ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 96

ยี่หวาพยักหน้าอย่างว่าง่ายก่อนจะหันมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีคนเธอก็รีบพลิกตัวเอามือทั้งสองข้างจับที่ข้อมือของอีกฝ่ายแล้วชูขึ้นข้างบน จากนั้นก็ปล่อยมืออีกข้างแล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางแทงเข้าไปที่คอหอยจนอีกฝ่ายหมดสติร่วงลงไปนอนกับพื้น

ทำเอาโจเซฟที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ในรถตอนแรกถึงกับไม่กล้าเข้าไปทักทาย เพราะที่จริงแล้วเขาแค่ให้คนไปเชิญเธอมาที่รถก็แค่นั้นเอง แต่ดูเหมือนว่าวิธีการชวนของเขาจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่

สุดท้ายก็ต้องเป็นเขาที่เดินลงจากรถไปหาเธอเอง ซึ่งพอยี่หวาหันมาเห็นผู้ชายตรงหน้า ใบหน้าของเธอก็มีแต่ความเบื่อหน่าย เพราะเธออุตส่าห์คิดว่าชาตินี้จะไม่ต้องเจอผู้ชายคนนี้แล้ว

“ขอโทษแทนคนของผมด้วย แต่ผมไม่ได้มีเจตนาทำร้ายคุณเลยนะ ผมแค่ต้องการจะคุยกับคุณเท่านั้น”

นี่ขนาดไม่มีเจตนาทำร้าย เล่นเอาปืนมาจ่อที่เอวขนาดนี้ “แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ เพราะเราสองคนไม่รู้จักกัน”

“ผมรู้จักคุณ ผมมั่นใจ เราไปนั่งคุยที่ร้านอาหารใกล้ๆ นี้ก็ได้ คุณจะได้สบายใจด้วย”

“ฉันไม่สบายใจตั้งแต่โดนปืนจ่อที่เอวแล้วค่ะ”

“ผมขอโทษจริงๆ ผมขอเวลาคุยกับคุณไม่นาน”

“ก็ได้ ฉันให้เวลาคุณแค่ห้านาที เพราะฉันมีธุระที่ต้องไปทำต่อ แล้วก็ไม่ต้องเอาบอดี้การ์ดห้าหกคนข้างหลังไปด้วยล่ะ” เพราะยี่หวารู้ว่าผู้ชายคนนี้ชอบตื๊อขนาดไหนตั้งแต่คราวที่แล้ว ดังนั้นถ้าเธอไม่คุยให้มันจบๆ อีกฝ่ายก็คงไม่จบ

“ครับ เอาตามที่คุณสบายใจเลย”

จากนั้นทั้งสองคนก็มานั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในสุด ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นเธอ

“ผมดีใจที่เจอคุณอีกครั้ง เพราะตั้งแต่ที่คุณหนีผมไป ผมก็คิดถึงคุณมาตลอด”

“ฉันจำไม่ได้ว่าเคยเจอคุณ”

“คุณลองคิดดูให้ดีๆ สิ คุณอยู่กับผมตั้งหนึ่งเดือนเลยนะ”

“หนึ่งเดือน?”

“ใช่ งั้นผมขอเล่าเรื่องของคุณให้ฟังได้ไหม เผื่อว่าคุณจะจำผมได้บ้าง”

เมื่อเห็นว่ายี่หวาพยักหน้าโจเซฟก็เริ่มเล่า...

“ตอนนั้นผมอยู่บนเรือยอชต์ที่กำลังแล่นอยู่กลางทะเล ตอนนั้นเป็นช่วงเวลากลางคืนทำให้รอบๆ ไม่มีแสงสว่างอะไรมากนักนอกจากเรือของผม แต่อยู่ๆ ผมก็เห็นแสงจากที่ไกลๆ พอส่องกล้องไปก็เห็นเรือประมงลำหนึ่ง ตอนแรกผมก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าพวกเขาคงมาจับปลา แต่อยู่ๆ คนพวกนั้นก็ผลักผู้หญิงคนหนึ่งลงทะเล ซึ่งคนคนนั้นก็คือคุณ”

‘แกอยู่ไปก็เป็นมารชีวิตคนอื่นเสียเปล่าๆ’

‘จับมันโยนลงทะเลให้ตายไปเลย’

‘สวยซะเปล่าไม่น่ามาตายแบบนี้เลย’

ขณะที่ยี่หวากำลังฟัง อยู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายหลายคนลอยเข้ามาในหัวของเธอ จนยี่หวาต้องใช้มือทั้งสองข้างกุมขมับ

โจเซฟที่เห็นดังนั้นก็รีบลุกขึ้นมาดูเธอ แล้วถามออกไปด้วยความร้อนรน “คุณเป็นอะไร คุณปวดหัวเหรอ”

ยี่หวาส่ายหัวไปมาอย่างทรมานก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงสั่นๆ “เล่าต่อ…คุณเล่าต่อ”

แม้ว่าโจเซฟจะไม่เข้าใจแต่ถ้าเป็นความต้องการของอีกฝ่ายเขาก็จะยินดีที่จะทำตาม “พอคุณตกลงไปในน้ำผมก็รีบขับเรือไปทางที่คุณอยู่ทันที แต่กว่าผมกับเพื่อนจะช่วยคุณขึ้นมาได้คุณก็จมน้ำไปหลายนาทีแล้ว โชคดีที่เพื่อนผมคนหนึ่งเป็นหมอก็ช่วยปฐมพยาบาลให้คุณ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงคุณก็ไม่ฟื้นจนพวกผมต้องพาคุณส่งโรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นหมอบอกว่าคุณเกิดสภาวะสมองขาดออกซิเจน ทำให้ความจำเสื่อม แต่สุดท้ายผ่านไปสองอาทิตย์คุณก็ฟื้น และในเมื่อคุณจำอะไรไม่ได้เพราะงั้นผมก็เลยตั้งชื่อให้คุณใหม่ว่าเนียรที่แปลว่าน้ำ”

‘คุณใส่ชุดนี้สวยมากเลย’

‘ไม่ไปได้ไหม คุณไม่ไปจากผมได้ไหม’

‘คุณไม่ต้องจำใครได้ ขอแค่คุณจำผมได้ก็พอ’

‘ผมสัญญาว่าจะดูแลคุณตลอดไป’

หลังจากฟังจบอาการของยี่หวาก็แย่ลงเรื่อยๆ ตอนนี้มีเสียงอะไรไม่รู้ดังอยู่ในหัวเธอเต็มไปหมด จนในที่สุดยี่หวาก็ทนต่อเสียงในหัวไม่ไหวหมดสติไปทันที…

5 ปีที่แล้ว

ยี่หวาลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ข้างกายมีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีน้ำตาลเข้ม หน้าม้ายาวเลยตาลงมาทำให้ดูนุ่มนวล บวกกับใบหน้าคมๆ ทำให้ดูหล่อแบบเจ้าเล่ห์ ว่าแต่ผู้ชายคนนี้เป็นใคร

หลังจากที่ทั้งสองคนกลับมาถึงบ้านโจเซฟก็ให้ยี่หวาได้พักผ่อน ส่วนเขาก็ออกไปทำกิจกรรมยามดึกตามประสาวัยรุ่น

ตกกลางคืนยี่หวาที่ตื่นมากินน้ำก็เห็นว่าโจเซฟกำลังกอดจูบกับผู้หญิงอยู่หน้าประตูบ้าน ซึ่งพอเขาหันมาเห็นเธอก็โอบไหล่ผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในห้อง ยังดีที่เขายังให้เกียรติเธอบ้างแม้ว่าเธอจะเป็นแค่ผู้อาศัยก็เถอะ

ในทุกวันโจเซฟจะดูแลยี่หวาดีมากทั้งพาออกไปทานข้าว ช้อปปิ้ง แต่พอตกดึกเขาก็มักจะพาผู้หญิงมาที่บ้านไม่ซ้ำหน้าเสมอ จนยี่หวาชินแล้ว ซึ่งพอช่วงหลังๆ มานี้ก็ทำให้โจเซฟรู้สึกไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่รู้สึกอะไรเลย ทั้งที่เขาจูบผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเธอ

เช้าวันต่อมาโจเซฟตั้งใจจะคุยกับยี่หวาให้แน่ชัดจึงเรียกเธอมาคุยในสวน “เนียร คุณไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอที่ผมพาผู้หญิงมาที่บ้านทุกวัน”

“ไม่ค่ะ อีกอย่างฉันจะไปมีสิทธิ์รู้สึกอะไรได้ล่ะคะ ฉันเป็นแค่ผู้อาศัยนะ” แค่สิทธิ์ที่จะรู้สึกรังเกียจยังไม่มีเลย

“แล้วถ้าผมให้สิทธิ์นั้นกับคุณล่ะ”

หมายความว่าเขาจะให้เธอเป็นมากกว่าผู้อาศัยอย่างนั้นเหรอ “อย่าดีกว่าค่ะ สถานะผู้อาศัยตอนนี้ฉันพอใจมากแล้ว ถ้าความจำฉันกลับมาเมื่อไหร่เดี๋ยวฉันก็ต้องไปจากคุณอยู่ดี”

“ไม่ไปได้ไหม คุณไม่ไปจากผมได้ไหม”

“ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันยังมีครอบครัวที่ฉันต้องกลับไปหา ทำไมฉันถึงยังจำอะไรไม่ได้สักทีนะ อุตส่าห์ไปหาหมอเกือบทุกวันแท้ๆ”

“คุณไม่ต้องจำใครได้ ขอแค่คุณจำผมได้ก็พอ”

“เห็นแก่ตัวจัง อย่างน้อยก็ขอให้ฉันจำตัวเองได้เถอะ”

เมื่อโจเซฟเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่รู้ถึงความรู้สึกของเขา จึงเอื้อมมือไปจับมือเธอทั้งสองข้าง “ถ้าคุณจำได้อย่าไปจากผมเลยนะ ผมสัญญาว่าจะดูแลคุณตลอดไป”

“คุณไม่ได้รักฉันใช่ไหม?”

“ผมรักคุณ ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ช่วงหลังๆ มานี้ผมรู้สึกหงุดหงิดมากที่คุณมองผมด้วยสายตาเรียบเฉยทั้งที่ผมจูบกับผู้หญิงคนอื่น ผมอยากให้คุณหึงผม หวงผมบ้าง”

“แต่ฉันจำอะไรไม่ได้ ฉันรับรักคุณไม่ได้หรอก” เพราะไม่แน่ว่าบางทีเธออาจจะมีแฟนอยู่แล้วก็ได้

“ถ้าอย่างนั้นผมจะรอ รอกว่าความทรงจำคุณจะกลับมา คุณให้โอกาสผมได้ไหม”

“ถ้าเกิดว่าความทรงจำฉันกลับมาแล้วฉันรู้สึกดีกับคุณ ฉันจะรับรักคุณค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม