหน้าหงาย

กรี๊ด!

คุณหนูคนเล็กแห่งสกุลหลี่หวีดร้องด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น นางถูกตรึงไว้กับต้นไม้ใหญ่โดยที่สาวใช้ทั้งสองได้แต่ยืนกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าเข้าไปช่วยเจ้านายสาว ด้วยรักตัวกลัวตาย อีกทั้งปกติแล้วเจ้านายก็หาได้มีพระเดชพระคุณ มีแต่ความก้าวร้าวจิกหัวใช้ไม่เว้นแต่ละวัน น้ำใจที่สาวใช้ควรจะมีช่วยเหลือผู้เป็นนายจึงแห้งเหือดเสียยิ่งกว่าหนองน้ำในหน้าแล้ง

“ภรรยาของข้าตาบอด เจ้าคิดว่าข้าควรล้างแค้นให้ภรรยาของข้าด้วยวิธีใดดีเล่าคุณหนูหลี่หลงฉาย”

เขาพูดพลางจ่อปลายมีดลงไปที่ดวงตา หลงฉายกรีดร้องดังลั่นดิ้นแรงเมื่อคมมีดจิ้มลงมายังลูกตาดำ

กรี๊ด!

เสียงหวีดร้องโหยหวนราวกับกำลังเจ็บปวดเจียนตายดังขึ้นเมื่อลูกตาของนางถูกควักออกมาหนึ่งข้าง แม่ทัพจางกำลังจะควักอีกข้างทว่าภรรยาตาบอดกลับคลำทางเดินเข้ามาหาแล้วสวมกอดเขาไว้จากทางด้านหลัง

“พอได้แล้วเจ้าค่ะ เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว ข้าไม่อยากให้มือของท่านพี่ต้องเปื้อนเลือดใคร”

แม่ทัพจางหลับตานิ่งอย่างพยายามข่มอารมณ์โกรธก่อนจะดึงมีดสั้นออกจากดวงตาอีกข้างของหลี่หลงฉาย แล้วจึงผลักนางล้มคว่ำลงไปที่พื้น

“ไป!”

ในตอนท้ายของประโยคนั้นสั่นเครือจนริมฝีปากอวบอิ่มสั่นระริก สองมือเย็นชืด ใบหน้าซีดขาว นางมีท่าทางเป็นห่วงเขาจากใจจริงหาใช่เสแสร้ง และท่าทางเหล่านั้นทำให้หัวใจของแม่ทัพหนุ่มพองโตจนคับอก

“น้องหญิงเจ้าอย่าเพิ่งร้องไห้ตีโพยตีพายไปเลย คนพวกนั้นทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”

มือหนาประคองแก้มอิ่ม กัดฟันกรอดเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางยังเป็นรอยริ้วแดง

“มาเถอะเจ้าต้องทำแผล”

เขาพูดพลางจูงมือภรรยาสาวกลับเข้าไปในกระท่อมโดยไม่สนใจคำเตือนของหลี่ซินเหมยเลยแม้แต่น้อย นางจึงรั้งมือเขาเอาไว้

“ท่านพี่เจ้าคะ เรายังพอมีเวลา เราเร่งรีบเก็บข้าวของที่จำเป็นแล้วหลบหนีเข้าไปในป่ากันเถอะเจ้าค่ะ คนพวกนั้นอาจจะส่งคนออกตามล่าเราสักสิบวัน หากไม่เจอก็คงถอยร่นกันไปเอง ทางที่ดีเราควรเดินทางข้ามผ่านเทือกเขาฉิงลี่ เลาะเรียบไปตามริมแม่น้ำจิงเหอ ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่แคว้นเซี่ยโจวซึ่งอยู่ห่างไกลจากเมืองผิงฉีราวกับคนละฝาก”

ชายหนุ่มดึงร่างบางที่ร้อนรนกระวนกระวายจนสั่นไปหมดทั้งตัว ดูก็รู้ว่านางเป็นห่วงเขามากกว่าตัวเอง ลำพังตัวนางนั้นอย่างร้ายที่สุดบิดาก็คงจับกลับไปเลี้ยงไว้ที่จวนหรืออาจยกให้เป็นอนุภรรยาของใครสักคน แต่กับเขาประมุขหลี่ไม่มีทางไว้ชีวิตเพราะไปควักดวงตาของบุตรสาวคนเล็กที่เปรียบดั่งแก้วตาดวงใจ

“น้องหญิงดวงตาของเจ้าต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ข้าจะไม่เดินทางไปไหนทั้งนั้นจนกว่าข้าจะแน่ใจว่าการเดินทางจะไม่ทำให้ดวงตาของเจ้าได้รับความกระทบกระเทือน"

อันที่จริงนายกองหวงได้ส่งนกพิราบสื่อสารมาว่าองค์ฮ่องเต้ทรงจัดการเหล่าขุนนางกังฉินจนหมดสิ้นแล้ว จึงรับสั่งให้เขาเดินทางกลับไปเข้าเฝ้าเพื่อจะคืนตำแหน่งและเกียรติยศกลับคืนแก่เขาอย่างเร็วที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาตาหวาน (คลั่งหื่น)