เทียนเอินหายใจเข้าลึกๆ ราวกับว่าผลลัพธ์เรื่องนี้มันไม่ค่อยดี เขาพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างจริงจัง
“เรื่องนี้ผมจะไปกว่างโจวเพื่อสืบดูให้ชัดเจนอีกที”
“ไม่รีบ” “เซิ่งอันหรานมองเขา ยิ่งวิตกกังวลยิ่งผิดพลาดได้ง่าย ครั้งนี้เราจะต้องไม่พลาดทุกรายละเอียด”
“ผมรู้”
เทียนเอินรู้สึกขายหน้ามาก สีหน้าของเขาบูดบึ้ง และพึมพำว่า “หากตรวจสอบเรื่องนี้อย่างชัดเจน ผมยังจะมีหน้าไปที่ไหนได้อีก”
“ทำไม ? รู้สึกเสียใจกับตำแหน่งนักสืบอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยการรักษาความปลอดภัยสาธารณะ ?”
เซิ่งอันหรานพูดติดตลก
กู้เทียนเอินมองด้วยความประหลาดใจ หน้าแดงขึ้น และพูดอย่างเขินอายว่า “ทำไมคุณถึงรู้เรื่องนี้.........”
ฉายานักสืบสร้างมาเพื่อความสนุกในหมู่เพื่อน ตัวเขาเองรู้สึกว่ามันเป็นฉายาที่พิเศษ ดังนั้นจึงห้ามไม่ให้รุ่นน้องของเขาเรียกตัวเขาแบบนั้น อย่างไรก็ตามที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นก็มีการต่อต้าน ไม่เป็นไรหรอก หลังจากที่เขาสั่งห้ามแบบนี้ คนรุ่นหลังก็ตะโกนเรียกอย่างมีความสุขมากขึ้น
ต่อมาแม้แต่ครู่ในโรงเรียนก็เรียกตาม
ว่าแต่เซิ่งอันหรานรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ?
เซิ่งอันหรานยิ้ม “ยากมากเหรอ ? ฉันเพิ่งนั่งรถของคุณมา และหลายคนบนถนนก็ชี้มาทางนี้ คุณไม่ได้ยินเหรอ มีคนเรียกคุณแบบนี้”
กู้เทียนเอินเอามือปิดหน้าตัวเอง และมีความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ถูก
น่าอายเกินไปแล้ว
เดิมทีเซิ่งอันหรานชอบคิดว่าเขาเป็นเด็ก มีฉายารองอยู่แบบนี้ นี่ยิ่งไม่คิดว่าเขาไร้เดียงสาเหรอ ?
“นี่ค่ะ คาราเมลมัคคิอาโต้สองแก้ว”
‘ปัง’ กระถางกระแทกลงบนโต๊ะ ขัดจังหวะความเขินอายในตอนนี้
เด็กหญิงตัวเล็กที่เพิ่งทะเลาะกับเทียนเอินพูดขึ้นด้วยความโกรธ “อยู่ที่นี่อย่าแสร้งเป็นอายเลย ยังแสร้งทำเป็นอายแบบนี้ มันน่าขยะแขยงนะ ?”
หลังจากพูดจบ เด็กสาวก็ดึงถาดแล้วเดินจากไป
“เห้ ใครเขินอายกัน ? ”กู้เทียนเอินเรียกเธอให้หยุด และพูดอย่างโกรธเคือง
“คุณตาบอดเหรอ ? ผมนี่นะที่อาย ?”
“ฉันตาบอด ? ฉันว่าคนอื่นต่างหากที่ตาบอด”
เด็กสาวหันกลับมา แล้วมองเซิ่งอันหรานด้วยความโกรธ
“คุณผู้หญิงท่านี้ คุณยังไม่รู้สินะ กู้เทียนเอินเป็นดอกไม้งามผู้โด่งดังของมหาลัยพวกเรา และด้วยตำแหน่งนี้ เขาไม่รู้ว่าเขาพาพวกผู้หญิง คุณป้าตั้งมากมายเท่าไหร่เอาชานมมาให้เขา และทุกครั้งก็จะเป็นคาราเมลมัคคิอาโต้สองแก้วเสมอ”
“เห้ ทำไมคุณถึงพูดอะไรไร้สาระ ? สีหน้าของกู้เทียนเอินเปลี่ยนไป”
เซิ่งอันหรานสงบมาก เธอหันกลับมายิ้มให้เด็กสาวแล้วพูดว่า “จริงเหรอ ? เขาไม่ปล่อยแม้แต่พวกป้าๆเลยเหรอ นี่มันคลั่งไคล้เกินไปแล้ว”
“เปล่าหรอก ก็แค่คนวิกลจริตและบ้าก็เท่านั้น” สีหน้าของเด็กสาวเป็นปกติ “ดังนั้นพี่สาวคุณห้ามถูกเขาหลอกนะคะ คนอย่างเขาเป็นคนที่มีจิตใจเมตตาทุกที่.........”
“ไม่ใช่......”.กู้เทียนเอินเกือบหัวเราะ “เย่จื่อ ถ้าคุณใช้ทักษะนี้มาเพื่อกิจการค้าขายชานมของที่บ้านคุณจะต้องกลายเป็นผู้ค้ารายใหญ่แน่นอน”
“ฉันพูดความจริง เด็กสาวยังตัวเล็กยังคงทำท่าทางที่เด็ดขาด”
“ขอบคุณที่เตือนฉันนะ แต่ว่าฉันก็เป็นเพียงแค่พี่สาวเขา”
เซิ่งอันหรานกะพริบตา แล้วอธิบายสถานะของตัวเอง
เด็กสาวตกใจ สีหน้าเธอตกตะลึง “พี่สาว ? พี่สาวแท้ๆเหรอ ?”
กู้เทียนเอินมองดูเธออย่างว่างเปล่า
“ไม่ใช่พี่สาวแท้ๆ แต่ดีกว่าพี่สาวแท้ๆ”
“จริงเหรอ ?” ทันใดนั้นเด็กสาวรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ราวกับว่าผลลัพธ์นี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง และทุกอย่างมันเหนือการคาดเดาของเธอ
กู้เทียนเอินสูดหายใจเข้า ราวกับว่าสาขาวิชานี้มีเงื่อนงำอะไร
“พี่ คุณรู้จักกลุ่มนกอินทรีน้ำเงินของมหาลัยพวกผมไหม ?”
“นกอินทรีสีน้ำเงิน ?” เซิ่งอันหรานลังเลสักครู่ และตอบอย่างลังเลว่า “เคยได้ยินมานิดหน่อยว่า กลุ่มนอกอินทรย์น้ำเงินนี้มีเพื่อฝึกฝนคนที่มีความสามารถพิเศษให้กับกองทัพ”
“ใช่” กู้เทียนเอินพยักหน้าอย่างจริงจัง “ความสามารถพิเศษของบุคคลนี้สามารถระบุได้โดยตรงว่าเป็นทหารพิเศษ ในอนาคตพวกเขาจะถูกส่งไปยังชายแดนและสนามรบ พวกเขาถูกควบคุมโดยโรงเรียนอย่างเคร่งครัด แม้แต่การตกหลุมรักก็ยังเป็นถือว่าละเมิดกฎของโรงเรียน แต่หากอาสาเข้าร่วมการแข่งขันของโรงเรียนและเข้าสู่กลุ่มนกอินทรีสีน้ำเงิน ก็จะต้องเตรียมตัวมานานแล้ว แล้วเธอจะไปชอบใครได้อย่างไร ?”
“คุณหมายความว่าอย่างไร ? หญิงสาวเมื่อครู่นี้เธอเป็นคนของกลุ่มอินทรีย์น้ำเงิน ?”
เมื่อเห็นเทียนเอินพยักหน้า เซิ่งอันหรานก็ยังคงรู้สึกเหลือเชื่ออยู่
เด็กสาวตัวเล็กที่ชื่อเย่จื่อมองดูสูงเพียงหกเมตรกว่า ผิวขาว ผอมบาง และเธอก็ยังมีความเป็นธรรมชาติและน่ารัก เธอคนนี้จะตกเป็นเป้าการฝึกของหน่วยรบพิเศษได้อย่างไร ?
“ผลงานการยิงเป้าของเธอไร้เทียมทานตั้งแต่เธอเข้าโรงเรียนในปีแรกของเธอ เธอสามารถต่อสู้กับผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่สิบคนด้วยมือเปล่า เธอเป็นคนวิกลจริตทันทีที่เธอเข้าสู่สนามฝึก หลายปีมานี้มีคู่ต่อสู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเธอไม่หลายพันคนก็เป็นหลายร้อยคน ไม่มีหรอกคนที่ขยันขันแข็งอย่างนี้หรอกที่ฝึกแบบนี้นะน้องสาว อย่าดูถูกเธอที่ตัวเล็ก เธอแข็งแกร่งมาก ผมรับไม่ได้หรอก”
สายตาและสีหน้าของเทียนเอินเปลี่ยนเป็นความรังเกียจ เซิ่งอันหรานยิ่งรู้สึกประหลาดใจ
“ถ้างั้นคุณชอบผู้หญิงแบบไหนล่ะ ให้ฉันแนะนำให้ไหม ? เมื่อก่อนหญิงสาวมากมายในโรงแรมล้วนชอบคุณ ถ้าคุณไม่รังเกียจอายุที่เยอะล่ะก็ ผู้หญิงที่สวยๆก็มีอยู่เยอะนะ”
“ผมไม่ได้รังเกียจเรื่องอายุหรอก”
กู้เทียนเอินเอนหลังพิงเก้าอี้ครุ่นคิด แต่กลับไม่กล้ามองไปยังดวงตาที่เฉียบคมของเซิ่งอันหราน เสียงของเขาเบาลง
“ผมชอบผู้หญิงที่สุภาพ อ่อนโยนต่อครอบครัวและคนภายนอก จิตใจดี แต่ไม่อ่อนน้อมถ่อมตนเกินไป เป็นคนที่แข็งแกร่งจิตใจดี”
“มีคนแบบนี้ด้วยเหรอ ?” เซิ่งอันหรานไม่รู้ว่าเพราะอะไร
“มี อีกทั้งยังชอบปลอกแอปเปิลให้ผม ดูแลผม ซื้อขนมมาให้ผม และเป็นห่วงสภาพความเป็นอยู่ของผม......”
เซิ่งอันหรานจ้องกู้เทียนเอินอย่างเคร่งขรึม แล้วพูดอย่างจริงจังว่า
“คุณไม่ได้พูดถึงแม่ของคุณใช่ไหม ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน