พิชญไพศาลกรุ๊ป
ภายในห้องทำงานของวายุที่บรรยากาศกระอักกระอ่วน ธาราธรกำลังยืนสำนึกผิดกับพี่ชายตัวเองเรื่องที่เขาได้แอบอ้างชื่อวายุในการยื่นขอเป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์เฮอเซน เพราะเขามั่นใจว่าถ้าเป็นชื่อพี่ชายอีกฝ่ายต้องตอบตกลงแน่ๆ
ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบตกลงจริงๆ แต่ดันตอบกลับมาตอนที่พี่เขากำลังดูงานของบริษัทในเมลเขาอยู่พอดี ทำให้วายุเห็นข้อความที่เขาตั้งใจจะปิดบังเอาไว้…
“พี่อย่าโกรธผมเลย ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ แค่ใช้ชื่อพี่นิดหน่อยเองแต่เรื่องค่าใช้จ่ายผมออกเองทั้งหมดอยู่แล้ว”
วายุกล่าวด้วยน้ำเสียงตักเตือน “ไม่ใช่ประเด็น”
ซึ่งมันก็ทำให้คนตรงหน้ารู้ได้ทันทีว่าที่พี่ชายเขาโกรธเป็นเพราะเรื่องอะไร “ทีหลังผมจะไม่คิดปลอมลายเซ็นพี่อีก”
พอวายุรู้ว่าธาราธรจะไม่บอกเขาเรื่องนี้ แสดงว่าเจ้าตัวก็จะต้องตั้งใจปลอมลายเซ็นของเขาแน่ๆ และต้องรู้ไว้ก่อนว่าลายเซ็นของวายุนั้นมีค่าขนาดไหน เผลอๆ เพียงแค่ลายเซ็นเดียวอาจส่งผลให้หลายบริษัทประเทศนี้สั่นคลอนเลยก็ว่าได้
ดังนั้นคำตอบของธาราธรจึงยังไม่ทำให้อารมณ์โกรธของวายุเบาลงได้ ซึ่งเจ้าตัวเองก็รู้ว่าพี่ชายเขายังไม่พอใจกับคำตอบนี้ จึงรีบเปลี่ยนเป็นคำตอบใหม่อย่างรวดเร็ว
“โอเคๆ ผมจะรีบลบความคิดนี้ออกจากสมองอันน้อยๆ นี้ของผมทันที”
เมื่อวายุได้ยินคำตอบที่พอใจ สีหน้าเข้มนั้นก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง จากนั้นพลันเอ่ยปากด้วยแววตาลุ่มลึก “อย่าแม้แต่จะคิดอีก”
“ครับๆ ไม่กล้าคิดแล้วครับ”
“ก็ดี”
“ถ้าอย่างนั้น…พี่ครับ ได้โปรดช่วยเซ็นชื่อลงบนเอกสารในไอแพดนี้ให้น้องชายตาดำๆ คนนี้ได้ไหมครับ” ธาราธรพูดด้วยน้ำเสียงวิงวอนขอร้อง ใบหน้าอ้อนวอนสุดฤทธิ์
ท่าทางเหมือนสุนัขจนตรอกแบบนี้ ธาราธรสัญญากับตัวเองเลยว่าจะไม่ให้ใครเห็นอย่างเด็ดขาด ไม่งั้นชื่อเสียงของเขาได้ป่นปี้แน่ๆ
แต่อย่างน้อยก็ต้องยกเว้นพี่ชายเขาไว้หนึ่งคน…
เพราะถ้าเป็นผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าจะสั่งให้เขาทำอะไร ต่อให้มันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงหรือน่าอับอายขนาดไหนเขาก็ยินดี และยินยอมพร้อมที่จะทำในทันที
ถึงแม้ว่าธาราธรกับวายุพวกเขาสองคนจะเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ผู้ชายคนนี้ก็น่ากลัวเกินไป เพราะเขาสามารถกำหนดคู่ชีวิตของธาราธรได้เลย
สรุปก็คือเขาไม่อยากให้พี่หาคู่ให้นั่นเอง!
เนื่องจากหกปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่พี่ชายเขาไม่ได้ติดต่อกลับไปหายี่หวาอีก ธาราธรก็ยังไม่เห็นวายุจะเคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย รวมถึงแม่ของลูกตัวเองด้วย ขนาดสั่งให้เขาไปร่วมลงทุนกับเฟมด์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เพื่อจ้างแมวมองไปทาบทามดาหลาให้มาเป็นดารา
เพียงแค่ต้องการให้ผู้หญิงคนนั้นปิดบังว่ามีลูกแล้ว…
“ไม่ไร้สาระสิครับ พี่ก็รู้ว่าชุดคอลเลคชั่นโอต์กูตูร์ ของแบรนด์เฮอเซนนี่เป็นแรร์ไอเทมขนาดไหน” ธาราธรพูดด้วยสีหน้าจนตรอก ซึ่งพี่ชายเขาก็ยังคงทำหน้าไร้ความรู้สึกเหมือนเดิม
ไม่รอช้าธาราธรรีบพูดเสริมขึ้นอีกว่า “ถ้าคุณป้าได้ใส่ชุดโอต์กูตูร์ของเฮอเซนออกงาน จะต้องโดดเด่นที่สุดในงานนั้นแน่ๆ”
“อยู่แล้ว”
ความหมายของวายุก็คือ ปกติแม่ของเขาก็เด่นอยู่แล้ว เป็นถึงคุณหญิงใหญ่ตระกูลพิทวัสชญวงศ์จะไม่เด่นได้ยังไง ซึ่งธาราธรก็เข้าใจความหมายที่วายุสื่อออกมาเป็นอย่างดี แต่เขาไม่สามารถยอมรับได้
“พี่จะไม่เปลี่ยนใจจริงๆ เหรอ”
หากยังมีหวังก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ เพราะการที่อีกฝ่ายจะตอบตกลง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ พี่เขาเป็นถึงนักธุรกิจชื่อดัง ทุกบริษัทในประเทศไทยรวมถึงต่างประเทศ ต่างก็อยากจะให้พี่มาร่วมลงทุนด้วย เพราะถ้าพี่เขาร่วมหุ้นกับบริษัทไหน บอกไว้ก่อนเลยว่าบริษัทนั้นจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าหลักล้านแน่นอน
เพราะงั้นอย่างน้อยๆ เรื่องนี้ก็ต้องให้พี่เขาได้ตัดสินใจ คิดไตร่ตรองดูอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นว่าคำตอบของวายุจะออกมาซ้ำเติม ธาราธรก็รีบพูดแทรกขึ้นอีก
“ยังมีเวลาให้พี่ได้ตัดสินใจอีกวัน ไว้พรุ่งนี้ผมจะมาเอาคำตอบใหม่” พูดจบ ธาราธรก็รีบเดินออกจากห้องไป ก่อนที่เขาจะโดนพี่ชายปฏิเสธอีกรอบ
ส่วนวายุนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะยังไงเรื่องนี้มันก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว อีกอย่างเขาไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์ตรงไหน เพียงแค่น้องชายตัวดีต้องการเอาใจสาวเท่านั้น
ไร้สาระสิ้นดี…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม