"ไม่มี"
อวี้หนานเฉิงปฏิเสธ
แต่เซิ่งอันหรานกลับรู้สึกได้ชัดเจนว่ามือของเธอกำลังถูกเขาบดขยี้
“คุณแน่ใจนะว่า จะเข้าไปจริงๆ? หรือไม่ก็ช่างมันเถอะน่า ”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว” อวี้หนานเฉิงจับไหล่ของเธอ “ไปกันเถอะ”
เซิ่งอันหรานรู้สึกสงสัย แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธต่อการกระทำของเขาได้ เธอลังเลอยู่สักพัก ก่อนที่จะพยักหน้า
“งั้น ก็ได้ เข้าไปเถอะ”
บ้านผีสิงมีขนาดไม่ใหญ่มาก สิบนาทีต่อมา ทั้งสองคนก็ออกมาจากบ้านผีสิงด้วยใบหน้าซีดเซียว
อวี้หนานเฉิงยืนพยุงตัวกับถังขยะด้วยท่าทางราวกับจะอาเจียน
ส่วนเซิ่งอันหรานที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง ขยี้หูขยี้ตา เธอตกใจกับอวี้หนานเฉิงเป็นอย่างมาก
"คุณโอเคไหม?"
หลังจากสงบลง เซิ่งอันหรานก็เดินไปข้างหน้าและตบไหล่ของอวี้หนานเฉิงเบาๆ ทันทีที่เธอแตะลงบนไหล่ของเขา เขาก็ยืดตัวขึ้น สายตาของเขายังคงมีความตื่นตระหนกเมื่อมองไปที่เซิ่งอันหราน
“นี่” เซิ่งอันหรานอดขำไม่ได้จริงๆ เธอหัวเราะออกมาเสียงดัง “ทำไมคุณถึงได้ดูกลัวขนาดนั้นล่ะ?”
"ผมไม่ได้กลัว"
อวี้หนานเฉิงปกปิดสายตาสยดสยองนัยน์ดวงตาของเขา พร้อมกับกัดฟันและกล่าวขึ้นว่า "มันน่าขยะแขยงต่างหาก"
มันก็ดูสมเหตุสมผลอย่างที่เขาพูด ซอมบี้ดูน่าขยะแขยงจริงๆ การแต่งหน้าแบบสเปเชียลเอฟเฟกต์ก็ดูสมจริงสมจังมาก แต่ทว่าวิธีการคำรามกรีดร้องอวี้หนานเฉิงตอนที่อยู่ในบ้านผีสิงนั้น มันดูน่ากลัวจนขนาดซอมบี้ยังไม่กล้าแม้แต่จะเข้ามาใกล้ๆ
มันน่าขยะแขยงขนาดนั้นเชียวเหรอ เห็นๆอยู่ว่าเขากลัวจนเกือบจะบ้าไปแล้ว
เซิ่งอันหรานพยายามกลั้นหัวเราะ ไม่ให้อวี้หนานเฉิงเห็น
“โอเค มันน่าขยะแขยงมาก แล้วเราจะไปที่ไหนต่อดี”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อวี้หนานเฉิงก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “รถไฟเหาะ…”
ทันทีที่เสียงพูดของเขาหายไป ดวงตาของเซิ่งอันหรานก็เบิกกว้างขึ้น เธอยื่นมือออกไปแตะที่หน้าผากของเขา “วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับคุณหรือเปล่า ? ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยนั่งรถไฟเหาะกับอวี้หนานเฉิงมาก่อน ตอนนั้นที่เขาเดินลงมาจากรถไฟเหาะ เขาทั้งอาเจียนและยืนทรงตัวแทบจะไม่อยู่ ภาพฉากนั้นในชีวิตนี้เซิ่งอันหรานไม่อยากจะเห็นมันอีกแล้ว วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับอวี้หนานเฉิงนะ?
“คุณไม่ชอบเหรอ?”
อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว
“ฉันจะชอบหรือไม่ชอบมันก็ไม่ได้สำคัญอะไร แต่คุณเล่นรถไฟเหาะไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ? อย่าไปบังคับตัวเองเลย ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆที่สนุกเยอะแยะไปหมด เราไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะพาคุณไปทางโน้น คราวที่แล้วที่พวกเรามา เสี่ยวซิงซิงมายืนเข้าแถวนานมาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เล่น วันนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่ เราไปเล่นกันเถอะ !"
เซิ่งอันหรานพูดขึ้นพลางจับมือของอวี้หนานเฉิงและเดินออกไปอย่างมีความสุข
อวี้หนานเฉิงเดินตามเธอไป สายตาของเขาจับจ้องไปที่มือของเธอที่กำลังจับมือของตัวเองอยู่ สายตาที่เย็นชาค่อยๆดูอ่อนโยนขึ้น อีกทั้งรอยยิ้มที่มุมปากที่เขาไม่สามารถปกปิดไว้ได้
นอกจากเครื่องเล่นที่สูงและน่าตื่นเต้นแล้ว ในสวนสนุกยังมีเครื่องเล่นที่สนุกอีกมากมาย ในตอนท้าย ทั้งสองไปรับชมภาพยนตร์ 5 มิติ น้ำสาดลงมาใส่ใบหน้าของคนทั้งสอง ตอนที่เดินออกมา เซิ่งอันหรานถอนหายใจอย่างแรง
“ครั้งหน้าต้องเอาเสื้อกันฝนมาด้วยแล้วล่ะ”
เนื่องจากวันนี้เป็นวันทำงาน เครื่องเล่นในสวนสนุกไม่จำเป็นต้องใช้เวลาต่อแถวนานมาก และเครื่องเล่นที่ทั้งสองต้องการเล่นก็ได้เล่นทั้งหมดแล้ว ตอนที่พวกเขาออกมาจากสวนสนุก เพิ่งจะบ่ายสามโมงเอง ท้องฟ้าก็ยังสดใสอยู่
"กลับบ้านกันเถอะ "
เซิ่งอันหรานเหลือบมองดูเวลา "เวลานี้เหมาะที่จะกลับไปทานอาหารที่บ้าน"
อวี้หนานเฉิงหยุดเธอ "วันนี้ไม่ต้องกลับไปทานอาหารที่บ้านหรอก เราทานอาหารนอกบ้านกันเถอะ "
“ห๊า?” เซิ่งอันหรานมองเขาด้วยความสงสัย
เธอเดาว่าอาจเป็นเพราะช่วงนี้เขามัวแต่ยุ่งกับเรื่องการเข้าซื้อกิจการของเซิ่งซื่อกรุป ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก ส่วนทางด้านอวี๋ซินเองก็กัดไม่ปล่อย ทำสารพัดวิธี ฉะนั้นช่วงนี้เขาคงจะเครียดอยู่แน่ๆ ดังนั้นจึงอยากออกมาผ่อนคลายข้างนอก
สองสามวันนี้เธอก็ไม่มีธุระที่ไหน การออกมาข้างนอกเป็นเพื่อนกับเขามันเป็นสิ่งที่เธอสมควรทำ
เธอยังไม่รู้ตัว ดังนั้นเธอจึงถามขึ้นอีกครั้ง “คุณได้ยินจากไหน… เกาจ้านเป็นคนบอกคุณอีกแล้วใช่ไหม?”
เก้าจ้านนี้สมควรตายจริงๆ ปากอยู่ไม่ค่อยจะเป็นสุขเลย
"ผมเองก็คิดว่าแบบนี้มันดูไม่มีประโยชน์อะไรเลยจริงๆ"
อวี้หนานเฉิงดูจริงจัง
เซิ่งอันหรานอึ้งเล็กน้อย “ดังนั้นเรื่องไปดูบ้านผีสิงที่สวนสนุก ต่อแถวร้านอาหารที่โด่งดังทางอินเทอร์เน็ต เรื่องพวกนี้ใครเป็นคนแนะนำคุณ ?”
“โจวฟัง”
“ฉันคิดว่าคุณน่าจะต้องตัดเงินเดือนของเขาแล้วล่ะ ” เซิ่งอันหรานวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของโจวฟังอย่างไม่เกรงใจ
“ใครบอกว่าการออกเดตจะต้องทำแบบนี้เสมอไปล่ะ?คุณไม่ชอบบ้านผีสิง ส่วนฉันไม่ชอบมาทานอาหารในร้านแบบนี้ อย่างนั้นเราจะทำไปทำไม ? ”
“คุณไม่ชอบเหรอ ?” อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว
"รีบไปกันเถอะ"
เซิ่งอันหรานดึงเขายืนขึ้น พร้อมกับชักสีหน้า
“คุณคิดว่าฉันชอบแบบนี้เหรอ ? ฉันก็ดันให้ความร่วมมือกับคุณมาทั้งวัน ยังมาบอกอีกว่าทำเพราะฉัน ฉันรู้มาว่าแถวๆนี้มีร้านอาหารจีนอยู่ และคนก็ไม่เยอะมาก แต่รสชาติดีเลยทีเดียว พวกเราลองเดินไปดูกันเถอะ "
หลังจากที่ทำความเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เซิ่งอันหรานก็รีบดึงแขนของอวี้หนานเฉิง เข้าไปยังร้านเนื้อย่างที่อยู่ถัดไปไม่ไกล ในร้านคละคลุ้งไปด้วยควันไฟและเสียงของเนื้อที่กระทบซ่าๆกับเตาไฟ
“ ฉันรู้สึกตกใจแทบแย่ วันนี้คุณทำตัวแปลกๆมาทั้งวันเลย ทำอะไรธรรมดาๆเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาทำไม่เป็นหรือยังไง คุณชอบทำอะไรที่มักจะบีบหัวใจฉันอยู่เรื่อยเลย !”
เซิ่งอันหรานบ่นไปพลางย่างเนื้อไปพลาง เธอเล่าถึงความอึดอัดใจที่เธอเจอมาทั้งวันให้กับอวี้หนาเฉิงฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
อวี้หนานเฉิงรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย หลังจากวางแผนมาเป็นเวลานาน ในที่สุดกลับโดนเธอเย้ยหยัน
เขารู้สึกโกรธเคืองเกี่ยวกับความโชคร้ายที่เขาต้องเจอมาตลอดทั้งวัน และตัดสินใจจะหักโบนัสสิ้นปีของโจวฟัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน