ผูกรักท่านประธานพันล้าน นิยาย บท 231

หลังจากที่เกาจ้านทำให้เธอโกรธ เซิ่งอันหรานก็กลับไปที่บริษัทและทำOTตอนกลางคืน เช้าวันรุ่งขึ้น ในขณะที่เธอนั่งหาวสองสามครั้งติดกัน กู่เจ๋อเรียกเธอไปทานอาหารเช้านอกบ้าน

ที่แผงขายอาหารเช้าเวลา 7:30 น. ยังไม่ถึงเวลาที่พีคที่สุดสำหรับการซื้ออาหารเช้า แม้ว่าจะถึงเวลานั้นแล้ว แต่ก็ไม่มีใครมานั่งกินอาหารเช้าอย่าเอื่อยเฉื่อยสบายใจเหมือนอย่างกู่เจ๋อและ เซิ่งอันหราน

เมื่อเห็นท่าทางเหม่อลอยของเธอ กู่เจ๋อก็วางไข่ที่ปอกเปลือกแล้วใส่ลงในจานเล็กๆ ตรงหน้าเธอ

“เหนื่อยมากขนาดนั้นเลย ? หรือว่าเมื่อคืนจะนอนไม่หลับ ?”

"ไม่ได้นอนต่างหาก" เซิ่งอันหรานโบกมือแล้วหาวอีกครั้ง "ฉันผล็อยหลับไปช่วงหนึ่งประมาณตอนตีห้า แต่สภาพสำนักงานดูแย่เกินไป โซฟาก็นอนได้ไม่ค่อยสบาย อันที่จริงฉันตื่นขึ้นมาก่อนหน้าที่คุณโทรหาฉันแล้ว "

"ในการเริ่มต้นทำธุรกิจจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่จำเป็นต้องหักโหมเกินไปในตอนเริ่มต้น "

กู่เจ๋อมีประสบการณ์ตรงในด้านนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงสามารถให้คำแนะนำด้วยคำพูดที่จริงจังได้

เซิ่งอันหรานกลับดูเหมือนจะไม่ได้รับฟังอย่างตั้งใจ ดูเธอกลับซึมลงมากกว่าเดิม

“จะว่าไปแล้ว เมื่อ 5 ปีที่ก่อน ตอนที่ฉันเป็นพนักงานทำความสะอาดในบริษัทของคุณ น้อยมากที่จะไม่เห็นคุณทำงานล่วงเวลา ไม่สิ ไม่มีวันไหนเลยที่คุณไม่ทำงานล่วงเวลาเลยต่างหาก ไฟในห้องทำงานของเจ้านายเปิดตลอดทั้งคืน ตอนนั้นพวกเรายังแอบคิดกันว่า คุณอาจจะ เป็นหุ่นยนต์ก็ได้”

"หุ่นยนต์ก็ต้องชาร์จพลังงาน"

กู่เจ๋อยิ้ม เขาไม่โกรธแม้ว่าเธอจะพูดถึงเรื่องเก่าๆ

“ยิ่งไปกว่านั้น คุณก็ได้เห็นตัวอย่างการใช้ชีวิตเชิงลบแล้ว ไม่ใช่เหรอ ?การงานหนักแต่สุดท้ายมันก็ขาดทุนยับ และบริษัทก็เกือบล้มละลาย หากว่าคุณช่วยไว้ไม่ทันเวลา เกรงว่าป่านนี้ผมอาจจะนอนอยู่ตามสถานีรถไฟใต้ดินในอเมริกาไปแล้ว "

"ถ้าเป็นอย่างงั้น สถานีรถไฟใต้ดินในอเมริกาคงเป็นสถานที่ที่วิเศษ เพราะมันสามารถซ่อนคนมีความสามารถอย่างคุณไว้ "

เซิ่งอันหรานก้มหน้าดื่มนมถั่วเหลือง แม้ว่าเธอจะอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ก็ยังสามารถพูดล้อเล่นได้ "หรือว่าจะให้ฉันลองไปที่นั่นดู แล้วมาดูกันสิว่าจะสามารถหาวอร์เรน บัฟเฟตต์เจอสักสองสามคนไหม"

“ยังพูดล้อเล่นอยู่ได้ แปลว่าอารมณ์เสียยังไม่ถึงขีดสุด”กู่เจ๋อมองเธอด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น “คุณทำไมถึงไม่ถาม ว่าผมมาหาคุณแต่เช้ามีเรื่อง ?”

“ทำไมเหรอ ?” เซิ่งอันหรานถามอย่างไม่แยแส

กู่เจ๋อไม่ได้สนใจท่าทีที่ไม่แยแสของเซิ่งอันหราน เขาพูดขึ้นด้วยท่าทางที่สงบว่า "ผมเห็นคุณใช้เวลาช่วงนี้เอาแต่อยู่เป็นเพื่อนกับถานซูจิ้ง ไหนๆภายในสองวันนี้ซูจิ้งก็จะต้องกลับไปอเมริกาพร้อมกับผมแล้ว ถึงตอนนั้นคุณอยากจะเจอเธอ ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆแล้ว"

"อะไรนะ ?"

เซิ่งอันหรานรู้สึกตกใจ “คุณจะพาซูจิ้งกลับไปที่อเมริกาด้วย? ใครเห็นด้วยกับคุณล่ะ? ”

“ก็ไม่เชิงว่าเห็นด้วยหรอก เพราะแฟนของเธอมาหาผม และถามผมว่า ผมสามารถช่วยเธอได้ไหม”

สีหน้าของเซิ่งอันหรานยิ่งดูแปลกใจเข้าไปใหญ่

“เกาจ้านเป็นคนติดต่อคุณ เขาตัดสินใจส่งซูจิ้ง ไปเข้ารับการรักษาตัวที่อเมริกาแล้ว ?”

"อืม"

หลังจากได้รับคำตอบเช่นนี้แล้ว เซิ่งอันหรานก็พูดไม่ออก

นี่ไม่ใช่เป็นการกลับคำพูดเหรอ? เดิมที่เธอรู้สึกว่าเขาไม่ได้เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ปฏิกิริยาของเขาดูรุนแรง ทัศนคติของเขาไม่ดี หลังจากที่ดุด่าว่าเขาไปแล้วหนึ่งรอบ เขาก็เลยมาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง ? คนแบบนี้ก็ต้องเจอด่าก่อน ถึงจะรู้สึก ?

"จะไปเมื่อไหร่ ?"

หลังจากที่สงบสติอารมณ์ลง เซิ่งอันหรานก็ถามด้วยท่าทางจริงจัง

“สิ้นเดือน”กู่เจ๋ออธิบาย “ให้เวลาคุณได้บอกลาซูจิ้งสักพัก ”

“ให้ฉันเหรอ ? ฉันเกรงว่าบางคนอาจจะไม่เหลือเวลาให้ฉันได้ลาซูจิ้งเลยซะมากกว่า ” เซิ่งอันหรานใช้ปากฉีกไข่ ด้วยใบหน้าที่สงบ

“ใคร ?เกาจ้าน ?”กู่เจ๋อหัวเราะเยาะ “ถ้าอย่างนั้นคุณก็คิดมากเกินไป เพราะเขาวางแผนจะไปกับ ซูจิ้งด้วย ”

“ห๊ะ?” คราวนี้ เซิ่งอันหรานตกใจมาก ตกใจจนอ้าปากค้าง “คุณพูดจริงเหรอ ?”

“แน่นอน ไม่อย่างนั้นทำไมเขาจะต้องมาหาผมด้วยตัวเองล่ะ? เพราะสิ่งสำคัญคือเขาต้องถามว่าโรงพยาบาลจิตเวชที่ผมติดต่อไป สามารถอยู่เป็นครอบครัวได้ไหม”

“เขายังวางแผนที่จะคอยอยู่ดูแลเธอที่โรงพยาบาล?”

ตอนนั้น ในขณะที่เธออยู่ที่บ้านของเกาจ้าน เธอเห็นเขาโกรธจัดต่อหน้าต่อตาเธอ โดยบอกว่าโรงพยาบาลจิตเวชและศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายไม่ใช่ที่ที่ผู้คนอาศัยอยู่ ถ้าคนปกติเข้าไปอยู่ก็สามารถกลายเป็นบ้าได้

ตอนที่ผลสรุปออกมา บางคนก็ดีใจ บางคนก็รู้สึกกังวล หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม อวี้หนานเฉิงไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเดินออกจากห้องประชุมและออกจากบริษัททันที ไม่มีเวลาให้เกาจ้านได้พูดคุยแม้แต่คำเดียว

เกาจ้านรีบเดินตามโจวฟังที่กำลังยุ่ง

“เกิดอะไรขึ้น ?ทำไมจู่ๆ ถึงได้พูดถึงเรื่องการให้พ้นตำแหน่งล่ะ ?”

โจวฟังถอนหายใจ "ก็เรื่องโครงการกวางโจวหายไปก่อนหน้านี้ ทำให้ประธานอวี้ไม่พอใจ พอคณะกรรมการได้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง โดยบอกว่าผู้จัดการมืออาชีพทำงานได้เป็นมืออาชีพมากกว่าท่านประธาน และต้องการอยากจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ไม่ให้อยู่ในรูปแบบของธุรกิจครอบครัว เลยพูดถึงเรื่องการให้พ้นจากตำแหน่งขึ้นในครั้งนี้ "

“แล้ว ตอนนี้พี่เฉิงอยู่ที่ไหน ?”

"ผมคิดว่าน่าจะกลับไปที่บ้านเก่าแก่ของตระกูลอวี้ "

โจวฟังถือเอกสารในมือ "คุณเกา ผมยังต้องไปขับรถให้ท่านประธาน อยู่พูดกับคุณมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว "

หลังจากพูดจบ เขาก็รีบเดินตามอวี้หนานเฉิงไป

รถมาหยุดอยู่ที่ประตูบ้านเก่าแก่ของตระกลูอวี้ในชั่วในพริบตา

ความเย็นจากร่างกายของอวี้หนานเฉิง ถูกลดลงในทันทีที่เขาเข้าไปในห้องหนังสือของชายชรา อุณหภูมิห้องลดลงหลายองศา

“คุณปู่ คุณปู่เห็นด้วยกับแผนของผู้จัดการมืออาชีพ?”

“ใช่ มีปัญหาอะไรไหม ?” ชายชรากำลังฝึกคัดลายมือ สีหน้าของเขาดูสงบเป็นอย่างมาก

"ไม่มีปัญหา" ใบหน้าของอวี้หนานเฉิงดูเหมือนไม่ค่อยพอใจ "แต่คุณปู่ให้อวี้ฉีเฟิง มานั่งในตำแหน่งผู้จัดการมืออาชีพ มันหมายความว่าอย่างไร คุณปู่ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว ไปแล้วหรือ?"

เมื่อกล่าวถึงเรื่องเมื่อสามปีที่แล้ว ใบหน้าของชายชราก็ดูซีดลงทันใด

ประจวบเหมาะกับ ทางด้านนอกมีเสียงเอะอะคึกคัก "จิ่งซี รอฉันก่อน อย่าวิ่งเร็วนักสิ"

แต่ไม่มีเสียงตอบกลับจากจิ่งซี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน