ภรรยาตาหวาน (คลั่งหื่น) นิยาย บท 24

Chapter 24 แม่ทัพมัจจุราช

ทว่าดวงตาของภรรยายังเปราะบางนัก เขาได้เดินทางเข้าไปปรึกษากับหมอหลวงในเมือง ได้ความว่าต้องรอจนกว่านางจะเห็นแสงสว่างผุดขึ้นในความมืดเสียก่อน จึงจะสามารถเดินทางไกลได้

ซึ่งเวลานี้นางเริ่มมองเห็นรูปร่างคนและสิ่งของเป็นเงาดำๆ แล้ว ดังนั้นอีกไม่นานนางคงสามารถมองเห็นแสงสว่างได้ เมื่อนั้นเขาจึงจะพานางเดินทางกลับไปยังแคว้นหู่เฉียง และจัดงานแต่งงานอีกครั้งในฐานะภรรยาของแม่ทัพภาคจางจ้าวถาง

“เชื่อข้าเถอะนะเจ้าคะท่านพี่”

หญิงสาวร้องไห้โฮออกมา นางทนไม่ได้แน่หากสามีต้องตายตกเพียงเพราะเขาต้องการแก้แค้นให้กับความอยุติธรรมที่นางพบเจอ

สามีผู้ซึ่งเป็นนักโทษหนีคดี ไม่มีตระกูลใหญ่คอยหนุนหลัง มีหรือจะสู้คนของตระกูลพ่อค้าร่ำรวยถึงสองตระกูลได้

“น้องหญิงนั่งลงแล้วหายใจเข้าออกช้าๆ เจ้าต้องสงบจิตสงบใจลงเสียก่อน และเป็นเจ้าที่ต้องเชื่อใจข้า เชื่อข้าว่าจะไม่มีใครตัดหัวคนอย่างข้าได้ยกเว้นฮ่องเต้แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น”

“ตะ...แต่”

หญิงสาวยังคงสะอึกสะอื้นเขาจึงดึงนางมากอดแนบอก ยิ่งนางห่วงใยเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรักนาง เอ็นดูนาง และอยากจะปกป้องนางด้วยชีวิตและสองแขนของเขาตลอดไป

หลี่ซินเหมยสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหลายสิบชีวิตมุ่งตรงมายังกระท่อมหลังน้อย และแน่นอนว่าประสาทหูของแม่ทัพจางจ้าวถางก็มิได้ด้อยไปกว่ากัน

“ท่านพี่!”

มือเล็กจับแขนสามีเอาไว้แน่นด้วยความหวาดกลัว แต่เขากลับปลอบโยนนางอย่างใจเย็น

“ฟังข้านะน้องหญิง ไม่ว่าเจ้าได้ยินเสียงอะไรเจ้าห้ามลุกจากเก้าอี้ตัวนี้เป็นอันขาด ขอเวลาแค่เพียงหนึ่งก้านธูปเท่านั้นข้าจะกลับมาหาเจ้าแน่นอน เชื่อใจข้านะ...”

“เจ้าค่ะข้าเชื่อใจท่านพี่”

หญิงสาวพยักหน้ารับทั้งน้ำตา ทั้งที่ในใจนั้นหวาดหวั่น คิดไม่ออกเลยว่าสามีตัวคนเดียวจะสู้กับคนหลายสิบคนได้อย่างไร แต่ท่าทางที่ไม่หวาดหวั่นสะทกสะท้านของเขาก็ทำให้นางงุนงงจนไม่อาจหาคำตอบได้

แม่ทัพจางจ้าวถางดึงดาบยาวออกจากที่ซ่อนด้านหลังตู้ขนาดใหญ่ภายในกระท่อม ก่อนจะลากปลายดาบครูดไปกับผืนดินจนเป็นรอย ย่างสามขุมออกไปไกลจากตัวกระท่อมพอสมควร แต่ก็ไม่ไกลเกินไปหากว่าพวกมันตลบหลังเล่นงานหลี่ซินเหมยเขาก็จะสามารถเข้าไปช่วยนางได้ทัน

มองเห็นกลุ่มคนที่กำลังมุ่งหน้ามายังกระท่อมหลังเล็กด้วยความโกรธแค้นแล้วก็ถึงกับยิ้มมุมปาก

ฉายาของเขาคือ ‘แม่ทัพมัจจุราช’ ครั้งหนึ่งเขาเคยตกอยู่ในวงล้อมของศัตรูกว่าหลายร้อยคน ทุกคนล้วนเป็นทหารที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี แน่นอนว่าเขาจัดการส่งทหารฝ่ายตรงข้ามเหล่านั้นลงนรกไปจนหมดสิ้นจึงได้รับฉายานี้มา

“หากยังไม่หยุดข้าจะไม่บั่นแค่เส้นผม แต่จะบั่นคอพวกเจ้าให้ตายตกไปเช่นชายคนแรก”

แม่ทัพจางปักดาบลงกับพื้น เขาไม่ได้ต้องการเลือดเนื้อของคนพวกนี้ จึงตั้งใจบั่นคอชายคนแรกหวังจะให้หวาดกลัวและล่าถอยไป แต่เมื่อยังไม่หยุดก็ต้องสั่งสอนสถานเบาไล่ไปจนถึงสถานหนัก

“กะ...กลัวแล้วขอรับ ยะ...ยอมแล้ว”

ชายเหล่านั้นต่างทิ้งอาวุธอย่างรักตัวกลัวตาย พากันก้มคำนับโขกหน้าผากลงบนผืนดินอ้อนวอนร้องขอชีวิต ทว่าจางจ้าวถางหาได้ใส่ใจ เขาเดินผ่านพวกลูกสมุนด้อยฝีมือไปยังเจ้านายของมัน ที่กำลังนั่งหน้าซีดเผือดอยู่บนหลังม้า

“คารวะท่านพ่อตา”

ทันทีที่ชายหนุ่มทำการคารวะ ประมุขหลี่ก็ถึงกับหงายหลังกลิ้งตกจากหลังม้าด้วยความตกใจจนทำอะไรไม่ถูก คิดว่าคงตายด้วยคมดาบที่ยาวลากพื้นนั่นเสียแล้ว แต่เมื่อได้รับการทำความเคารพจากอีกฝ่าย เขาก็รีบลุกขึ้นแล้วส่งยิ้มแห้งๆ กลับไปอย่างเสียไม่ได้

“ละ...ลูกเขย”

“ส่วนท่านคงเป็นสามีของคุณหนูหลี่หลงฉาย เราต่างก็เป็นเขยสกุลหลี่ หวังว่าจะผูกมิตรกันได้”

เหยาเสียอี้แม้จะหวาดกลัวชายตรงหน้าแต่ก็กลั้นใจเชิดหน้าอย่างถือยศถือศักดิ์ ก่อนจะเค้นเสียงลอดไรฟันต่อว่าอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมจำนน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาตาหวาน (คลั่งหื่น)