“สวัสดีจ้ะ” ยี่หวาก้มหน้าลงไปยิ้มให้กับเด็กน้อยทั้งหลายอย่างอ่อนโยน
“ตัวจริงพี่สวยกว่าในรูปอีกครับ” เด็กผู้ชายคนหนึ่งพูดพร้อมกับแววตาเปล่งประกาย ทำเอาเรนจิที่มองยี่หวาอยู่ถึงกับสีหน้าหมองคล้ำ
“ในรูป?” ยี่หวาถามออกไปพร้อมกับคิ้วขมวดเล็กน้อย
“นั่นไงครับ” เด็กน้อยชี้ไปตรงผนังกำแพงที่มีรูปยี่หวาติดไว้อยู่ ในรูปเธอใส่เสื้อโค้ตกันหนาวสีครีมยืนอยู่บนหิมะสีขาว พื้นหลังมองเห็นเทือกเขาแอลป์กำลังยิ้มให้กล้อง ถ้าจำไม่ผิดรูปนั้นเธอถ่ายเมื่อปีก่อนตอนไปเปิดบูติคที่วาดุซแล้วส่งให้แม่พิมพ์ดาวในไลน์ไม่ใช่เหรอ เพราะก่อนหน้านี้เธอโอนเงินไปให้มากกว่าปกติ แม่พิมพ์ดาวก็เลยโทรมาบ่นกลัวว่าเธอจะลำบาก ดังนั้นเธอก็เลยส่งรูปนี้ไปให้ดูว่าเธอสบายดี
“พี่สาวสวยมากจริงๆ ค่ะ โตขึ้นหนูอยากจะสวยและเก่งแบบพี่สาว” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
“หนูก็จะต้องตั้งใจเรียน โตไปจะได้เก่งๆ”
“เด็กๆ กลับไปเล่นได้แล้ว เดี๋ยวใกล้จะถึงเวลานอนกลางวันแล้วนะ” พิมพ์ดาวพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กๆ เอาแต่มาเกาะแกะยี่หวาจนลืมของเล่นที่เล่นเมื่อครู่เลย
“ครับ/ค่ะ” เด็กน้อยทั้งหลายตอบกลับด้วยความเสียดาย ทั้งที่พวกเขาอยากจะเล่นกับพี่สาวคนสวยก่อนแท้ๆ อุตส่าห์ได้เจอตัวจริงทั้งที หลังจากที่เห็นแต่รูปมานาน
เมื่อพิมพ์ดาวเห็นว่าเด็กๆ กลับไปเล่นแล้วก็พายี่หวามานั่งที่เก้าอี้ รวมถึงวายุและเรนจิด้วย “แล้วนี่ลูกมาที่นี่ได้ยังไง แม่คิดว่าจะไม่ได้เจอลูกแล้วเสียอีก”
“ตอนนี้ฝันย้ายมาอยู่ที่ไทยและยังไม่มีกำหนดกลับค่ะ เพราะตอนนี้งานที่ฝันทำอยู่เข้ามาเปิดที่ไทยแล้ว ก็เลยสามารถอยู่ที่นี่ได้ค่ะ แต่ก็อาจจะมีบินไปต่างประเทศบ่อยๆ เดี๋ยวอีกสามเดือนก็มีแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกค่ะ”
“เหนื่อยแย่เลยนะ ถึงยังไงร่างกายตัวเองก็สำคัญ อย่าทำงานมากจนลืมดูแลตัวเองล่ะ” พิมพ์ดาวพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองวายุกับเรนจิ “ว่าแต่นี่สามีกับลูกของลูกเหรอ จะว่าไปทำไมเด็กคนนี้ดูโตจัง”
“งั้นฝันขอแนะนำนะคะ คนนี้ก็คือคุณวายุค่ะ เป็นพ่อของเรนจิค่ะ ส่วนเด็กคนนี้ก็เหมือนกับลูกฝันเองค่ะ เป็นเด็กที่น่ารักเลยใช่ไหมคะ” ยี่หวาเลือกที่จะไม่ปฏิเสธแต่พูดแนะนำแบบอ้อมๆ ออกไป เพราะเธอไม่อยากทำร้ายจิตใจของเรนจิ
“น่ารักมากจริงๆ จริงสิ! สองสามวันก่อนแม่ตั้งใจจะทักไปถามพอดีว่าทำไมถึงโอนเงินมาให้อีกแล้ว เพราะเดือนนี้ตอนต้นเดือนลูกก็โอนมาให้แล้วไม่ใช่เหรอ”
“คือว่าหลายวันก่อนฝันมีถ่ายโฆษณาค่ะ เป็นงานแรกของฝันเลย ก็เลยอยากเอาเงินค่าจ้างให้กับน้องๆ ค่ะ เพราะฝันก็ไม่มีอะไรที่จะต้องซื้อแล้ว”
“ถ่ายโฆษณาทีได้ห้าแสนเลยเหรอ” พิมพ์ดาวถามออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่อยากจะเชื่อ การหาเงินดูเป็นเรื่องง่ายไปเลย
“ใช่ค่ะ ฝันก็ไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้ แค่ถ่ายไม่ถึงชั่วโมงเอง” ตอนที่เธอเห็นยอดที่เข้าใหม่ในบัญชีก็ตกใจไปแล้ว
“แล้วลูกไม่เก็บไว้ใช้บ้างเหรอ ถึงได้โอนมาให้ทั้งหมดแบบนี้ ทุกวันนี้เงินเก็บของที่นี่ก็เหลือเยอะมากแล้ว จนแม่ต้องเอาไปให้บ้านเด็กกำพร้าที่อื่นบ้าง” เพราะยี่หวาจะโอนเงินมาที่นี่ทุกวันที่หนึ่ง แถมยอดที่โอนมาก็ครั้งละห้าแสน ซึ่งก่อนหน้านี้ยี่หวาเคยโอนมาเป็นล้านแต่ก็ถูกพิมพ์ดาวบ่น จนในที่สุดก็เหลือเดือนละห้าแสน
“ที่ฝันมีก็ใช้ไม่หมดแล้วค่ะ แม่ไม่ต้องห่วง ดีซะอีกค่ะที่น้องๆ จะได้ไม่อด”
“พวกเราโชคดีจริงๆ ที่ได้เจอกับลูก” พิมพ์ดาวพูดพร้อมกับน้ำตาคลออย่างตื้นตันใจ เด็กคนนี้ช่างเป็นคนที่มีจิตใจเมตตามาก
“ฝันโชคดีกว่าที่ตอนนั้นได้มาอยู่ที่นี่” เพราะถ้ายี่หวาไม่ได้มาอยู่ที่นี่ เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องไปอยู่ที่ไหน แล้วจะได้เจอกับพีรพัฒน์หรือเปล่าก็ไม่รู้
หลังจากที่ยี่หวาคุยกับพิมพ์ดาวเสร็จ เธอก็ขอตัวกลับก่อน เพราะต้องไปอีกที่หนึ่งต่อ เธอจะต้องไปหาผู้มีพระคุณของเธอ ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้จะยังอยู่ไหม
ผ่านไปสักพักทั้งสามคนก็มาถึงอุทยานแห่งชาติซึ่งอยู่ห่างจากสถานสงเคราะห์ บ้านเด็กกำพร้ามาไม่ไกล ที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก เหมาะกับการพาเรนจิมาเที่ยวที่สุด
“ไม่ครับ เรนอยากอยู่กับหม่ามี๊”
“โอเคจ้ะ” จากนั้นยี่หวาก็เรียกเสือตัวนั้นอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้อยู่ๆ ก็มีเสียงตอบกลับมา เป็นเสียงที่ดังมากพอทำให้คนแถวนั้นตกใจ
เสียงขู่คำรามของสัตว์ป่า!
วายุที่ได้ยินเสียงดังนั้นก็รีบเดินเข้าไปจูงมือยี่หวา “อันตราย”
“ไม่เป็นไรค่ะ” แต่ยี่หวาก็ไม่ได้เดินไปใกล้ขอบรั้ว เธอยืนห่างออกมาจากเขตกั้นนิดหน่อยเพื่อความสบายใจของวายุ
สักพักสายตาเรนจิก็เหลือบไปเห็นสิ่งมีชีวิตในป่าอีกฝั่ง เขาไม่รอช้ารีบตะโกนออกมาทันที “หม่ามี๊ถอยไปอีกเร็วครับ มีเสือตัวใหญ่กำลังเดินมาทางนี้”
คราวนี้ยี่หวาส่งเรนจิให้วายุอุ้มต่อ ส่วนตัวเธอนั้นเดินไปหาเสือที่กำลังเดินออกมาจากป่า ยี่หวาย่อตัวลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น “จำฉันได้ไหม”
วินาทีนั้นคนที่อยู่แถวนั้นต่างก็อยากจะเข้าไปห้ามยี่หวา แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้เสือตัวนั้น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่คนเมื่อครู่ที่พอเห็นเสือก็ถอยหลังหนีทันที
ชาโคลจ้องไปที่หน้ายี่หวาผ่านรั้วกั้น ก่อนจะค่อยๆ นั่งลงแล้วนอนลงไปกับพื้น แสดงว่าเจ้านี่จำเธอได้สินะ จากนั้นยี่หวาก็เอื้อมมือไปแตะรั้วซึ่งเจ้าชาโคลก็ยื่นหน้าแล้วเลียไปที่มือเธออย่างสนิทสนม
“จำฉันได้จริงๆ สินะ คิดถึงจังเลย ไม่ได้เจอกันนานหลายปี ขอโทษนะที่ไม่ได้มาหาแกเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม