ภรรยาที่(ไม่)รัก นิยาย บท 40

เช้าวันต่อมา..

"?" เดินออกมาทีแรกก็ตกใจที่เห็นมีรองเท้าผู้ชายวางอยู่ตรงประตูทางเข้าหน้าบ้าน แต่พอมองดูรองเท้าคู่นั้นจนแน่ใจหญิงสาวก็หันไปมองบ้านข้างๆ

อึบ! และเวลาใกล้เคียงกันก็ได้ยินเสียงนี้ลอยข้ามกำแพงไป ..ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร คงอยากให้คนรู้ว่าบ้านหลังนี้มีผู้ชายจะได้ปลอดภัย และเสียงที่ดังอึบก็คือเสียงที่เธอเขวี้ยงข้ามกำแพงกลับไป

"เราต้องเดินไกลหน่อยนะครับ" หญิงสาวคุยกับลูกน้อยที่อุ้มอยู่ เพราะนมผงของรามิลหมดแล้ว แถมร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยก็ไม่มีของพวกนี้ขายด้วย เธอต้องได้ต่อรถไปซื้อที่ห้างสรรพสินค้าอีก

เดินเกือบสิบนาทีก็มาถึงหน้าปากซอย แถวนี้ไม่มีแท็กซี่ให้เรียกเหมือนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เธอต้องรอรถประจำทางหรือไม่ก็วินมอเตอร์ไซค์ แต่ก็ยังมีรถอีกอย่างหนึ่งที่สโรชาชอบนั่งมาก นั่นก็คือรถตุ๊กๆ

ไม่ใช่แค่คนเป็นแม่หรอกที่ชอบ ลูกชายก็ชอบไม่ต่างกัน ออกมาซื้อนมทีไร รามิลตื่นเต้นมากที่ได้ยินเสียงรถตุ๊กๆ ที่เขานั่ง

"ไม่เอาครับไม่ดื้อ" หญิงสาวตำหนิลูกเบาๆ เมื่อขึ้นนั่งรถแล้วลูกไม่อยู่นิ่ง "รามิล!"

พอถูกแม่ตำหนิจากที่กำลังจะคว้านั่นจับนี่ก็หันมามองหน้าแม่

"โอ๋..... แม่ไม่ได้ว่าหนูสักหน่อยลูก" ถ้าเธอใช้เสียงนั้นคุยกับลูก เด็กน้อยชอบเบะแล้วก็มีน้ำตาไหลออกมา แต่มันก็หยุดความดื้อของลูกเธอได้แค่พักเดียว

[ห้างสรรพสินค้า]

พอมาถึงสโรชาก็ให้ลูกนั่งรถเข็นสำหรับใส่สินค้า ใกล้ที่จับรถเข็นจะมีที่สำหรับเด็กนั่ง

"บื้นนน" หญิงสาวทำเหมือนขับรถแล้วก็เข็นเร็วๆ

"ฮ้าาาา" เสียงรามิลขำเพราะเขาชอบแบบนี้มาก แต่เด็กน้อยไม่รู้หรอกว่าทุกสิ่งอย่างที่เขาชอบ มันต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยของแม่

วันนี้ที่ออกมาไม่ได้ซื้อแค่นมหรอก ยังมีผ้าอ้อมสำเร็จรูป เพราะตอนนี้ลูกชายใช้เปลืองมาก

ไหนๆ ก็ออกมาแล้วหญิงสาวก็เลยพาลูกไปเล่นที่แผนกเด็กเล่น แถวนั้นมีของน่ารักๆ สำหรับเด็กขายเยอะเลย

"เราซื้อไปเยอะไม่ได้นะครับ" ถึงแม้ลูกจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่เธอก็อยากพูดกับเขาให้มากที่สุด คนเป็นแม่ก็เลยซื้อเฉพาะของที่คิดว่าลูกจะเล่น

พอได้ทุกอย่างครบหญิงสาวก็ออกมาขึ้นตุ๊กๆ ที่จอดอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า

โชคดีหน่อยขากลับรถเข้าไปส่งถึงบ้าน ก็เลยไม่ต้องอุ้มลูกและหอบของพะรุงพะรัง

"เราปล่อยไว้แบบนี้จะดีเหรอคะคุณผู้หญิง" ที่จริงแล้วสโรชาไม่ได้พาลูกไปห้างสรรพสินค้าแค่เพียงลำพัง หลังรถที่เธอนั่งยังมีพ่อของลูกตามไป และก็ไม่ได้มีแค่นั้นยังมีคุณย่าของหลานอีกคันที่ตามไปห่างๆ

ที่นางต้องมาด้วยตัวเองในวันนี้ เพราะได้ยินคนที่ให้สังเกตการณ์รายงานไปว่า ลูกชายได้เจอกับลูกสะใภ้ของท่านแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกัน ลูกชายของท่านยืนอยู่หน้าบ้านเป็นชั่วโมงๆ ก่อนที่จะปีนรั้วกลับไป

"กลับ"

"อะไรนะคะ" แม่บ้านแปลกใจแค่ท่านยอมออกโรงมีหรือที่ลูกสะใภ้จะไม่ยอมกลับด้วย

"กลับกันเถอะ" คิดถึงหลานชายแทบใจจะขาดอยู่แล้ว แต่ก็อยากให้ลูกชายพยายามมากกว่านี้หน่อย และคิดว่าลูกสะใภ้ทำถูกแล้ว ถ้าคืนดีด้วยง่ายๆ ก็จะดูไม่มีค่าในตัวเอง

สโรชาไม่มีเวลาสังเกตสิ่งรอบข้างของตัวเองมากนักหรอก เพราะการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมันไม่ได้ง่ายเลย เวลาที่ลูกตื่นต้องคอยดูแลแบบใกล้ชิด เหมือนเมื่อวานนี้เธอคลาดสายตาแค่นิดเดียว เกือบทำให้ลูกเป็นอันตราย

หญิงสาวอยู่เล่นกับลูกจนเขานอนหลับ ถึงได้ออกมาหาอะไรกิน ตั้งแต่พาลูกมาอยู่กันสองคน แทบกินข้าวไม่ตรงเวลาสักมื้อ

และก็เหมือนทุกครั้งอีกนั่นแหละ เวลากินข้าวเธอก็ปั๊มน้ำนมไปด้วย นมที่ปั๊มไว้กินแทบจะวันต่อวัน เพราะรามิลไม่เข้าเต้าเธอก็เลยต้องได้ทำแบบนี้

อึก! ที่สำลักข้าวไม่ใช่เพราะว่ารีบกินเหมือนเมื่อวาน แต่พอตอนที่กำลังจะกลืนสายตาเธอมองไปดูบ้านข้างๆ ก็เห็นว่าคนที่เช่าอยู่บ้านหลังนั้นชะเง้อหน้ามองมา และเขาไม่ได้หลบสายตาเธอเหมือนทุกครั้ง

เช้าวันต่อมา..

"??" สโรชากำลังจะออกไปซื้อน้ำเพราะน้ำที่ซื้อทิ้งไว้หมดแล้ว แต่พอเปิดประตูก็เห็นน้ำวางอยู่หลายแพ็คเลย

ก็เลยหยิบเอาเข้ามาไม่กี่ขวดเพราะต้องได้ต้มน้ำร้อนไว้ให้ลูกอีก

คนที่จัดหาน้ำมาให้เริ่มมีรอยยิ้มเมื่อเธอยอมใช้ของที่เขาเตรียมมาให้

"คิดถึงย่าไหมครับ" เข้ามาถึงก็เห็นหลานชายกำลังเล่นของเล่นอยู่คนเดียว

"แกดื้อมากเลยค่ะต้องได้ปิดประตูห้องไว้" ที่จริงเธอแค่จะออกไปหยิบเอาของแต่ก็ไปเห็นรถท่านก่อน

"กลับบ้านเรานะลูก" พออุ้มหลานได้ พุดตาลก็หันไปพูดกับแม่ของหลาน

"คุณแม่ไม่โกรธหนูเหรอคะ"

"แม่จะโกรธหนูได้ยังไง แม่เองต่างหากที่ไม่น่าให้อภัย เลี้ยงลูกไม่ดี" นางหมายถึงรามสูรพ่อของหลาน ถ้าลูกชายของนางดีจริงเมียคงไม่หอบลูกหนี

สโรชาพยักหน้ายอมกลับไปกับท่าน เธอสงสารเพราะเห็นท่านอายุมากแล้ว คงแอบมาดูหลานบ่อยแล้วแน่เลย

"หนูยอมกลับกับแม่จริงเหรอ" พุดตาลคิดว่าตัวเองดูผิด

"ค่ะ..แต่ว่า.."

"แต่อะไรหนูบอกแม่มาได้เลย"

"แต่เรื่องของโรสกับ.."

"เรื่องนั้นแม่จะไม่ขอร้อง ให้หนูเป็นคนตัดสินใจเอง เพราะลูกชายของแม่มันไม่ดี"

"ขอบพระคุณมากนะคะคุณแม่" เธอกลัวว่าท่านจะขอร้องให้กลับไปหาลูกชายด้วย

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป.. นับจากตอนที่พุดตาลมาหาหลานและลูกสะใภ้

เครื่องปั่นอาหาร ผัก ผลไม้ อ่อนๆ สำหรับเด็กที่อายุถึง 6 เดือน ได้ถูกวางไว้โต๊ะหน้าบ้าน แล้วคนที่ไปจัดหามาก็เคาะประตูเบาๆ ก๊อก ก๊อก เพื่อส่งสัญญาณให้คนในบ้านได้รู้

ของที่เขาไปจัดหามา มันเป็นของที่ได้ยินเธอพูดกับลูกเมื่อคืนนี้ ว่าจะเตรียมให้แกเพราะอายุของแกก็พอที่จะทานอาหารอ่อนๆ ได้แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก